เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
สอนได้ทุกแบบ
ก่อนจังหัน
พระ ๓๕ ที่ไม่ฉันเยอะนะเป็นประจำ สำหรับวัดนี้พระไม่เคยฉันครบองค์เลยตั้งแต่สร้างวัด ขาดมาตลอด องค์ไหนไม่ฉันไม่ออกๆ พอองค์นี้มาฉัน อ้าว องค์นั้นหยุดแล้วเรื่อยอยู่อย่างนั้น นี่ละการฝึกตนเพื่อความดีทางด้านจิตใจต้องได้ฝึกยากนะ ฝึกใจนี้ฝึกยากจริงๆ เพราะกิเลสตัวยุ่งยากอยู่ที่ใจ โลกได้เห็นหรือเปล่าไม่รู้ สามโลกธาตุนี้จะไม่มีใครเห็นกิเลสเป็นยังไง เห็นธรรมเป็นยังไง มีพระพุทธเจ้าองค์เอกพระองค์เดียวเห็น โลกทั้งหลายไม่เห็น กิเลสก็ไม่เห็น ธรรมก็ไม่เห็น ทั้งสองนี้อยู่ที่ใจของสัตว์ ส่วนมากมีแต่กิเลสอันเป็นตัวฟืนตัวไฟตัวดีดตัวดิ้น ดิ้นไม่หยุดไม่ถอยคือกิเลสบนหัวใจสัตว์ ดิ้นไม่รู้จักเป็นจักตายคือกิเลสหมุนหัวใจสัตว์ให้ดีดให้ดิ้น พากันจำเอานะฟังนี่
ทีนี้พอชำระอันนี้ออกเท่านั้นความดีดความดิ้นจะค่อยเบาลงๆ ความสงบร่มเย็นจะปรากฏๆ ขึ้นมาๆ ชำระลงไปๆ กิเลสหมดไปมากน้อยความทุกข์ ความกังวลวุ่นวาย ความทรมานต่างๆ จะหมดไปตามๆ กัน จิตจะสงบเย็นขึ้นมาๆ ฟาดกิเลสให้ขาดสะบั้นไปจากใจหมดแล้วจ้าเลยที่นี่ ไม่มีในสามแดนโลกธาตุนี้ว่าอะไรจะมาเป็นข้าศึกต่อใจ มีกิเลสอย่างเดียวนี้เท่านั้น ชี้ขาดเลย เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่านจึงไม่เคยมีทุกข์เพราะกิเลสสร้างทุกข์ กิเลสขาดไปหมดแล้วทุกข์ก็ขาดไปตามๆ กิเลส ขาดจากหัวใจ กิเลสขาดจากหัวใจ ทุกข์ก็ขาดจากหัวใจ ทีนี้เป็นบรมสุขเต็มที่เลย ผู้ค้นพบอรรถธรรมท่านค้นอย่างนั้นนะ
เรานี้หาค้นตั้งแต่ส้วมแต่ถานแต่มูตรแต่คูถ สามแดนโลกธาตุหาค้นตั้งแต่ส้วมแต่ถานแต่มูตรแต่คูถ เสกสรรขึ้นมาปั้นยอขึ้นมาว่าเป็นของดิบของดี ก็มูตรคูถมันจะดีที่ไหน เอาไปไว้ในส้วมมันก็เป็นมูตรคูถ เอาขึ้นไปบนฟ้าอากาศมันก็เป็นมูตรเป็นคูถจะดีที่ไหน มันมีแต่อย่างนั้นนะเต็มหัวใจโลกเวลานี้ ของดิบของดีจะไม่มี พุทธศาสนาคือศาสนาที่เลิศเลอ แย็บเหมือนแสงหิ่งห้อย นอกนั้นมีแต่เรื่องของกิเลสตัณหามืดมัวทั่วฟ้าทั่วแผ่นดิน แล้วจะหาความสุขมาจากไหน ไม่มีนะ อย่าพากันเป็นบ้านักหนา โลกเดี๋ยวนี้โลกกำลังเป็นบ้าตื่นกัน ชิงดีชิงเด่น ไม่ทราบว่าดีอยู่ที่ไหน ความเด่นเด่นอยู่ที่ไหน มันก็มาเด่นอยู่ที่ดวงใจนี่ คือฟืนคือไฟ
ความดีดความดิ้นก็ใจเป็นผู้ดีดผู้ดิ้น กิเลสตัณหาพาดีดพาดิ้น เจ้าของก็บืนตายไป หาความสุขไม่มีหลักแหล่งก็คือกิเลสพาหา ท่านทั้งหลายจำให้ดี กิเลสพาหาหาหลักแหล่งไม่ได้ ใครจะเสกสรรปั้นยอว่าตัวมีอย่างนั้นๆ เสกไปอย่างนั้นแหละ ความทุกข์เผาอยู่หัวใจ กิเลสเผาอยู่นั้น มันไม่ให้ดูตัวนี้ มันหลอกออกไปข้างนอก วาดภาพออกไปข้างนอก ให้เราดีดดิ้นไปตามเงาของมันๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ดีดดิ้นไปตามเงาของกิเลส เพราะฉะนั้นโลกจึงร้อนทั่วหน้ากัน ใครจะว่าใครเจริญที่ไหนๆ ก็ตามเถอะ อย่าอวดพระพุทธเจ้าว่ะ พระพุทธเจ้าพระองค์เอกเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่เลิศเลอ ค้นธรรมอันเลิศเลอสุดยอดพบขึ้นมาแล้ว ปัดสิ่งที่เป็นมูตรเป็นคูถออกจากพระทัยให้หมดคือกิเลสไม่มีอะไรเหลือ นั้นละท่านผู้เลิศ คือพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่าน ท่านเลิศที่ตรงนั้น
ธรรมเหล่านี้สดๆ ร้อนๆ ถ้าใครนำไปปฏิบัติจะปรากฏขึ้นที่ใจ อย่างน้อยพออยู่พอกินพอหลับพอนอน ไม่กระสับกระส่ายวุ่นวายมากนัก ถ้ามีแต่กิเลสนี้หมุนติ้วเหมือนกงจักร โลกนี้เป็นโลกกงจักรเพราะกิเลสมันหนาแน่นขึ้นทุกวันๆ ใครที่จะระงับดับกิเลสตัวสำคัญๆ ให้สงบลงบ้าง เราอยากพูดย่อมๆ นะว่าไม่ค่อยมี ถ้าพูดให้เต็มยศก็ว่าไม่มี ว่างั้นเลย มองไปที่ไหนมันไม่เห็น เห็นตั้งแต่แบบบ้าด้วยกันหมดเลย เอา ใครจะว่าหลวงตาบัวเป็นบ้า เอ้าว่ามา
นี่ได้ปฏิบัติธรรมมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงขั้นจะสลบไสลๆ ตลอดมาเป็นเวลา ๙ ปี นี่ละผลแห่งการประพฤติปฏิบัติ เอาจริงเอาจังมากทีเดียว เป็นก็เป็นตายก็ตาย ถึงคราวที่จะขึ้นเวทีฟัดกันแล้วไม่มีห่วงใยเรื่องตาย มีแต่คู่ต่อสู้มันอยู่ที่ไหน ฟัดกันเลยๆ คู่ต่อสู้คือกิเลส ขาดสะบั้นลงไปจากหัวใจจ้าขึ้นมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว ไม่มีอะไรที่จะขึ้นมาเหยียบหัวใจได้อีก นั่นละธรรมประเภทนี้เราไม่เคยคิดเคยคาด ที่นำมาสอนโลกอยู่เวลานี้ มาหลอกท่านทั้งหลายเหรอ ปฏิบัติแทบเป็นแทบตาย หลอกตัวเองเหรอ นี่ละธรรมสดๆ ร้อนๆ พากันไปปฏิบัติซิ
หัวใจนี่สำคัญมากนะ ถูกบีบบี้สีไฟตลอดเวลาด้วยอำนาจของกิเลสตัณหา อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี อันนั้นเข้าท่าอันนี้เข้าท่า ตัวจมอยู่ในท่าคืออะไร คือหัวใจมันไม่ดูนะ มีแต่เข้าท่า อันนั้นเข้าท่าๆ อย่างวัดป่าบ้านตาดอาหารผ่านเข้ามานี้ อันนี้เข้าท่าอันนั้นเข้าท่า ฟาดเข้าในบาตรเต็มบาตรแล้ว ยังอันนั้นเข้าท่าอันนี้เข้าท่า วัดป่าบ้านตาดเป็นอย่างนั้นนะ ลูกศิษย์วัดป่าบ้านตาดมันเป็นยังไง มันเข้าท่าๆ แบบเดียวกันไหม แต่ธรรมเข้าท่าหรือไม่เข้าท่าไม่ดูนะ มันดูตั้งแต่อาหารนั่นละ เข้าท่าๆ ฟังซิ มันน่าสลดสังเวชไหม ใครพูดคำพูดเหล่านี้น่ะ เราเอาจากความจริงออกมาพูด ไม่ได้พูดหยาบพูดโลนนะ เอาความจริงมามันเป็นยังไง ไม่มีใครพูด กิเลสกับกิเลสเกรงกันๆ ธรรมไม่มีเกรงใคร เอาตามหลักความจริงมาพูดทั้งนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายเอาไปพิจารณา
เกิดมาจะตายทิ้งเปล่าๆ นะ พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เลิศเลอสุดยอดแล้ว เอา คว้าๆ พระพุทธเจ้าพาสัตว์โลกให้จมมีที่ไหน ไม่มีเลย เอา คว้า จมตามพระพุทธเจ้าก็ให้เห็นว่ะ นี้มีแต่จมตามกิเลสๆ อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี อันนั้นเข้าท่าอันนี้เข้าท่า จมไปเรื่อยๆ กับกิเลสหลอกลวง พากันจำให้ดี เอาละแค่นี้ ให้พร
หลังจังหัน
(ขอถวายสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน เครือข่ายอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา ตั้งอยู่ที่ วัดนันตาราม ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา รับสัญญาณดาวเทียมจากบ้านตาดร้อยเปอร์เซ็นต์ ออกอากาศแล้วตั้งแต่วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙ คณะผู้ร่วมถวายขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินการตลอดไป)
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาคเงินเข้า กองทุนวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าบ้านตาด สามารถโอนเข้าบัญชีได้ดังนี้
ชื่อบัญชี กองทุนวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนวัดป่าบ้านตาด
ธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 401-0-66484-3
บัญชีฝากประจำ เลขที่ 401-2-15988-7
(ถวายทองคำสองสลึงครับ) เออ พอใจๆ เราพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยอุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา ให้ขึ้นสู่ความแน่นหนามั่นคงจีรังถาวร เราพยายามทุกด้านทุกทาง ถ้าเป็นทางชั่วก็เรียกว่าหลวงตาบัวนี่เป็นอันธพาลใหญ่ แต่นี้เราพาทางดี มีแต่ทางดีทั้งนั้นทุกอย่างๆ อุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มาตลอดได้แปดเก้าปีนี้ละมัง จะได้ด้วยวิธีการใดเราพยายามที่จะให้ได้เข้าสู่ส่วนรวม ทองคำเราได้ตั้ง ๑๑ ตันกับ ๓๐๐ กิโล ๓๐๐ แน่แล้วจะกว่าด้วยซ้ำไป อันนี้ยังไม่ได้มอบ พอเมื่อไรแล้วเราสั่งเองไม่ยากอะไร มอบคลังหลวงของเรา
อยู่ๆ ทองคำจะมาเข้าสู่คลังหลวงได้เมื่อไร ตั้งแต่เราเกิดมายังไม่เคยได้ยินที่ไหน ว่ามีใครขนทองคำมาเป็นกอบเป็นกำมามอบให้คลังหลวง เราก็ยังไม่เคยได้ยิน ก็มาได้ยินตอนที่เราพาพี่น้องทั้งหลายขนทองเข้าสู่คลังหลวงนี้ ได้ ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง นี่เข้าแล้วแน่นหนามั่นคง จากนั้นก็พยายามเก็บหอมรอมริบเป็นประเภทน้ำไหลซึมๆ เราทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม ส่วนดอลลาร์ได้เท่านั้นแหละ ดูเหมือน ๑๐ ล้าน ๒ แสน เข้าคลังหลวง เพราะความจำเป็นเกี่ยวกับเรื่องประชาชนที่ขาดแคลนทั่วแผ่นดินไทย แล้วการเทศนาว่าการที่จะนำปัจจัยมาช่วยอันนี้เราก็หยุดไปแล้ว ความยากจนมีตลอดๆ ยิ่งหนาแน่นขึ้นทุกวัน เราจึงจำเป็นต้องหมุนดอลลาร์เข้ามาช่วยเงินสดออกช่วยโลก จึงไม่ได้เข้าคลังหลวง
เราพูดคำใดไม่มีเคลื่อนนะ ท่านทั้งหลายตายใจได้เลย หลวงตาบัวลงพูดออกคำไหนแล้ว ไม่มีคำว่าเหลาะแหละ เอาความสัตย์ความจริงออกเผงๆ เลยเทียว ก่อนที่จะนำพี่น้องทั้งหลายแง่ไหนๆ เราจะพิจารณาของเราเรียบร้อยแล้วพาออกๆ จะว่ามีทิฐิมานะเราก็ไม่มี ว่าเราไม่ได้ปรึกษาหารือใครจะเป็นทิฐิมานะของเราก็ไม่ปรากฏ แต่เป็นเรื่องของธรรมที่เราพิจารณาเอง นี่ช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ออกช่องกว้างช่องแคบช่องอะไรเราจะพิจารณาของเรา แล้วพาก้าวเดินๆ ตามนั้น เราไม่เคยผิดพลาดนะ ก็เรียบร้อยเรื่อยมา
การปฏิบัติตัวของเราก็ปฏิบัติมาอย่างนั้น เอาแนวดำเนินของเราที่ปฏิบัติตัวได้ผลมาแล้วนี้แหละออกมาช่วยส่วนรวมของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราก็เอาแนวทางของเราที่ดำเนินมาแล้วนี้มาดำเนินตลอดมาทุกวันนี้ คือเราพิจารณาเสียก่อน อะไรๆ ก็ตามเราจะต้องพิจารณา ไม่พ้นหัวใจดวงนี้กับธรรมที่เป็นอันเดียวกันจะเป็นผู้แจงออก ผิดถูกชั่วดีประการใดจะออกจากนี้ แล้วทีนี้ก็ออกปฏิบัติได้ละ ถ้าออกจากนี้เรียบร้อยแล้วได้เลยๆ ไม่ได้ทำสุ่มสี่สุ่มห้าด้วยความคาดคะเนด้นเดา เราไม่ทำอย่างนั้น เราพิจารณาเรียบร้อยแล้วตามอรรถตามธรรม เห็นว่าถูกต้องแล้วออกเลยๆ ก็ไม่เคยผิดตลอดมา
การเข้ามาศึกษาอบรมในวัดป่าบ้านตาด สำหรับฝ่ายฆราวาสส่วนมากจะเป็นฝ่ายผู้หญิงที่เข้ามานี้ ให้คัดเลือกเอานะ พวกที่เข้ามาอยู่ข้างในนี้พวกโกโรโกโสมีเยอะ ให้เอาผู้ดีเป็นคติเครื่องเตือนใจ เรามองไม่ทัน ดูไม่ทั่วถึงข้างใน เฉพาะพระเท่านั้นที่เราดูแลทั่วถึงตลอดเวลาได้ทั้งกลางวันกลางคืน เราไปได้หมดดูแลพระเณร ข้างในมันไม่เหมือนอย่างพระซิ จึงดูไม่ทั่วถึง โกโรโกโสจะมีอยู่เยอะนะข้างในครัว ผู้ที่ตั้งใจภาวนาจริงๆ จะลำบากใจหนักใจจากพวกโกโรโกโสที่มาอยู่ข้างในมีเยอะนะ จึงได้เตือนได้บอกเอาไว้ ไอ้พวกโกโรโกโสเข้ามาอบรมศึกษาให้แก้ไขดัดแปลงตัวเองไม่ดีตรงไหน อย่าให้ขวางหูขวางตาขวางใจเพื่อนฝูงที่มาอยู่ด้วยกัน ซึ่งปฏิบัติธรรมด้วยกันล้วนๆ อย่าให้หนักใจนะ ให้พากันตั้งใจปฏิบัติ
เรานี้พยายามสุดขีดแล้วที่จะให้พี่น้องทั้งหลายได้รับความสงบเย็นใจ เฉพาะอย่างยิ่งตั้งรากตั้งฐานภายในจิตใจเข้าสู่ความสงบแน่นหนามั่นคง ทะลุพุ่งถึงนิพพานได้ เราสอนเต็มเหนี่ยว พูดตรงๆ เราไม่คุยเราไม่อวดไม่โอ้ เอาความจริงมาพูดตามภาษาของธรรม ว่าการแนะนำสั่งสอนนี้เราไม่ไปหาลูบคลำที่ไหน เราสอนด้วยความเต็มอกเต็มใจ ความรู้ของเราที่มีอยู่ในหัวใจซึ่งเกิดจากการปฏิบัติมามากน้อยเพียงไร เราจะสอนได้เต็มภูมิของเรา ฟาดตั้งแต่ต้นถึงนิพพานเลย ว่างั้นเลย เอ้า ใครขัดข้องตรงไหนให้ถามมา
นี่เบิกกว้างหมดแล้วเป็นเวลา ๕๖ ปี จิตใจของเราที่เบิกกว้างกิเลสขาดสะบั้นลงไปไม่มีอะไรเหลือเลย ตั้งแต่บัดนั้นมาจิตใจเบิกกว้างออกไป สุญฺญโต โลกํ ว่างไปหมด ทั่วแดนโลกธาตุสมมุติไม่มีเลยในหัวใจ มีแต่ความว่างเปล่าจากสิ่งเหล่านั้นทั้งนั้น แล้วนำธรรมเหล่านี้มาสอน และสอนด้วยความแน่ใจเรียกว่าไม่ผิด สอนอะไรไม่ผิด เพราะได้ปฏิบัติดูแล้ว นี่ละขึ้นเวทีจิตตภาวนา กว้างขวางลึกซึ้งมากนะ เราไปเรียนหนังสือตามคัมภีร์ต่างๆ เช่นพระไตรปิฎกเป็นต้นนั้น เอามาเพียงผิวเผินๆ เป็นกิ่งเป็นก้านเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นนะมา ไม่ได้กว้างขวาง
พระไตรปิฎกนั่นน่ะ มีเท่าไรๆ นั้นไม่ได้กว้างขวาง ถ้าเราอยากจะทราบความกว้างขวางจริงๆ ให้ทราบจากจิตตภาวนา ดังพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมด้วยจิตตภาวนา สาวกทั้งหลายตรัสรู้ธรรมด้วยจิตตภาวนา นักภาวนาเวลาคุ้ยเขี่ยขุดค้นเข้าไปหาต้นตอใหญ่ๆ ของมัน ทั้งมหาภัยมหาคุณอยู่ในหัวใจ ให้มันแตกกระจายออกไป กิเลสก็แตกออกจากใจ ธรรมจ้าขึ้นมาที่หัวใจนั้นจ้าหมดเลย อันนี้กว้างขวางมาก พูดให้ชัดเจนเราจวนจะตายแล้ว ที่มาสอนโลกนี้เราสอนด้วยความเปิดโล่งในหัวใจของเรา เราไม่มีอะไรขัดข้อง ตั้งแต่กิเลสขาดสะบั้นลงไป ก็มีกิเลสเท่านั้นเป็นก้างขวางคออยู่ กลืนไม่ลงๆ จะคายก็คายไม่ออก ก้างขวางคอคือกิเลส ฟาดกิเลสขาดสะบั้นออกไปแล้วโล่งไปหมดเลย
เจ้าของไม่ติดเจ้าของเสียอย่างเดียวจะติดอะไรในโลกอันนี้ คนเราสัตว์โลกทั้งหลายติดตัวเองก่อนแล้วก็ไปติดผู้อื่น ติดเขาติดเรา แล้วอันนี้ละเป็นภูเขากั้นไว้ให้ก้าวไม่ออก ความรู้ความฉลาดมันก็ไม่มี พอเปิดโล่งออกหมดแล้วมันโล่งไปหมดเลย เอ้า เหตุผลกลไกมียังไงว่าไปตามเหตุตามผล ไม่ได้คิดว่าจะเกรงใจคนนั้นคนนี้ ไม่มีอะไรเหนือธรรม นั่น ธรรมเหนือหมดแล้วเปิดโล่งออกไปตามนั้นเลย เพราะฉะนั้นภาษาธรรมจึงพูดแบบตรงไปตรงมา แต่โลกกิเลสมันว่าขวานผ่าซาก ปากอมขี้เข้าใจหรือ พ่นออกมามีแต่เหม็นคลุ้งทั่วไปหมดเลย พระพุทธเจ้าปากอมธรรม สาวกทั้งหลายปากอมธรรม จ้าออกไปตรงไหน เอ้า ยึดๆ ตามที่ท่านสอนจะผิดไปไหนวะ
ถ้ายึดตามกิเลสจมๆ จมกันๆ โลกเวลานี้มีแต่เรื่องจะจม พากันวิ่งเต้นขวนขวายหารายได้รายร่ำรายรวย มันก็หาแบบงูๆ ปลาๆ ไขว่คว้าโน้นไขว่คว้านี้สุกเอาเผากิน แล้วสุดท้ายหาหลักเกณฑ์ไม่ได้นะ ต่างคนต่างเอาไฟเผาหัวอกตัวเองตลอดทั่วโลกดินแดน มีความสุขที่ไหน ธรรมจับเข้าไปรู้หมดนี่จะว่าไง ใครมีธรรมภายในใจมากน้อยนั้นละจะมีเป็นเกาะเป็นดอนพอซุกหัวนอนได้ ถ้ามีมากเท่าไรๆ ก็ยิ่งจ้าที่ใจ จ้าหมดทั้งหัวใจแล้วทีนี้โล่งไปหมดเลยไม่มีอะไรติด ในสามแดนโลกธาตุไม่ติดอะไรเลย เหนือหมด นั่นละธรรมภายในใจ ใจมีคุณค่าไหม พิจารณาซิ เมื่อแก้สิ่งที่ผูกมัดรัดรึงออกหมดแล้วจ้าเลย
ให้พากันสนใจภาวนานะ การภาวนาก็สอนแล้วสอนด้วยความถูกต้องด้วย สติเป็นสำคัญ สติจับจิตให้ดี เช่นเราใช้คำบริกรรม คำบริกรรมคำใดสติให้ติดอยู่คำบริกรรมกิเลสจะเกิดไม่ได้ กิเลสจะออกมาทางสังขาร แหล่งใหญ่ของมันที่ผลักดันออกมาคืออวิชชา นั่นละแหล่งใหญ่ มันผลักดันออกมาจากกำลังใหญ่ของอวิชชา ออกมาทางสังขาร ทางตา หู จมูก ลิ้น กายเป็นทางออกของอวิชชาดันออกมาๆ สติจับปุ๊บไว้ไม่ให้ออก มันมีเท่าไรออกไม่ได้เลยที่นี่ นี่ละสติเป็นสำคัญมากทีเดียว เหมือนกับขอบมหาสมุทรทะลเหลวงนั่นละ สติเป็นขอบกั้นเอาไว้ไม่ให้มันล้นฝั่งไปได้เลย สติจับปุ๊บแล้วกิเลสล้นฝั่งไปไม่ได้ ขอให้จับให้ดี
ที่พูดมาเหล่านี้ดำเนินมาหมดแล้วนะ ไม่ใช่ไม่ดำเนิน ดำเนินมาแล้วเห็นผลมาแล้วจึงได้สอนพี่น้องทั้งหลาย ว่าดำเนินตามนี้ไม่ผิดว่างั้นเลย มันอยากคิดจนอกจะแตกนะไม่ใช่เล่นๆ เรื่องสังขารอวิชชาละดันออกมา อยากคิดอยากปรุงอยากรู้อยากเห็นอยากนั้นอยากนี้เต็มตัว นี้มีตั้งแต่ความอยากออกจากอวิชชา สติปิดช่องมันไว้ไม่ให้ออก เอ้า เปิดช่องพุทโธคำบริกรรมขึ้นมา ในเบื้องต้นเอาอย่างนั้น เปิดช่องพุทโธขึ้นมากับสติจับติดอยู่นี้ แล้วจะสร้างความสงบร่มเย็นขึ้นมากับพุทโธ ความคิดเหล่านั้นที่เป็นเรื่องของกิเลสตัณหามีแต่ไฟเผาตัวเอง คิดมากเท่าไรนอนไม่หลับ ดีไม่ดีเป็นบ้าไปเลย นั่นละเรื่องของกิเลสมันดันออกมาจากหัวใจ
เมื่อมีสติดีๆ แล้วบังคับเอาไว้ไม่ให้มันคิด ทีนี้ต่อไปๆ ความคิดที่มันดันออกมาค่อยเบาลงๆ ความสงบเย็นใจค่อยปรากฏขึ้นๆ สั่งสมสติของเราให้ดีๆ ความเพียรให้ดีก็หนาแน่นขึ้นมา ก็สงบเย็นเรื่อยไปเลย จำให้ดีนะวิธีนี้ ไม่ผิด เอาไปทำเถอะน่ะ จะตั้งรากตั้งฐานได้ จิตที่ไม่มีความสงบไม่มีรากมีฐานไม่มีที่เกาะที่ยึด ให้มีความสงบใจ ความสงบใจจะมีได้ด้วยวิธีการอย่างที่ว่านี้ ตั้งคำบริกรรมให้ดี จับติดกับคำบริกรรม สติติดกับนั้นแล้วจะสร้างความสงบร่มเย็นขึ้นมาจากอันนี้เอง ถ้าไม่มีนี้แล้วหวังเท่าไรก็ไม่มีความหมายละ เอาทำให้เป็นปัจจุบันจิตซิ โลกนี้เหมือนไม่มี มีแต่คำบริกรรมกับสติติดกันอยู่เท่านั้นๆๆ แล้วค่อยเบิกกว้างออกไป ทำให้ดี เราสงสารที่อุตส่าห์มาอบรมมาจากที่ต่างๆ ตั้งใจมาให้ยึดให้ดี ที่สอนตรงไหนแม่นยำๆ ไม่ผิด เพราะดำเนินมาแล้วทุกอย่าง
ให้สังเกตนะพวกอยู่ข้างใน ใครมาเก้งๆ ก้างๆ ขวางหูขวางตาเพื่อนฝูงให้หนักอกหนักใจให้มากระซิบเรา ถ้ามาถึงเราแล้วไม่ยากอะไรละ ผางเดียวเท่านั้นขาดสะบั้นไปเลย นี้รอเท่านั้นเองเพราะเราไม่เห็น ข้างในนั้นสำคัญไม่ค่อยได้ดูทั่วถึง อย่างมากก็เดินหย็อกๆ ออกไปแค่ครัวแล้วออกมาเท่านั้นไม่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ละเอียดลอออะไรเหมือนอยู่ภายในวัด ภายในวัดนี้เราดูตลอดนะพระเณร กลางวันกลางคืนเราไปได้หมด ไปบางทีไปโดนเอาพระเดินจงกรมกลางคืน เราก็ไปมืดๆ กลางคืน โจรต่อโจรไปโดนกัน พระท่านก็เดินจงกรม เราด้อมหากับหมู่กับเพื่อน อย่างนั้นละเรา เห็นไหมปกครองหมู่เพื่อนหนักไหมพิจารณาซิ องค์ไหนไม่ดีตรงไหนๆ อย่างน้อยเตือน มากกว่านั้นขนาบใหญ่ หนักกว่านั้นไล่ออกเลย เราเอาจริงเอาจังมากเพราะเราปฏิบัติตัวของเราอย่างนั้น ไม่มีข้อแม้ ถ้าลงได้ตัดสินใจลงตรงไหนแล้วพุ่งเลย เราปฏิบัติมาอย่างนั้น จะมาเหลาะๆ แหละๆ ให้เราเห็นมันดูไม่ได้นะ
(ขอสร้างวิหารที่จังหวัดลำปางครับ) สร้างไปหาอะไรวิหาร สร้างหัวใจเจ้าของให้มันสง่างามเป็นไร เอะอะมาสร้างนั้นสร้างนี้วัตถุเราดูไม่ได้นะกับเรา เข้ากันไม่ได้กับพุทธศาสนา พุทธศาสนาให้คนสร้างหัวใจ ความประพฤติหน้าที่การงานทุกอย่างออกจากหัวใจ เมื่อหัวใจดีแล้วอะไรจะดีหมดด้วยความรู้จักประมาณ เข้าใจไหม อันนี้เอะอะสร้างนั้นสร้างนี้มันไม่รู้จักประมาณ เอากิเลสเหยียบหัวมันไปสร้าง เราไม่อนุโลมตามไม่ได้ยินดีด้วยละ ไปเอาหนีอย่ามายุ่งวัตถุวัตแถะอะไร หัวใจมันไม่ได้สร้าง
อย่างพวกบ้ายศอยู่ทุกวันนี้ เป็นบ้ายศ นี่ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเฉลิมพระชนม์อะไร ๖๐ พระพรรษา ครองราชสมบัติเหรอ นี่กำลังพระหัวโล้นๆ เรานี้เป็นบ้า พวกบ้ายศบ้าลาภเสนอขอยศขอลาภ รบกวนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์จะตายละ มันกวนเอาเหลือประมาณนะพระกวนบ้านกวนเมือง แต่ก่อนไม่เคยมี ทุกวันนี้ตัวเก่งกวนบ้านกวนเมือง หายศหาลาภ หารายร่ำรายรวย หาชื่อหาเสียง ศีลธรรมมันไม่หาพวกนี้ ตรงกันข้ามเหยียบศีลเหยียบธรรมไปหายศหาลาภ ซึ่งเท่ากับส้วมกับถาน เป็นอย่างนั้นนะเวลานี้
นี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะทรง โอ๋ย หนักพระทัยมากทีเดียว เราจึงขอผ่านตรงกลางเลยในนามของธรรมว่างั้นเลย ขอผ่านพระองค์อย่าพระราชทานว่างี้เลย ขอไปหาอะไรหายศหาเเย็ดหาอะไร หาศีลหาธรรมอยู่ภายในจิตใจไม่ต้องไปขอใคร ไม่มีอะไรที่จะเลิศเลอยิ่งกว่าศีลธรรมภายในจิตใจ ศีลธรรมมีอยู่ภายในใจแล้วอยู่ไหนสบายหมด เลิศตลอดเวลา ไอ้ยศไอ้แย็ดมันได้เรื่องได้ราวอะไร ขอเป็นบ้ากันอยู่อย่างนี้ นี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงท้อพระทัยมากนะ เราจึงขอเดินบิณฑบาตผ่านพระราชวัง ขอบิณฑบาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าอย่าพระราชทานพวกหัวโล้นๆ นี่ มันเป็นบ้ายศบ้าลาภมาแล้ว
เราก็หัวโล้นเหมือนกันเราไม่ได้เป็นบ้ายศ เราเดินตามธรรมของพระพุทธเจ้า นี่มันเดินแบบไหนจึงได้กวนบ้านกวนเมืองเอานักหนา แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองท่านก็ทรงท้อพระทัย จะขอยศขอลาภขออะไร ดูว่าวันที่ ๙ หรือวันที่เท่าไร (วันที่ ๙ นี่ฮะเป็นวันเริ่มงาน) นั่นละเราขอเดินบิณฑบาตผ่านพระราชวังพระองค์ ว่าขออย่าพระราชทาน พวกนี้มันจะเป็นบ้ากำเริบเสิบสานมากขึ้นๆ ศีลธรรมมันจะเหยียบไปๆ ไอ้เรื่องมูตรเรื่องคูถคือยศลาภสรรเสริญเยินยอนี้มันจะถือเป็นทองคำทั้งแท่ง เทิดทูนบนหัวมันไปหัวโล้นๆ นั่นน่ะ เข้าใจไหมล่ะ ขอบิณฑบาตอย่าพระราชทานว่างั้นเลย นี้ภาษาธรรมเราพูดนี้ผิดไปไหน
พระพุทธเจ้าไม่ได้บวชมาหายศหาลาภ หาศีลหาธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา วิชชาวิมุตติหลุดพ้น นี้คือธรรมพระพุทธเจ้าที่ประทานให้ ให้ปฏิบัติตามนี้ ไม่ได้ไปหายศนั้นยศนี้ยุ่งนั้นยุ่งนี้เหมือนบ้าทุกวันนี้นะ เดี๋ยวนี้มันไปอย่างนั้นกันทั้งหมด มันถึงได้ร้อน พุทธศาสนาของเรานี้ร้อนมากนะเวลานี้ กวนบ้านกวนเมืองไม่มีอะไรเกินพุทธศาสนาของพระเณรสมัยปัจจุบันนี้ ยุ่งมากทีเดียวยุ่งจริงๆ มันน่าทุเรศนะ ยุ่งหาอะไร การปฏิบัติตัวในศีลในธรรมอะไรจะสงบร่มเย็นยิ่งกว่าหัวใจดวงนี้ เมื่อหัวใจดวงนี้สงบร่มเย็นสง่าราศีแล้วสอนโลกได้หมด ไอ้เรื่องเหล่านี้ไปสอนโลกที่ไหนได้ มีแต่ความวุ่นวี่วุ่นวาย เขาเหมือนเราเราเหมือนเขาอะไรดีกว่าใคร ไม่เห็นดี พวกบ้ายศนี่ว่างั้นละ เอาละพอ
(คงให้หลวงตาแล้วครับ ตอนนี้ยังไม่มีตกมาทั้งพระทั้งฆราวาสละครับ) ให้อะไร (เครื่องราชครับ ทั้งพระทั้งโยมไม่มีตกลงมา) เหอ เครื่องราชของเราก็นี่ เจ้าคุณบัว เจ้าคุณราชอะไรลืมชื่อแล้ว แล้วเจ้าคุณธรรมอะไรอยู่นี่ ถ้าเป็นฐานะที่จะเป็นไปได้แล้วมาขอเราให้ไปนานแล้วนะ มีกี่ยศเราให้ไปหมดเลย ให้เหลือแต่หลวงตาบัวเท่านั้นเอง แต่นี้มันก็ไม่ใช่ฐานะก็อยู่อย่างนั้นละ เราไม่ขอขออะไร เลิศอยู่ในนี้พอ อะไรจะเลิศยิ่งกว่าธรรมภายในจิตใจ สิ่งเหล่านั้นเป็นเครื่องประดับ ถ้าเราหลงมันแล้วอันนั้นเป็นภัย แน่ะมันก็สองอย่าง ทั้งสันทั้งคมไปด้วยมีดเล่มเดียวกันนั่นแหละ (ที่หลวงตาพูดทางไมค์เมื่อกี้ที่ว่าขอบิณฑบาตผ่านพระราชวังนะครับ ยังไม่ตกมาเลยทั้งพระทั้งฆราวาส แสดงว่าให้หลวงตาแล้วละครับตอนนี้) เดี๋ยวนี้ยังไม่ นั้นเราก็ขอบิณฑบาตขอไม่ให้นี่นะ เข้าใจไหม ให้ไปทำไม
ขออะไร ขอปฏิบัติศีลธรรมให้ดีซิ ไม่ต้องไปขอพระองค์ก็ได้พระองค์พอพระทัยอยู่แล้ว ปฏิบัติตัวให้ดีๆ เป็นที่พอใจ พระพุทธเจ้าลงมาพอใจทั้งนั้น ไอ้ไปขอยศขอเเย็ดขอลาภอะไร ใช้ไม่ได้เลย เราจึงขอบิณฑบาตผ่านพระราชวัง อย่าพระราชทานว่างี้เลย จะเสริมให้มันเป็นบ้าหัวโล้นไป เข้าใจเหรอ เอามันชัดๆ เอาละพอ ก็พูดไม่มีอะไรกับใคร เอาธรรมออกพูดล้วนๆ มีอะไรกับใครวะ ใครจะไปขยี้ขยำท่านว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ เราตีปากเอาด้วยถ้าอยากตี ไม่อยากตีเฉยเสียเหมือนหมาปล่อยหำเข้าใจไหม เอาละให้พร
นักภาวนาตั้งสติให้ดีนะถ้าอยากได้หลักฐาน นักภาวนาอยู่ที่สตินะ สตินี้อยู่กับเครื่องหนุนอีก เครื่องหนุนนี้ไม่พ้นอาหาร เราเคยมาหมดแล้ว คือตั้งสติให้ดี ถ้าสติไม่ดีเป็นเพราะเหตุไร เป็นเพราะอาหารมาก กินมากนอนมากขี้เกียจมาก ตั้งสติล้มลุกคลุกคลาน ถ้าผ่อนอาหารลงๆ สติจะค่อยดีขึ้นๆ เราเคยทดลองทุกอย่างแล้ว ผ่อนอาหารๆ สติดีขึ้น อดอาหารกึ๊กสติผึงเลย แต่มันจะตายนี่ใช่ไหม ถ้าไม่กินให้มันมันก็จะตาย ก็อดบ้างอิ่มบ้างฟัดกันไปอย่างนั้นละ เอาเป็นคติมาสอนท่านทั้งหลาย เข้าใจแล้วนะ เท่านั้นละ มันเดินมาทุกแบบเรา เพราะฉะนั้นการสอนมันถึงสอนได้ทุกแบบละซิ ก็มันดำเนินมาอย่างนั้น สอนได้ทุกแบบเราดำเนินมาทุกแบบ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |