เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
ความรู้ทางด้านจิตใจสิ้นสุดเมื่อไร
(การปฏิบัติธรรมขั้นนี้รู้สึกยาวกว่าสองขั้นที่ผ่านมาอยู่มาก ลูกมีปัญหา เห็นแต่เพียงสิ่งหนึ่งพุ่งออกจากจิต พุ่งๆ แล้วก็ดับๆ บางทีก็ยิบๆ แย็บๆ หากเผลอไปก็ไม่เห็นตอนที่มันพุ่งออกไปสู่ปลายจิต คือเรื่องราวที่ปรุงแต่ง ทุกข์จึงเกิดขึ้น บางครั้งมีสติดีอยู่ แต่ถ้าสติเผลอมันก็พุ่งไปต่อหน้าต่อตา ลูกปฏิบัติไม่เหมือนใคร จึงขอกราบเรียนถามหลวงตาว่าลูกบกพร่องตรงไหนบ้าง จะพิจารณาอย่างไรจึงจะหลุดพ้นจากโลกนี้ไปได้เจ้าค่ะ)
มันพุ่งไปไหนก็พุ่งไปเถิด แต่การพุ่งนั้นให้มีสติ มันอยากจะพุ่งไปไหนก็พุ่งไป ปล่อยมันบ้างไม่มีอะไรแหละ มันจะพุ่งไปไหนก็ไม่ค่อยเกิดประโยชน์ ให้มีสติจับเอาไว้ สติเป็นเชือกดึงเอาไว้ พอต้องการจะให้หยุดก็ให้ย้อนลงมาๆ สติจับดึงลงมาหานี้ปั๊บหายหมดเลย เข้าใจไหม เหล่านี้ผ่านมาหมดแล้ว แป๊บออกมามันรู้ทันที นอกจากไม่มีผู้ถามเท่านั้นเอง พอแย็บออกมาทางไหนมันรู้ทันทีๆ นั่นละความรู้ทางด้านจิตใจสิ้นสุดเมื่อไร นอกจากไม่มีใครเกี่ยวข้องก็เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เฉยไป หูหนวกตาบอดไป ถ้าออกมาก็รับกันทันทีๆ เลย
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
และสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ |