ดีชั่วอยู่กับตัวของเรา
วันที่ 30 ธันวาคม 2550 เวลา 16:00 น. ความยาว 29.37 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   ข้อมูลเสียงแบบ(MP3)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อเย็นวันที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐

ดีชั่วอยู่กับตัวของเรา

          นี่ก็เพิ่งกลับมาเมื่อ ๒-๓ วันจากกรุงเทพ ไปกรุงเทพดูเหมือน ๒๐ วัน (ช่วงหลวงตาไม่ได้อยู่อุดรนี้  เห็นหลวงตาจากทีวีอย่างเดียว) ไปจากนี้ก็ไปเรื่อย ไปกรุงเทพ ไปก็ไปธุระพอเสร็จแล้วก็รีบกลับ ไปกรุงเทพวันที่ ๒๕ กลับวันที่ ๒๕ แน่ะอย่างนั้น พอเสร็จแล้วรีบกลับ เพราะงานเรามีมาก ไปกรุงเทพก็ไม่ได้ว่างนะ เทศน์ทุกคืน ออกวิทยุกระจายทั่วประเทศไทยทุกคืน ที่สวนแสงธรรม พอค่ำนี้ มาแน่นหมดเลย เทศน์ออกทางวิทยุทุกคืนๆ เทศน์ของเรา ๑๐๔-๑๐๕ แห่งทั่วประเทศ

(ได้ดูหลวงตาทางทีวีทุกวัน) ทางทีวีน่าจะได้ดูทุกวัน ดูเหมือนออกทุกวันเลย (เห็นลูกศิษย์ที่อุดรหลายคนยังบอกว่าหลวงตาไปที่นู้นจะเหนื่อย เหนื่อยมากกว่าตอนอยู่ที่อุดรเยอะ ต้องเดินทางครับ) ก็พอๆ กันแหละ  เพราะมันเหนื่อยอยู่แล้ว คนแก่ยืน เดิน นั่ง  นอนกับเหนื่อยเท่านั้นแหละ  ไปอยู่ที่ไหนก็พอๆ กันแหละคนเดียว เลยไม่อยากตำหนิอะไรลงคอแหละ ตำหนิเจ้าของว่าคนแก่ อยู่ไหนทุกข์ตลอด เหนื่อยตลอด

นี่ก็ขึ้นปีใหม่แล้ว คนเป็นคนเก่าจะปรับตัวอย่างไรให้เข้ากับปีใหม่ เราตื่นกันแต่ปีใหม่ ปีเก่า มืดกับแจ้งไม่ได้นะ ตัวเองต้องแก้ไขตัวเอง คนเราดีเพราะการประพฤติตัวแก้ไขตัวเอง ไม่ได้ดีเพราะมืดกับแจ้งนะ ดีชั่วอยู่กับตัวของเรา ให้พากันพิจารณา พระถ้าไม่เป็นพระบ้าแล้ว ท่านไม่ตื่นปีใหม่ปีเก่า ถ้าพระบ้าแล้วไม่ว่าพระเขาพระเราตื่นได้ทั้งนั้น.ถ้าพระของพระพุทธเจ้าแล้วไม่ตื่น ตื่นตั้งแต่ความชั่วความดีที่จะติดตัวตลอดเวลา แก้อยู่ตรงนี้ๆ

ปีใหม่อย่าพากันมัวแต่เพลิดแต่เพลิน หาความดีงามใส่ตนถึงถูกต้อง เพื่อเพลิดเพื่อเพลินอยู่เฉยๆ ไม่มีปีใหม่ปีเก่ามันก็เพลินได้ คนเราเพลินได้ตลอดไป  ถ้าไม่มีธรรมเป็นเครื่องหักห้ามแล้วเพลินตลอด จนกระทั่งจะเข้าโลงแล้วยังเพลินเข้าไป เจ้าของขอออกมาเต้นรำเสียก่อนแล้วค่อยเข้าโลง เขาทำโลงเสร็จแล้ว บอกโลงเสร็จแล้วเดี๋ยวเต้นรำยังไม่เสร็จ เข้าใจไหมล่ะ นี่ละความเพลิน มันไม่มีวัยนะมันตื่นตลอดเวลา ถ้าเป็นธรรมแล้วรู้ตัวปั๊บ กาลเวลาเป็นยังไง เราเกิดมานี้เพื่ออะไร เพื่อความดีงาม แก้ไขดัดแปลง ตรงไหนไม่ดีให้แก้ไขตรงนั้นๆ จะดีที่เรา ไม่ได้ดีที่มืดกับแจ้งนะ ดีที่ตัวของเรา ชั่วที่ตัวของเรา ต้องดัดแปลงตัวเอง

เช่นว่าปีใหม่เป็นเครื่องเตือน เอ้า สมมุติว่าผ่านมาแล้วเมื่อวานเป็นปีเก่า เอ้าวันนี้เป็นปีใหม่ พลิกใหม่ ที่บกพร่องตรงไหนให้แก้ไขดัดแปลงเสีย อย่างนั้นต่างหาก จึงเรียกว่าปีใหม่เป็นมงคล ถ้าวันไหนก็วันเก่า ปีใหม่คือปีเก่า ก็คนๆ เก่าเลอะเทอะอันเก่านั้นแหละ พากันจำเอานะที่พูดอย่างนี้ เหนื่อยเทศน์ไปเทศน์มา ลมออกหูหูอื้อ พอเทศน์ไปๆ หูอื้อ พอพูดปั๊บดังลั่น เป็นอย่างนั้น แก่แล้วอายุกำลังก้าวเข้า ๙๕ ปีแล้ว  ยังอีกกี่วันมันจะตาย เข้าใจไหมล่ะ อีกกี่วันจะตาย

โลกมันเดือดร้อนนะ พอว่าความตายไม่อยากตายก็ดิ้น เฒ่าแก่ขนาดไหนก็ยังไม่อยากตาย เขาทำโลง โลงเสร็จแล้วยังไม่อยากตาย เรื่องกิเลสมันไม่ยอมอ่อนละ เพลินตลอด อยากอยู่ไปตลอดอยู่ไปก็คนเก่านั่นแหละ ถ้าเป็นธรรมสกัดลัดกั้นได้ปุ๊บๆ รู้ตัวตั้งแต่ยังไม่ตาย รีบดัดแปลงแก้ไขตัวเองให้เหมาะสม นั่นถูกต้อง (หลวงตายังดูแข็งแรง) โอ๊ย แข็งแรงไปอย่างนั้นละ ไปที่ไหนแข็งแรง มันแข็งแรงแบบอันธพาล ไปไหนเตะดะไปเลย มันไม่ได้เดินแบบธรรมดาเตะดะไปเลย เฒ่าแก่เท่าไรยิ่งเป็นอันธพาลใหญ่โต ไปนี้เตะนั้น แล้วเตะนี้เรื่อย มันเฒ่าแก่อันธพาลก็แก่ไปด้วย เป็นอย่างนั้นละ วันนี้ก็วันเก่านั่นละ วันปีใหม่ดูเหมือนเปิด ๔ วันมั้ง ให้สนุกสนานกัน ๔ วัน

(ทราบว่าปีใหม่นี้ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์จะเสด็จ) ได้ยินแว่วๆ นะ ถ้าได้ยินแล้วค่อนข้างจะแน่ละ เพราะท่านเสด็จมาบ่อย มาตำหนัก มาถึงตอนบ่าย พอมาถึงปั๊บท่านก็เสด็จเข้าเยี่ยม พอค่ำเข้ามาตอนเช้าจังหันท่านก็มาคุยกัน ๒ หน พอตอนบ่ายท่านเข้าไปพบกับเรา คุยกับเรา พอตกเช้ามาท่านก็มารอ เราก็มาถึง พอฉันเสร็จฟังเทศนาว่าการแล้วท่านก็เสด็จกลับฟ้าหญิง ท่านถวายตัวเป็นลูกบุญธรรมมาหลายปีแล้วแหละ  เวลาเราพูดกับท่านเราก็พูดแบบพ่อกับลูกเลย ท่านพูดกับเราก็แบบเดียวกัน แบบพ่อกับลูก ท่านลงเรา ท่านลงเต็มที่กับเรา ท่านฟังเทศน์เราจะไม่น้อยกว่า ๒๐ กัณฑ์ ตามที่ต่างๆ ท่านฟังหมด เทศน์สนามหลวงท่านก็ไปฟัง เทศน์ในงานต่างๆ ท่านเสด็จมาท่านก็ไปฟังด้วย เฉพาะอยู่ในศาลาได้ฟังทุกเช้า เป็นอย่างนั้น

ให้พากันสงบใจบ้างนะลูกหลาน พี่น้องชาวไทยเราเป็นลูกชาวพุทธ อย่าตื่นเต้นไปในทางไม่เป็นประโยชน์อะไรนัก พุทธศาสนาเป็นธรรมชาติที่เลิศเลอ สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลิศเลอ หากตื่นกับเขาไม่มีวันจืดจาง อิ่มพอไม่มี ให้สะกดหรือบังคับจิตใจเราให้เข้าสู่ศีลสู่ธรรม จิตที่เพลิดเพลินรื่นเริงบันเทิงเป็นบ้า กับจิตที่สงบร่มเย็นอยู่สบายๆ ต่างกันมากนะ จิตที่ดิ้นรนวุ่นวายเช่นอย่างพวกกินเหล้าเมาสุรา ดีดดิ้น ขับลำทำเพลงเป็นบ้าไปแล้วนั้น พอหายเมาแล้วเท่านั้นสลบไปเลย พวกกินเหล้านะ ผู้มีศีลมีธรรมท่านสงบใจท่านไม่เป็นบ้า ท่านสบายตลอด ผิดกันนะ

พอพูดอย่างนี้ เราก็พอระลึกได้ ตั้งแต่เกิดมาในชาตินี้ได้เมาเหล้ากับเขาหนหนึ่ง เหตุที่จะเมาไม่ใช่เป็นเจตนาความคึกความคะนองของเจ้าของนะ ไปกับเพื่อนที่อำเภอภูเวียง เขามาเชิญไปกินเลี้ยง เราก็ไม่รู้ว่ากินเลี้ยงอะไร ก็นึกว่ากินเลี้ยงธรรมดา ที่ไหนได้ขวดเหล้าเต็มไปหมดเลย โอ๊ะ อะไรนี่ น้ำอ้อยนา มันโกหกแล้ว น้ำอ้อยนายังไง กินแล้วก็รู้เอง ว่างั้น พอว่างั้นแล้วก็มากรอกเลย เราก็ไม่เคยกินเหล้านี่ ก็ไปเจอเอาจังๆ อย่างนั้น คนนั้นกรอกคนนี้กรอกกินแล้วลำกับที่เลย จากนั้นแล้วไปบ้านเขาไม่ได้เลย บ้านเพื่อนอีกคนหนึ่ง ทีแรกก็อยู่บ้านเพื่อนเขาเชิญไปบ้านเพื่อนนั้น ไปเมาเหล้า ลำเป็นบ้าอยู่นั้นแล้ว  ตั้งแต่นั้นมาเข้าแถวนั้นไม่ได้เลย อาย มีหนเดียว เมาเหล้า ไม่ได้เมาเหล้าด้วยเจตนา เมาด้วยแบบบังเอิญอย่างนี้แหละ มีเท่านั้นแหละพอพูดได้

โอ๊ เมาเหล้านี่ เวลามันสร่างแล้วมันปวดหัวนะ พอจับได้เท่านั้นละ เพราะเมาเหล้าหนเดียว พอสร่างจากเหล้าแล้วปวดหัวเป็นกำลัง โอ๊ เป็นอย่างนี้เอง ก็ดีละพอได้พูดกับเขา ไม่เช่นนั้นก็ไม่ทราบว่าเมาเหล้าเป็นยังไง เราก็ได้เมาเหล้าเสียหนหนึ่ง พอเมาเหล้าเสร็จแล้ว โอ๊ย ลำเป็นบ้าไปเลยนะ มันไม่อายนะ คนเมาเหล้านี่ไม่อาย โม้ก็เก่ง คุยก็เก่ง ลำก็เก่ง เขาเคยได้ยินเสียงเราลำเมื่อไร พอเมาเหล้าวันนั้นแล้วเขาได้ยินเสียงลำแหละ ซัดเสีย นี่ก็หนหนึ่งพอได้พูด ได้เมาเหล้าหนเดียว

(บางครั้งหลายคนจะบอกว่า เหล้านี้เป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย ถ้าใครได้ดื่มได้กินไปแล้ว นิสัยจะเปลี่ยนไปจากคนเดิมเลย เป็นน้ำเปลี่ยนนิสัย เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองไปหลากหลาย) เราเมาหนเดียวเท่านั้น ทำให้รู้สึกตัวอยากโม้ อยากคุย เอ๊ ธรรมดาเราก็ไม่เคยเป็น อยากโม้อยากคุย ที่ลำนั้นก็คือมันสนุก มันก็ลำของมันไป ลำในวงเหล้าเมาเหล้า ก็เท่านั้นแหละ เหล้าเมาหนเดียว พอพูดได้ จากนั้นมาก็ไม่เคยมี

เพราะนิสัยเราก็ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเหล้าแต่ไหนแต่ไรมา ก็เพิ่งไปเจอเอาหนเดียวพอพูดได้บ้าง เมาเหล้านี้มันก็ยังเป็นเวล่ำเวลา แต่เมากิเลสตัณหาไม่มีเวล่ำเวลา ไม่มีวัย เป็นบ้าไปจนกระทั่งวันตาย เมากิเลสตัณหา ส่วนเมาเหล้าธรรมดายังมีเวลา เวลาเมาก็เมา เวลาดีก็ดี เวลาอายก็อาย แต่เมากิเลสตัณหาไม่อายเรื่อยไปเลย เป็นบ้าตลอดวันตาย

มาเยี่ยมนี้ก็มาเป็นปีใหม่ปีเก่าหรือนี่ หรือมีอะไรบ้างล่ะ ที่มานี่ ก็มีเท่านั้นแหละไม่พูดอะไรมากนักละ วันนี้แขกไม่ค่อยขาด เต็ม ไหลเข้าไหลออกตั้งแต่เช้าจนค่ำ แล้ววันพรุ่งนี้จะต้องไปฉันศาลาใหญ่ เพราะวันพรุ่งนี้คนจะมาก ไปฉันที่ศาลาใหญ่

ไปกรุงเทพวันที่ ๕ กลับวันที่ ๒๕ ไป ๒๐ วัน เทศน์ ๓๐ กว่าหนฟังซิน่ะ ไปกรุงเทพพวกลูกศิษย์เขาจดมา เราไม่เคยจดจำละ ไปกรุงเทพ ๒๑ วัน ทั้งวันไปวันกลับ ไปวันที่ ๕ กลับวันที่ ๒๕ เทศน์ ๓๓-๓๔ กัณฑ์ เทศน์ในงานต่างๆ ก็เทศน์ เทศน์ในสถานที่พักก็เทศน์ มาทุกคืนเต็มหมด ไปแล้วก็เทศน์ๆ นี้ออกวิทยุทั่วประเทศไทยทุกวัน แล้วมีอะไรบ้าง เสร็จแล้วก็จะให้ศีลให้พร

วัตถุไทยทานเครื่องประกาศวันปีใหม่ปีเก่าชนกัน เราเป็นผู้ได้บุญได้กุศล เราเป็นผู้ให้ทาน มืดแจ้งเป็นของมืดแจ้ง บุญเป็นของเรา ไปทำบุญให้ทาน รถมาเอาของกี่คันนะ รถพยาบาลมาเอาของโกดัง หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ โกดังนี้สำหรับใส่ของไว้เต็มนะ โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศไทย ใครมาได้หมดเลย เราจัดไว้ให้เต็มเอี๊ยดๆ ไม่ให้บกพร่อง โรงไหนจะมาต้องการก็เอา พระเวรในศาลานี้ท่านจะจัดให้ๆ ได้สัดได้ส่วนพอดิบพอดีทุกคันรถเลย เวลาไปก็เติมน้ำมันให้ นั่นปั๊มน้ำมันเรา เหมือนว่าเป็นปั๊มน้ำมันละ พอออกจากนี้ปั๊บก็เติมน้ำมันแล้วไปๆ

เราช่วยที่สุด ที่เทียบว่าช่วยโลกนี้คือ โรงพยาบาลนะ เป็นอันดับหนึ่งช่วยโรงพยาบาล ตั้งแต่เครื่องมือแพทย์ชนิดต่างๆ ไป ตลอดพวกตึก พวกรถพวกรา อะไรต่ออะไรจิปาถะ อยู่ในโรงพยาบาลหมด เครื่องไม้เครื่องมือจิปาถะขอมาๆ ให้ไปๆ จากนั้นสร้างตึกสร้างอะไรให้ รถราให้ตลอด จึงเรียกว่าเป็นอันดับหนึ่ง คือมันทั่วประเทศไทยนะ ไม่ใช่ที่หนึ่งที่ใด โรงพยาบาลนี่ทั่วประเทศไทยมาติดต่อขอเครื่องไม้เครื่องมือ ถ้าอยู่ไกลๆ ส่วนมากขอเครื่องมือ ถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็มาขออาหาร มาเอาอาหารไปๆ ถ้าอยู่ไกลก็ขอเครื่องมือ ส่งให้ๆ

อย่างไปกรุงเทพคราวที่แล้วนี้ ขอใหญ่ๆ ก็คือนราธิวาส โรงพยาบาล ห้าล้านสี่แสน ขอแต่เครื่องมือๆ มาตกลงกันให้ปุ๊บ แล้วเพชรบุรี เจ็ดล้านสองแสนที่ขอใหญ่ๆ คนไม่ได้เห็นกันละ แต่ทางโรงพยาบาลหากมาขอ  นราธิวาสห้าล้านสี่แสน เพชรบุรีเจ็ดล้านสองแสน ให้เรื่อยทั่วประเทศไทย โรงพยาบาลไม่มีใกล้มีไกล เรียกว่าทั่วประเทศไทย ส่วนเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินแล้วก็พวกแถวๆ ใกล้เคียง ตั้งแต่โคราชมา อุตรดิตถ์เข้ามา อุบลก็มานี้ ส่วนอาหารนอกนั้นเขาไม่มาแต่เขาขออย่างอื่นมา เช่นอย่างเครื่องมือแพทย์อะไรต่ออะไรบ้างเขาขอมาอย่างที่ว่านี้ละ  นราธิวาสตั้งห้าล้านสี่แสนก็เครื่องมือ เพชรบุรีก็เจ็ดล้านสองแสนนี้ก็เครื่องมือ เขาไม่เอาของอื่น เขาเอาเครื่องมือ จะให้พร

 

รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th

สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน  FM 103.25 MHz

และเครือข่ายทั่วประเทศ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก