เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๒
ทุกข์ด้วยการภาวนา
วันหนึ่งๆ เราก็ไม่ได้อยู่นะ หากมีมีในหัวใจ ทุกข์ก็ทุกข์เพราะหัวใจสงสารโลก สงเคราะห์โลก เมื่อวานเอาของไปโรงพยาบาลโขงหลงหรือไง เต็มรถๆ ไปโรงพยาบาลวันละโรงๆๆ พร้อมกับมอบปัจจัยให้สองหมื่นๆ ทุกโรง อาทิตย์หนึ่งดูเหมือนห้าโรง จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เว้นวันเสาร์ วันอาทิตย์ จ่ายไปเรื่อยๆๆ เราพอใจในการจ่าย
เจ้าของหมดทุกอย่างแล้วพูดให้มันชัดเสีย พี่น้องทั้งหลายจะว่าเราโกหก เราปฏิบัติมาเพื่อโกหกตัวเองหรือโกหกพี่น้องทั้งหลายก็ให้ฟังเอา เราปฏิบัติแทบล้มแทบตายมา ไม่ได้มองดูหน้าใครละอยู่ในป่าในเขา มันจะตายอยู่ภูเขา ข้าวก็ไม่ได้กิน เวลาทุกข์ทุกข์มากนะ การประกอบความพากเพียรทุกข์จริงๆ ไม่ใช่ธรรมดา ออกมาได้นำธรรมะที่ออกจากกองทุกข์มาแจกจ่ายพี่น้องทั้งหลาย ให้ถือเป็นคติ อย่ากินแล้วนอนกอนแล้วนินใช้ไม่ได้นะ
ทุกข์ทั้งหลายในโลกนี้ใครก็ว่าการงานอะไรๆ ทุกข์ บทเวลาทุกข์จริงๆ ทุกข์ด้วยการภาวนานะ อันนี้บังคับกิเลสให้อยู่ในเงื้อมมือของธรรม ทุกข์มากทีเดียว สุดท้ายก็มาม้วนเสื่อกันลงที่จุดทุกข์มากๆ นั่นละ กิเลสกับธรรมฟัดกัน เวลาธรรมชนะกิเลสม้วนเสื่อเลย พูดจริงๆ ไม่มี ในหัวใจดวงนี้หมดโดยสิ้นเชิงเรื่องกิเลส จะดุด่าว่ากล่าวแสดงกิริยาท่าทางอะไรสักแต่ว่ากิริยา จิตไม่หวั่น จิตคงเส้นคงวาหนาแน่น เป็นธรรมธาตุเรียบร้อยแล้วจึงได้มาสอนพี่น้องทั้งหลาย
เพราะทำอะไรทำจริงมากเรา ไม่เหยาะๆ แหยะๆ ถ้าลงได้ปักใจลงตรงไหนแล้วขาดสะบั้นไปเลยๆ ทุกข์เพราะภาวนานี่ทุกข์มากที่สุด ทุกข์ในการภาวนาส่วนมากไปหนักอยู่ที่อดอาหาร คือถ้าอดอาหารสติดีติดแนบกันไปเลย อดไปหลายวันเท่าไรสติยิ่งติดกันตลอดสาย ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งหลับไม่มีเผลอเลย เวลาฉันลงไปนี้เหมือนรถบรรทุกของหนักมันอืดอาดๆ ก็ต้องกลับมาอีกแหละ รถวิ่งไม่คล่องมันก็ไม่ดี อีโหลกโขลกเขลกๆ แล้วกลับมาอีก เอาจนจะตาย
เราทุกข์เพราะอดอาหารนี่ทุกข์มาก จนกระทั่งหยุด หมด เวทีแตกกระจาย กิเลสขาดสะบั้นไปแล้ว ลงเวทีมาแล้วท้องยังถ่ายตลอดเลย เพราะไม่ฉันจังหัน มีแต่ไม่ฉัน ไม่ฉันเท่าไรภาวนามันยิ่งดีๆๆ น่ะซี มันก็เพลินในธรรม เราไม่ได้เพลินในอาหารการกิน นี่เพียงบรรเทาเอาไว้เท่านั้นละ เวลามันจะตายจริงๆ ก็บรรเทาเสียบ้าง ถ้าพอทนได้ทีนี้ก็ทนไปๆ อย่างนั้นละ อยู่ในป่าในเขานู่น ลงมาหมู่บ้านเขาไม่ถึงบ้าน พักกลางทาง คือมันเหนื่อย มาไม่ไหว เวลาฉันเสร็จแล้วล้างบาตรล้างอะไรที่ลานหิน ล้างบาตรเช็ดบาตร ตากผ้าอาบน้ำเรียบร้อยแห้งแล้วขึ้นเขาๆ เวลาไปเหมือนม้าแข่ง เวลาลงมาอีโหลกโขลกเขลกคอยแต่จะหกจะล้ม เวลาฉันจังหันแล้วดีดผึงเลย
นั่นละทุกข์ขนาดนั้นละ เพราะนี้มันจริงจังทุกอย่างทำอะไร ไม่เหลาะแหละ พูดตรงๆ นิสัยเป็นอย่างนั้น ถ้าลงได้ทำแล้วเอาจริงๆ เลย ไม่มีคำว่าเหยาะๆ แหยะๆ มองเห็นพระเห็นเณรเหยาะๆ แหยะๆ แล้วดูไม่ได้นะเรา ร่างกายเราอ่อนแต่ใจมันไม่อ่อนซี มันดีดผึงๆ เลย เห็นอะไรปั๊บจับปุ๊บๆ พิจารณาๆ ปั๊บวาง ปล่อยปั๊บๆ เรื่อยเลย นั่นเวลาเป็นธรรมแล้วอะไรเป็นธรรมไปหมดเลย เวลาเป็นกิเลสอะไรเป็นกิเลสไปหมด เวลาจิตเป็นธรรมมองดูอะไรปั๊บเป็นธรรมไปเรื่อยๆ นะ
วันนี้ไม่ไปไหนละ ไปกราบพ่อแม่ครูจารย์เรา พ่อใหญ่เราอยู่วัดสุทธาวาส นั่นละพ่อใหญ่เรา ว่าจะไปที่นั่นดูดเลยนะ ไม่มีจืดจาง เหมือนลูกไปเยี่ยมพ่อ หลวงปู่มั่นนี่บุญมหาคุณล้นกระหม่อมเราหมดเลย เรียกว่าหมดทุกเปอร์เซ็นต์เรามอบถวายท่าน ไม่มีอะไรเหลืออยู่เพื่อความตายสำหรับตัวเองไม่มี ท่านไม่นอนเราไม่นอน เพราะการรักษาท่าน จะว่าเราอวดเราก็ไม่อวด มันหากเป็นในจิต พระเณรท่านก็รุมอยู่นอกมุ้ง แต่เราอยู่ในมุ้งคนเดียวกับท่าน คือมันไม่สนิทใจ จะโง่จะฉลาดก็ขอให้เราทุ่มลงไปเลยสุดหัวใจเรา เราพอใจ พระเณรท่านก็ดีทุกองค์ล้อมอยู่นอกมุ้งเต็มอยู่ แต่เวลาอยู่ในมุ้งอยู่กับท่านสององค์เท่านั้น คือเอาตายเข้าว่าเลยกับพ่อแม่ครูจารย์มั่น สุดขนาดนั้นละ สุดยอดเคารพรักทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดเลย
เพราะฉะนั้นพอว่าไปกราบพ่อแม่ครูจารย์สุทธาวาสดูดเลยนะ มันเป็น ไปที่ไหนกำหนดจิตดูมันจืดๆ ชืดๆ ไม่ไป จืดชืดไม่ไป ปั๊บจากนี้ก็สุทธาวาส สุทธาวาสกลับมานี้เท่านั้น เครื่องดึงดูดอยู่ที่นั่น โถ พ่อแม่ครูจารย์มั่นนี่สุดยอดนะการสอน ไม่มีใครจะสอนละเอียดลออยิ่งกว่าพ่อแม่ครูจารย์มั่น สับเขกก็อยู่นั้นหมดเลย เอาละ ให้พร
รับชมรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และทางสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
พร้อมเครือข่ายทั่วประเทศ
|