เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
บอกไปว่าไม่เลื่อน
ไข้หวัดคราวนี้เสียกำลังมากนะ อ่อนหมดทั่วร่างกาย ไข้หวัดเท่านั้นละ อย่างนั้นละคนแก่เป็นนิดหน่อยก็มาก เดินไปไหนก็ไม่ได้ โซซัดโซเซ ไข้หวัดธรรมดาพูดไม่ออกก็มีแต่ไม่เห็นเป็นอะไร อันนี้โซซัดโซเซ
ยกทัพไปเวียงจันทน์คราวนี้ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน รถกี่คันไม่รู้นะ ข้าวเขาไม่มีที่เก็บก็เลยลดข้าวลง เราก็จะเอาข้าวไปมากๆ พอดีเขาไม่มีที่เก็บเราก็ลดลง ให้พอดีกับที่เก็บ(กราบเรียนเกี่ยวกับเรื่องไปลาวครับว่า เมื่อคืนนี้ได้รับแจ้งจากทางสถานทูตไทยจากประเทศลาวว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศของประเทศลาว ได้ส่งหนังสือมายังสถานทูตไทยประจำประเทศลาวว่า ขอเลื่อนการเดินทางขององค์หลวงตาที่จะไปลาวไปก่อนโดยไม่มีกำหนด) เราเตรียมของไว้แล้วทำยังไงล่ะ (เหตุขัดข้องมีดังนี้ ๑.ตอนนี้ทางประเทศลาวไข้หวัดนกกำลังระบาดในพื้นที่ที่หลวงตาจะไป ๒. ตอนนี้สภาพอากาศในประเทศลาวกำลังแปรปรวน ร้อนมาก อาจมีปัญหาต่อสุขภาพขององค์หลวงตา)
เราเตรียมพร้อมแล้วแหละ ไม่มีกำหนดอะไร ให้ตอบไปโดยด่วนเราจะออกวันพรุ่งนี้แน่นอน บอกไปเลยนะ เป็นอะไรก็เป็น ห่วงสุขภาพอะไรกับหลวงตา ตายที่ไหนตายได้หลวงตาไม่ยากอะไร เป็นห่วงแต่พวกเดียวกันเท่านั้นเอง สำหรับหลวงตาขึ้นเวทีตายตลอดเวลาไม่กลัวไม่กล้า บอกไปว่าไม่เลื่อน เตรียมของไว้หมดแล้วเลื่อนได้ยังไง มาเลื่อนเอาจ้อๆ จะไปวันพรุ่งนี้ใช่ไหมล่ะ แล้วมาสั่งห้ามทั้งที่ของเตรียมไว้หมดแล้ว ยังไงก็ต้องไปแน่นอน บอกไปโดยด่วน ไม่มีอะไรก็จะไปเทที่ฝั่งลาวแล้วเรากลับเลยไม่ยากอะไร หลวงตาลงขึ้นเวทีแล้วต่อยดะไม่มีถอย
อย่ามาเหยาะๆ แหยะๆ กับหลวงตาไม่ได้ ให้บอกไป ไปวันพรุ่งนี้แน่นอน ไข้หวัดนกหวัดเน็กอะไร วัดเรานกเต็มไก่เต็มอะไรเต็มอยู่นี้ กระรอกกระแตเต็มหมด หวัดก็หวัดเถอะเอ้ามา เรารับมาหมดแล้วไข้หวัดไข้แหว็ดกับนกกับหนูกับไก่อะไรเหล่านี้ บอกนะไปวันพรุ่งนี้แน่นอนอย่ามาเลื่อน เวลาเตรียมของหมดแล้วนี่น่ะ ถ้าบอกก็บอกมาแต่เนิ่นๆ ซิ นี่ก็จะไปวันพรุ่งนี้ มาบอกวันนี้ได้ยังไง บอกไปนะไปวันพรุ่งนี้แน่นอน ไข้หวัดไหนก็มาเถอะ หวัดนกก็มา หวัดช้างก็ให้มา ถ้าลงได้สู้แล้วสู้ ตั้งแต่ยุงมันยังกัดหลังช้างได้ เราทั้งคนกลัวช้างได้ยังไง เอาวันพรุ่งนี้แหละไป
ผู้กำกับ ปัญหาธรรมะทางเว็บไซค์ของหลวงตา
คนที่ ๑ กระผมนั่งภาวนา เวทนาเกิดเพราะการนั่งนาน ปรกติพอเวทนาเกิดจนทนไม่ได้ก็จะออกจากการภาวนา แต่วันนั้นนึกโมโหตัวเวทนาที่มาทำการรบกวนการภาวนา ก็เลยเอาสติเข้าไปจับดูตัวเวทนาที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานั้น อยากรู้ว่ามันจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน พอพิจารณาจับติดไม่ปล่อยได้สักครู่ปรากฏว่า จิตคือความรู้สึกได้หลุดเข้าไปอยู่ในใจกลางของเวทนา ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนตัวเองเข้าไปเป็นอากาศอยู่ในลูกโป่ง ส่วนเวทนาที่เป็นความทุรนทุรายในจิตตอนแรกนั้นเหมือนผิวของลูกโป่ง แยกกันอยู่คนละส่วน ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก ไม่คิดว่าความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวกระผม พอจิตไหวออกมาเพราะความดีใจ จิตก็เลยออกมารับรู้ตัวเวทนาตามเดิม กราบองค์หลวงตาจะมีอะไรแนะนำการปฏิบัติของกระผม กระผมขอน้อมรับมาปฏิบัติทุกประการ
หลวงตา เท่านั้นเองหรือ ก็ไม่เห็นมีอะไรเวทนาเหล่านี้ ไล่เบี้ยมันเข้าเวทนามันมีอยู่จุดไหนๆ ไล่เข้าไปซิ นี่เราผ่านมาหมดแล้วนะ เอาจนกระทั่งเจ้าของเป็นหัวตอ ทุกขเวทนาเป็นไฟไหม้หัวตอ เอา ไหม้ ซัดกันจนไฟพังหัวตอยัง นั่นเห็นไหมล่ะ เวลาทุกขเวทนามากๆ เราจะไปอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ทนเฉยๆ ไม่ได้ ต้องสติปัญญาหมุนติ้วๆ ทุกขเวทนาหนักมากเท่าไร ยิ่งแยกธาตุแยกขันธ์แยกทุกขเวทนาซัดเข้าไป เข้าถึงใจ ใจเป็นทุกข์อะไรๆ ไล่เข้าไป เจ็บเข่าเจ็บขาเจ็บอะไร คนตายแล้วเข่ามีอยู่ไหม มี เอาไปเผาไฟเขาว่าอะไร เขาไม่ว่าอะไร เดี๋ยวนี้มันเป็นกับอะไร ไล่เข้าไปๆ สุดท้ายพัง ทุกขเวทนาพัง ก็มีเท่านั้นแหละ
ผู้กำกับ คนที่สอง กระผมขอโอกาสกราบเรียนองค์หลวงตาว่า การฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์ ถ้าจิตของเราตั้งมั่นอยู่กับสติกับคำบริกรรมพุทโธในขณะฟังเทศน์ ถึงแม้ฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์องค์ใดก็ตาม ปรกติผมจะฟังแต่เทศน์ขององค์หลวงตา แต่ผมนั่งภาวนาและลองฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์องค์อื่นดูบ้าง ปรากฏว่าจิตของกระผมอยู่กับสติกับคำบริกรรมพุทโธ รู้สึกเย็น สงบ และมีความคิดปรุงขึ้นมาแวบหนึ่งก็รับทราบด้วยสติสัมปชัญญะ ไม่ส่งออกไปตามความคิดหรืออารมณ์ใดๆ ขณะฟังเทศน์ อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ ผมนึกถึงที่องค์หลวงตาเคยสอนว่า เวลาฟังเทศน์ไม่ต้องส่งจิตออกไปถึงผู้เทศน์ เสียงธรรมจะกล่อมจิตของเราให้สงบ
หลวงตา ถูกแล้ว ให้จิตเข้าไปอยู่นี้พอ ไม่ต้องส่งออกไป ส่งออกไปมันส่งออกนอก พอตั้งความรู้ไว้นี่ปั๊บ เหมือนเราเอาโอ่งน้ำมารองน้ำ ฝนตกที่ไหนไหลลงเข้านี่หมด อันนี้สติตั้งอยู่กับจิตปั๊บ ธรรมเทศนาจะไหลลงนี่หมดเลย เข้าใจ ก็มีเท่านั้น
ให้บอกหมออ้วนไปเสีย ไปวันพรุ่งนี้แน่นอน เพียงเท่านั้นมาเป็นอุปสรรค หวัดนกหวัดเน็กอะไรไม่เป็นอุปสรรค ไปวันพรุ่งนี้แน่ ถ้าได้เตรียมพร้อมแล้วห้ามไม่ได้ ไปเวียงจันทน์ของตั้ง ๙ ตั้ง ๑๐ คันรถ ของที่เสียง่ายก็มี กำหนดแล้วต้องไป ถ้าประเทศลาวไม่มีวาสนาเราก็จะเอาของไปเทที่ฝั่งลาวแล้วเรากลับมา ก็เท่านั้นเอง จะไปวันพรุ่งนี้แล้วมาบอกวันนี้ทันได้ยังไง
เมื่อวานนี้ไปโรงพยาบาลบึงกาฬเขาขอรถคันหนึ่ง ให้แล้วให้ดะไปเลยรถ รถแอมบูแลนซ์ให้คันหนึ่ง ไข้หวัดคราวนี้หนักนะ หนักมากทีเดียวเป็นกับคนแก่ ไข้หวัดธรรมดามันยากอะไร ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ไข้หวัดคราวนี้ล้มลุกคลุกคลาน เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็น ลดลงมากแต่ก็ยังเป็น กำลังสำคัญ กำลังไม่พอ ไปไหนคอยแต่จะหกล้มก้มกราบเดี๋ยวนี้ กำลังอ่อนมากทีเดียว เรารู้สึกว่ากำลังเราอ่อนเพียงไข้หวัดเท่านี้นิดหน่อย เหมือนกับว่าไข้ใหญ่ไข้โต กำลังไม่มี
วันนี้วันศุกร์ไปโรงพยาบาลได้อยู่ วันเสาร์วันอาทิตย์ไม่ไปโรงพยาบาล เมื่อวานนี้ไปบึงกาฬ เขาขอรถคันหนึ่ง ให้แล้วรถ เขาจนจะทำไง ผู้จนกว่าเราก็มีเขาถึงมาขอเรา เราก็ว่าเราจน เขายังมาขอเราอีก โฮ้ ยังมีคนจนกว่าเราอีกเหรอ ตกลงเลยให้เมื่อวานคันหนึ่ง รถยนต์ให้มากจริงๆ เอาละให้พร (ทางลาวติดต่อมาว่าอีกสองชั่วโมงจะให้คำตอบครับ)
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz |