เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
ล้นฝั่งแล้วด้วยความเมตตา
จตุปัจจัยไทยทานที่บรรดาพี่น้องศรัทธาทั้งหลายนำมาบริจาคเรานี้ ออกช่วยโลกทั้งหมด ฟังแต่ว่าทั้งหมด เราไม่เอาเราพอทุกอย่างแล้ว ธรรมพูดเปิดเผยตามความเป็นจริง บกพร่องก็บอกบกพร่อง เช่นกิเลสมีความบกพร่องตลอดเวลา หามาเท่าไรไม่มีคำว่าพอก็คือกิเลสนั่นเอง สำหรับธรรมนี้พอเป็นลำดับลำดา ตั้งแต่ศีลสมบูรณ์แบบก็พอใจเย็นใจ สบาย บำเพ็ญสมาธิ จิตตั้งฐานเข้าสู่ความสงบก็เย็นใจพอใจๆ ถึงขั้นสมาธิก็พอใจเป็นขั้นๆ จนกระทั่งถึงปัญญาฟาดกิเลสขาดสะบั้นลงไปจากใจ พอใจอย่างเลิศเลอ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่านพอใจอย่างเลิศเลอ ถึงเมืองพออย่างเลิศเลอ นั่นละธรรมะมีพอ ถ้ากิเลสแล้วไม่พอ ตายทิ้งเปล่าๆ
ใครวิ่งตามกิเลส ถ้าอยากตายทิ้งเปล่าๆ ให้ไปพากันวิ่ง อยู่ในศาลานี่ ออกตั้งเป็นแถวหน้าวัดป่าบ้านตาด ไปวิ่งแข่งกิเลสวิ่งแข่งเมืองพอ กิเลสอยู่ที่ไหนเมืองพอ เอ้าวิ่งตามขาขาดตายทิ้งเปล่าๆ นี่ละกิเลส ถ้าว่าธรรมแล้วพอ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์พออย่างเลิศเลอ ไม่เอาอีกไม่หาอีกแล้ว ดังที่ท่านแสดงไว้เป็นบทประกาศความดีสุดยอดของท่านว่า วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ กตํ กรณียํ นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กิจอื่นที่จะทำให้ยิ่งกว่านี้ไม่มี พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว คือการบำเพ็ญเพื่อถอดถอนตนให้พ้นจากกิเลส ได้สิ้นเสร็จลงเรียบร้อยแล้ว กิจที่ควรทำก็คือการบำเพ็ญตนเพื่อยกตนออกจากทุกข์ เป็นกิจที่ควรทำอย่างยิ่งก็ได้ทำเรียบร้อยแล้ว กิจอื่นที่จะยิ่งกว่านี้ไม่มี พอถึงนี้แล้วพอ
พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่านพอ พอโดยสมบูรณ์แบบ ท่านไม่เอา ไม่เหมือนกิเลส กิเลสนี้ไม่มีคำว่าพอ ตายทิ้งเปล่าๆ ใครเอากิเลสนำหน้า อยากตายทิ้งเปล่าๆ เอา ไป ตายทิ้งเปล่าๆ หมด ถ้าเอาธรรมนำหน้าแล้วเป็นสาระ ยืนเดินนั่งนอนพอๆ เย็นตลอด ต่างกันนะ มันก็เป็นคู่กันมาตั้งแต่กัปไหนกัลป์ใดโลกกับธรรม ธรรมพอสมบูรณ์แบบ โลกหิวโหยตลอด
มันเห็นประจักษ์ คือโลกนี้มันหน้าด้านที่สุดเลย ไม่มีใครจะหน้าด้านยิ่งกว่าโลกของกิเลสหนาๆ บนหัวใจโลก กิเลสหนาเท่าไรยิ่งหน้าด้าน ยกตัวอย่างในเมืองไทยของเรานี้ ตั้งใครเข้ามาเป็นผู้นำผู้ช่วยฉุดลากชาติบ้านเมืองของเรา ก็มีแต่มากดขี่บังคับกันลง กินตับกินปอดกันแหลกไปหมดๆ จนประชาชนไม่มีตับปอดจะให้กินแล้วก็ปล่อยกันไป เอ้า คนนี้ขึ้นมา พอตับปอดจะงอกเงยกินอีกจนไม่มีเหลือ กิเลสเป็นอย่างนั้น ไม่มีคำว่าพอ ถ้าธรรมแล้วพอ เห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจ้าของ ดังพระพุทธเจ้า พระสาวกทั้งหลายพอเต็มส่วน ให้ความเมตตาแก่โลกสุดส่วน ไม่มีใครเกินท่านผู้สิ้นกิเลส กิเลสคือตัวหิวโหย ธรรมเต็มหัวใจคือตัวพอด้วยความเลิศเลอ เรียกว่าพอ
เราก็จวนจะตายแล้ว ธรรมะประเภทเหล่านี้แต่ก่อนไม่เคยพูด อยู่ในหัวใจนี้ แต่ถึงกาลเวลาที่ควรจะพูดปิดไม่อยู่ มันออกของมันเองๆ ธรรมะที่เทศน์สอนพี่น้องทั้งหลายเริ่มตั้งแต่ช่วยชาติมา ธรรมะทุกประเภทออกระยะนี้หมด ก็สมกันกับที่เราคิดไว้ในเบื้องต้นว่าจะนำพี่น้องทั้งหลาย เอา จะนำ เพราะปี ๒๕๔๐ จะล่มจมกันทั้งประเทศ ปู่ย่าตายายพาถ่อพาพายมาสมบูรณ์พูนผล มีความสงบสุข พอเข้ามาสู่ลูกหลานไทยนี้จะพาบ้านเมืองให้ล่มจม เราก็อยู่ในท่ามกลางลูกหลานไทยจะยอมให้ล่มจมโดยอยู่เฉยๆ ได้หรือ นั่นละ เอา จะช่วย จึงได้ขึ้น ขึ้นช่วย
คนทั้งหลายก็จะมองดูวัตถุ ส่วนธรรมมองดูธรรม มองดูหัวใจคน ว่า เอ้าจะช่วย ก็ต้องช่วยวัตถุเงินทองข้าวของทั้งหลายออกหน้าทีเดียวในความรู้สึกของประชาชนทั่วๆ ไป แต่ความรู้สึกของธรรม และเราเป็นผู้สอนคนนี้ ก็คราวนี้เป็นคราวที่ธรรมะจะได้ออกสู่หัวใจโลก เป็นอย่างนั้นนะ วัตถุนี้ประเดี๋ยวประด๋าวพอสมควร ขอให้ใจดีเถอะทุกสิ่งทุกอย่างจะฟื้นตัวเองขึ้นมา ใจนั่นละพาจมไม่ใช่อะไรพาจม ใจพาจม ความประพฤติหน้าที่การงานทุกอย่างจมไปตามๆ กัน เมื่อใจได้รับความฟื้นฟูด้วยดีแล้วจะฟื้นขึ้นทุกอย่างๆ คราวนี้ธรรมะจะเข้าสู่หัวใจคนก็เข้าจริงๆ
ช่วยพี่น้องทั้งหลายทางด้านวัตถุก็ดังที่เห็นมาแล้ว ค่อยหยุดค่อยพักไปเรื่อยๆ แต่ธรรมะไม่ได้พักนะ เวลาได้ร้อยกว่าสถานีแล้วธรรมะที่ออกเข้าสู่หัวใจคน เมื่อธรรมะเข้าสู่หัวใจจะค่อยฟื้นฟูตัวเอง เห็นโทษเห็นคุณที่กองเต็มอยู่ในหัวใจเจ้าของด้วยกันทุกคน แต่ก่อนไม่เห็น เอาธรรมกล่อมเข้าไปมันก็เห็น รู้จักผิดถูกชั่วดีแล้วพยายามแก้ไขดัดแปลงก็ค่อยดีขึ้นๆ นี่ละที่คิดไว้ คราวนี้คราวธรรมะจะเข้าสู่หัวใจคน
คราวช่วยชาติมีด้านวัตถุออกหน้า ประกาศอย่างโจ่งแจ้งคือด้านวัตถุ ใครก็ว่าจะช่วยการเงินการทอง ก็ไม่ได้มาก ก็สมควรว่าเราช่วยชาติ ทองคำเราก็ได้ตั้ง ๑๑ ตัน ๓๘๒ กิโล เห็นไหมล่ะ ๑๑ ตันของน้อยเมื่อไร ทองคำน้ำหนักถึง ๑๑ ตันกับ ๓๘๐ กว่ากิโล ยังจะได้มาอีก นี่ก็วัตถุ ส่วนดอลลาร์เข้าคลังหลวง ๑๐ ล้าน ๒ แสนกว่า สำหรับเงินไทยเอาเข้าซื้อทองคำ ๒ พันล้านเท่านั้น หนุนเข้าสู่คลังหลวง นอกนั้นออกทั้งหมดเลย เงินเหล่านี้นับแต่ทองคำลงไป ทองคำเม็ดหินเม็ดทรายไม่เคยแตะ ฟังซิน่ะ เข้าหมด จากนั้นก็ดอลลาร์เข้า ๑๐ ล้านกว่าแล้วก็เงินไทย เหล่านี้เราไม่แตะทั้งนั้น จึงเรียกว่าเราช่วยโลกด้วยความพอของเรา พอในหัวใจทุกอย่างแล้ว
มีแต่ความเมตตาสงสารโลกที่เราช่วย ตะเกียกตะกายไปโน้นไปนี้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่าหลวงตาบัวนี้ทุกข์จนเหรอ พูดจริงๆ เราไม่ได้จน ล้นฝั่งแล้วด้วยความเมตตาจากหัวใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้วเต็มแบบฉบับ ไม่มีอะไรบกพร่องในหัวใจนี้ มีแต่ความเมตตาล้นฝั่ง แม่น้ำมหาสมุทรยังมีฝั่งมีฝา เมตตาไม่มี ครอบไปหมดเลย มีเท่านั้นละที่ช่วยโลกเวลานี้ เราดีดเราดิ้นอยู่ทุกวันนี้เราดิ้นเพื่อใคร ก็ดิ้นเพื่อพี่น้องทั้งหลาย ขอให้พากันคิดทุกคนนะ
เห็นหลวงตาบัวดิ้น ดิ้นอะไร เงินบาทหนึ่งเราก็ไม่เคยแตะ เอาออกหมดเลย ท่านทั้งหลายจะไปหาพระที่ไหน ไม่ใช่คุย เราจวนจะตายแล้วพูดให้ฟังเสียชัดๆ เรียกว่าช่วยโลกจริงๆ ช่วยด้วยความพอของเรา เราพอแล้วเราไม่เอาอะไรทั้งนั้น บิณฑบาตจะกินให้ตายก็ตาย ตอนเช้าเห็นไหมล้นหลาม มีตั้งแต่อาหารเต็มศาลา กินให้ตายมันก็ตายแล้วจะไปหาโลภที่ไหนอีก เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วก็ช่วยกันไปซิ มีเท่าไรช่วย ดีดดิ้น วันหนึ่งๆ เราอยู่ที่ไหนเมื่อไร ก็เพราะอำนาจแห่งความเมตตาพาให้ไป
รถหวอนำไปถึงไฟแดง ทางนี้บอกไปข้างหน้า ไปถึงไฟแดงแล้วให้หยุดเสียก่อน ไฟเขียวก็ตามหยุดเสียก่อน ดูพวกขายดอกไม้อยู่ตามนั้น ให้คนละสามร้อยๆ พวกขายดอกไม้แล้วค่อยผ่าน รถนำหลวงตาบัวเป็นอย่างนั้นนะ ไปที่ไหนเหมือนกันหมด อำนาจความเมตตาไปที่ไหนเป็นอย่างนั้น ต่างกับโลกนะ เพราะอำนาจความเมตตา ให้คนละสามร้อยๆ มีกี่คนให้คนละสามร้อยๆ พวกขายดอกไม้ แล้วก็ผ่านๆ ไปเจอที่ไหนให้ที่นั่นละ ให้ด้วยความเมตตา ไปที่ไหนมันเปิดอย่างนี้นะ มันไม่ได้กำ เปิดอยู่อย่างนี้ ไหลออกตลอดๆ
ในหัวใจดวงนี้ไม่มีอะไรเก็บ มีแต่เปิดอ้าอยู่ด้วยความเมตตา ไหลออกหมด มีเท่าไรไหลออกหมด พี่น้องทั้งหลายบริจาคมามากน้อยนี้ออกสู่ส่วนรวมทั้งนั้นเราไม่เอา ในวัดนี้ใครจะสร้างอะไรให้ไม่เอา บอกไม่เอา สิ่งที่บกพร่องมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมืองไปช่วยที่บกพร่องซิ ที่นี่ไม่ได้บกพร่อง ไม่เอาบอกตรงๆ เลย ใครจะสร้างอะไรเราจึงไม่ให้สร้าง นี่เขามาสร้างศาลาใหญ่เห็นไหมด้วยเหตุผล ก็เศรษฐีใหญ่ละเขามาสร้างที่นี่ เศรษฐีใหญ่จะเป็นผู้ใด เศรษฐีธรรมด้วยเศรษฐีเงินด้วยคือกระทิงแดง พูดให้มันชัดเจนเสีย กระทิงแดงนี้ละมาบริจาค
วัดนี้กว้างขนาดไหนกระทิงแดงทั้งนั้นนะ บริจาคที่กว้างสักกี่ร้อยไร่ แล้วถมดินหมดเลย ก่อกำแพงให้อีกด้วยเรียบร้อย สร้างศาลาใหญ่ให้ นี่ก็คือกระทิงแดง ที่เรียกว่าเศรษฐีธรรมเศรษฐีเงินไปด้วยกัน ชุ่มเย็นทั้งชาตินี้และชาติหน้า ท่านผู้มีบุญกุศลที่เรียกว่าเศรษฐีธรรม เศรษฐีเงินเศรษฐีบุญ เป็นอย่างนั้นละ ไม่อดอยากขาดแคลน การกระทำทั้งหมดนี้อย่าเข้าใจว่าจะไปไหน ไม่ไปไหน เข้ามาสู่หัวใจผู้สร้างผู้ทำ ทำที่ไหนเข้าในนี้ๆ สิ่งเหล่านั้นปล่อยเลย จะมีกองเท่าภูเขาก็ปล่อยเมื่อร่างกายหมดความหมายสิ้นลมหายใจแล้วขาดสะบั้นไปหมดทุกอย่าง แต่บุญกรรมของตนที่สร้างมาภายในใจนี้ไม่ปล่อย ติด เพราะฉะนั้นจึงให้พากันสร้างความดีให้ดี อย่าสร้างแต่ความชั่วกดถ่วงลงๆ จมลงในนรกก็คือความชั่วพาคนชั่วให้จม ชอบทำตั้งแต่ความชั่ว ครั้นทำลงไปแล้วไม่ต้องการผล ผลมันก็ต้องมาจากเหตุละซิ เหตุชั่วผลก็ชั่ว เหตุดีผลก็ดีก็ต้องมา
ให้รีบแก้ไขดัดแปลงเสียตั้งแต่มีลมหายใจอยู่นี้ เวลาตายแล้วอย่ามากวน กุสลา ธมฺมา วันนี้คนตายไป กุสลา ธมฺมา กุสลาหาพ่อหาแม่มึงอะไรอยากว่างั้นละเรา หรือว่าแล้วก็ไม่รู้ ตั้งแต่มีชีวิตอยู่ไม่สนใจกับศีลกับธรรมกับวัดกับวา ตายแล้วนิมนต์พระไปกุสลามันโมโหนะเรา ก็บอกว่านิมนต์ไปหาพ่อหาแม่มึงอะไรว่างั้นซิ พูดสบาย พูดอย่างสบายเลย ไม่มีอะไรกับใครพูดอย่างสบายเลย ไม่มีอิจฉาพยาบาทอาฆาตจองเวร ใครจะมามีกรรมมีเวรต่อเราเท่าไรไม่มี บอกไม่มีๆ ตลอดเลย เพราะฉะนั้นจึงพูดได้ตลอด พูดแบบไหนหายไปเรื่อย พูดยังไงหายไปเลย เพราะพูดไม่มีคำว่าจองกรรมจองเวรหรือดีชั่ว พูดไปให้คนได้เป็นคติเครื่องเตือนใจๆ เท่านั้นเอง
เราไม่มีอะไรกับใคร ใครจะมาก่อกรรมก่อเวรกับเรา ก่อเท่าไรก็เป็นเรื่องเขาก่อเขาเอง เราไม่มี ต้นเหตุของมันเปิดหมดแล้วไม่มีอะไรตกค้าง ก่อกรรมก่อเวรมาก็ไม่อยู่ ตกออกหมดเลย นี่ก็หยุดแต่วันนี้วันพรุ่งนี้ก็จะลงกรุงเทพแล้ว ไปเขาใหญ่เสียก่อนคืนหนึ่ง จากนั้นเราก็ลงกรุงเทพ โน้นละขึ้นปีใหม่ ส่วนมากก็วันที่ ๓๑ ธันวากลับมาถึงวัด วันที่ ๓๒ ปีใหม่ เข้าใจไหม ก็อยู่วัดนี้แล้ว ปรกติเป็นอย่างนั้น เอาละทีนี้จะให้พร
(ถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน แห่งที่สองที่นครสวรรค์ ตั้งที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ นับเป็นแห่งที่ ๑๐๘ ของทั้งหมดทั่วประเทศ รับสัญญาณจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนบ้านตาด อุดรธานี ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอมอบถวายแด่องค์หลวงตา)
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |