ความสัตย์ความจริงเหนือชีวิตจิตใจ
วันที่ 22 เมษายน 2550 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส

ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๐

ความสัตย์ความจริงเหนือชีวิตจิตใจ

         มาคราวนี้ไม่ได้เลี้ยงสัตว์นะ เลี้ยงแต่ช้างหนเดียว คราวนี้เราไปเลี้ยงปลาที่วัดหงส์ อย่างน้อยให้ได้สักสองหน เพราะไปที่ไหนทำอย่างนั้น ไปที่ไหนเลี้ยงสัตว์แจกทานไปหมด มาคราวนี้ไม่ค่อยได้ พึ่งได้หนเดียวที่อยุธยาเลี้ยงช้าง แล้ววันนี้ก็จะไปวัดหงส์เท่านั้นแหละ เวลาจวนเข้ามาๆ เราไม่ค่อยมีเวลาว่าง งานนั้นงานนี้มัดเข้าๆ เลยตกลงจะไปไหนไม่ได้ละ

         ช่วยโลกนี่ช่วยจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดานะเราช่วยโลก สมบูรณ์แบบเต็มกำลังของเราเลยละ ปัจจัยมามากน้อยนี้ออกหมดเลย ไม่มี กำไม่มี แบตลอดเลย ได้มาเท่าไรๆ คือเราเล็งไว้แล้วๆ ที่จำเป็นๆๆ เข้ามาติดต่อๆ กับเรา ที่สร้างแล้วก็มี กำลังเริ่มสร้างก็มี กำลังสร้างทุกแห่งทุกหน แล้วจ่ายเป็นงวดๆๆ หลังนี้จ่ายงวดที่เท่านั้น หลังนั้นจ่ายงวดเท่านั้นรอบนะวัดป่าบ้านตาด ไม่ว่าที่ไหนอำเภอไหนจังหวัดไหนทั่วไปหมดละเราก็จ่ายเป็นงวดๆ ๆ ไปเลย

เพราะฉะนั้นมันถึงไม่มีเงิน เพราะเราไม่ได้รับมาเพื่อให้มั่งให้มี รับมาเพื่อสงเคราะห์โลก ได้มาเท่าไรทุ่มเลยๆ หมดเลย นี่ก็ทุ่มเลยละ ทำให้พอ เราจะทำให้พอ ชาติที่เป็นชาติที่เราภูมิใจสุดขีดในหัวใจของเรา เราพูดจริงๆ เรียกว่าชาตินี้เป็นชาติที่เราภูมิใจสุดขีด ไม่ยิ่งหย่อนกว่านั้น เอามาเพิ่มอีกก็ไม่ได้ ลดลงก็ไม่ได้ พอ พอแบบอัศจรรย์ ไม่เอาอะไรอีกแล้ว ช่วยเต็มกำลังความสามารถช่วยโลก มีเท่าไรออกหมดเลย

เราไม่เหมือนใคร ความสัตย์ความจริงถือเป็นชีวิตจิตใจ เหนือชีวิตจิตใจ ถ้าลงคำสัตย์ได้ตั้งกึ๊กตรงไหนความตายนี้มาทีหลังนะ ความจริงจังให้เป็นไปตามอรรถตามธรรมมาเป็นอันดับหนึ่งเลย ช่วยเต็มกำลัง เอาตายก็ตาย จะให้คำสัตย์ขาดจากนี้ไม่ได้ เป็นอย่างนั้น นี่เราก็ได้ช่วยเต็มกำลังความสามารถทุกอย่าง ว่าอย่างนั้นเถอะ โดยที่เราไม่เอาอะไรเลย ตั้งหน้าตั้งตาช่วยอย่างนี้ละช่วยตลอด ไม่เอา มีเท่าไรๆ ทุ่มลงหมดๆ พอถึงกาลเวลาแล้วเหรอดีดผึงเลย ไม่ยาก เราพูดจริงๆ เราตายไม่ยาก บอกให้ชัดเจนพี่น้องทั้งหลายทราบ

นี่ละผลแห่งการปฏิบัติธรรม เห็นประจักษ์ ธรรมดาโลกทั้งหลาย สัตว์อยู่ในป่าในเขาเขาไปเรียนวิชาตายเมื่อไร เขากลัวกันทุกคน วิชาตายไม่ต้องเรียนกลัวกันทุกคนๆ นี่เราเรียนให้มันถึงขีดถึงแดนวิชาตายแล้วไม่กลัว หมด ความเป็นอยู่ความตายไปมีน้ำหนักเท่ากันเท่านั้น เพราะเหตุไร พอทุกอย่างแล้ว แล้วจะไปดีดไปดิ้นหาอะไรอีก นี้เราก็ทำอย่างนั้น บอกว่าเราทำพอทุกอย่าง ไม่มีอะไรบกพร่องในหัวใจ โลกที่ควรจะได้สงเคราะห์มากน้อยเราทุ่มลงดังที่เห็นนี่ละ ช่วยเต็มกำลัง ถึงกาลเวลาแล้วก็ไปเลย

นี่ละที่เราเคยพูดเสมอว่าประวัติของพระอรหันต์ท่านนิพพานไม่ค่อยมีนะ มีก็มีเฉพาะผู้มีปรากฏชื่อลือนามโด่งดัง เช่น พระสารีบุตร พระโมคคัลลาน์ พระอานนท์ พระกัสสปะ อย่างนี้ ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในวงพุทธศาสนาในครั้งพุทธกาล นอกนั้นท่านเงียบๆ ทั้งๆ ที่ท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านตายแบบเงียบๆ คือท่านไม่ตื่นเต้นท่านเรียนจบ เรื่องความเกิดความตายท่านเรียนจบแล้วท่านไม่ตื่นเต้น ถึงกาลเวลา เหอ จะไปไม่รอดแล้วเหรอ ซุกหัวเข้าร่มไม้ร่มไหนพับๆ แล้วดีดผึงไปเลยๆ

เพราะฉะนั้นพระอรหันต์จึงไม่ค่อยมีประวัติ ไม่ทราบท่าน ท่านไปที่ไหนพอสมควรแก่กาลเวลาชีวิตของท่านแล้ว ท่านเข้าซุกหัวในร่มไม้ร่มไหนถ้ำใดดีดผึงไปเลย เพราะฉะนั้นประวัติของพระอรหันต์จึงไม่ค่อยมี ออกมากระจายไม่ค่อยมี เราก็ได้ค้นคว้าพอแล้วเรื่องตำรับตำราประวัติของพระอรหันต์ไม่ค่อยมี เพราะท่านตายง่าย ไปที่ไหนๆ พอถึงกาลเวลาแล้วปั๊บไปเลยๆ

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก