เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
ภาวนาฆ่าภพชาติของตัวเอง
คุณบุษราเป็นอย่างไรจิตใจ (สว่างค่ะ) เอาธรรม พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นธรรม เป็นของเลิศของประเสริฐ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นศาสดาขึ้นเพราะธรรม บทใดก็ตามให้เอามากำหนดไว้ อย่าคิดกังวลนู้นนี้ไม่เกิดประโยชน์นะ สังขารคือความปรุงของจิต มันจะคิดไม่ถอย คิดปรุงตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับ เอาหลับน่ะเป็นเครื่องระงับดับเครื่องปรุงคือความคิด มันคิดมันปรุงของมันตลอด มีเครื่องกำกับ มีงานให้มันทำ งานก็ต้องเป็นงานที่เป็นประโยชน์ เรียกว่างานคือธรรม ให้มันติดอยู่ที่ตรงนั้น เช่นอย่างพุทโธก็ให้มันอยู่กับพุทโธ มีสติอยู่กับพุทโธ ไม่ใช่สักแต่ว่าพุทโธเฉยๆ ธรรมบทใดก็ตามถ้าสติติดอยู่นั้นมีค่าด้วยกัน ถ้าสติไม่มีแล้วไม่เป็นท่า สติสำคัญมากทีเดียว ท่านจึงแสดงครอบไว้เลยว่า สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา สติจำต้องปรารถนาในที่ทั้งปวง ไม่เว้นเลยที่ไม่มีสติเข้าไปควบคุม ต้องมีสติ
ฝึกหัดจิตนี้ยากนะ ยากที่สุด กิเลสตัวเป็นภัยต่อจิตใจ การฝึกหัดใจคือเอาธรรมเข้าไปตีกิเลสตัวเป็นข้าศึก กิเลสสงบลงด้วยอำนาจของธรรม ธรรมเข้าสู่ใจแล้วจิตใจก็สบายๆ จิตใจเราต้องมีที่ยึดที่เกาะ ถ้ายึดในทางที่ถูกที่ดีแล้วดี ส่วนมากมันยึดแต่ของเหลวไหลโลเลเสีย ที่เป็นข้าศึกต่อตัวเองละมากต่อมาก ไม่ได้คิดเป็นอรรถเป็นธรรมพอจะชโลมจิตใจให้เบิกบาน เอาภาวนานี่ละฆ่ากิเลส ฆ่าภพชาติของตัวเอง อันนี้หนักมาก ผู้ที่พุ่งให้ถึงนิพพานความเพียรต้องหนัก เพราะกิเลสมันหนาทำจิตใจให้หมุนอยู่ตลอด ธรรมะเข้าเป็นเบรกห้ามล้อ ให้มันหยุดด้วยเราบริกรรมพุทโธ หรือธัมโม สังโฆ ด้วยความมีสติ ให้มันทำงานหน้าที่เดียวมันก็เย็นขึ้นมา มีเท่านั้นละวันนี้
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|