ความหมาย “ปวารณา”
วันที่ 28 ตุลาคม 2547 เวลา 5:00 น. ความยาว 17.25 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมพระ “วันออกพรรษา” ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

ความหมาย “ปวารณา”

 

         คำว่า “ปวารณา” พระจะไม่ทราบก็มีนะ เวลานี้มันจะเป็นเพียงพิธีกิริยาออกมาจากความไม่มีธรรมในใจ ไม่มีวินัยในใจแล้วนะ คำว่า สงฺฆมฺ ภนฺเต ปวาเรมิ คือปวารณาตน เปิดโอกาสตนแก่สงฆ์ทั้งหลายที่นั่งรวมกันอยู่นี้ คือเปิดเผยเปิดโอกาสให้กัน แนะนำตักเตือนสั่งสอนได้ ผิดพลาดประการใด ได้เห็นก็ดี กิริยาอาการที่ไม่ถูกต้องนั้น ได้ยินก็ดี กิริยาแห่งการแสดงหรือการพูดออกมา หรือได้สงสัยก็ดี เหล่านี้ ให้ตักเตือนสั่งสอน เมื่อทราบแล้วจะได้ปฏิบัติแก้ไขดัดแปลงต่อไป ความหมายว่าอย่างนั้น คำปวารณาจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เปิดโอกาสไม่ให้มีทิฐิมานะต่อกัน ไม่มีคำว่าชาติชั้นวรรณะ เป็นสังฆะ หรือเป็นพระสงฆ์ศากยบุตรอันเดียวกัน เปิดโอกาสให้กัน

เพราะความรู้เราลำพังคนเดียว ไม่สามารถที่จะรู้รอบได้ในกิริยาความเคลื่อนไหวของตน จึงต้องได้อาศัยผู้อื่นคอยแนะนำตักเตือนสั่งสอน นับแต่ครูบาอาจารย์ลงมาถึงพระเพื่อนฝูงด้วยกัน คอยแนะนำตักเตือนสั่งสอนกัน เปิดโอกาสให้กันเพื่ออรรถเพื่อธรรม ไม่ได้เพื่อทิฐิมานะฐานะสูงต่ำอะไรเลย สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ธรรม ความเป็นธรรมก็คือความเปิดโอกาสเพื่ออรรถเพื่อธรรมคือความถูกต้องดีงามแก่ตน เมื่อท่านผู้อื่นผู้ใดได้เห็นความไม่ดีไม่งามของเราที่แสดงออก ด้วยการได้เห็นได้ยินได้ฟัง ด้วยรังเกียจสงสัยก็ดีนั้นจะได้เตือนเรา ก็จะได้รับไว้ประพฤติปฏิบัติ

เรื่องทิฐิมานะนั้นเป็นเรื่องของกิเลส การเปิดโอกาสตักเตือนซึ่งกันและกันนั้นเป็นเรื่องของธรรม เพราะเราอยู่ด้วยกันหลายคน อาจมีความผิดพลาด จึงต้องเปิดโอกาสให้แนะนำหรือตักเตือนซึ่งกันและกันได้ ให้พากันเข้าใจตามนี้ นี่ละพระโอวาทของพระพุทธเจ้า ถ้าต่างคนต่างปฏิบัติตามพระโอวาทนี้อยู่ เราทุกคนเท่ากับศาสดาประทับอยู่บนศีรษะของเรา คือพระธรรมพระวินัยซึ่งเป็นองค์แทนของศาสดา เราปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยอยู่นี้เท่ากับเราเทิดทูนศาสดา ประหนึ่งพระองค์ประทับนั่งอยู่บนศีรษะคือหัวใจของเราทุกคนๆ นี่เป็นธรรมสดๆ ร้อนๆ ธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นความครึความล้าสมัยดังกิเลสที่มันล้ำยุคล้ำสมัย เหยียบย่ำทำลายศาสนาคือธรรมวินัยอยู่เวลานี้ดาษดื่นจนเกิดความสลดสังเวช นี่ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย แต่ดาษดื่นในศาสนาทุกวันนี้ มีแต่ของปลอมเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มวัดเต็มวา จึงน่าสลดสังเวช

พวกเราทั้งหลายผู้มุ่งอรรถมุ่งธรรม อย่าให้มีกิริยาอาการอย่างนั้นออกมาทางกายทางใจทางวาจาทุกอย่างเป็นอันขาด นี่เรียกว่าเทิดทูนพระศาสดาคือหลักธรรมหลักวินัย ด้วยอาการแสดงออกของตนทุกอย่าง ให้พากันจำเอานะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้น

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก