เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
ทำอะไรทันกับกิเลส
ก่อนจังหัน
อากาศร้อน เพลีย เมื่อคืนนี้ก่อนจะนอนก็อาบน้ำก่อนนะ เมื่อเช้านี้เหมือนกัน อาบน้ำก่อนลงไปเดินจงกรม ขึ้นมาจากทางจงกรมก็อาบน้ำแล้วก็มานี่ มันร้อน ร้อนมาก เพลีย
เห็นไหมล่ะวงกรรมฐานไปไหน กรรมฐานทำอะไรนี้ถ้าเป็นมวยก็ไม่ต้องยกครู ขึ้นไปต่อยเลย ชนะก็ชนะ ไม่ชนะตกเวทีไปเลย อย่างนั้นละกรรมฐาน ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร ท่านั้นท่านี้ โอ๋ย เรารำคาญนะเราไปดู หือ แก้กิเลสแก้อย่างนี้เหรอ แก้กิเลสหาวิธีแก้อย่างนี้เหรอ ใส่ปั๊วะเลยกับกิเลส แล้วมาดูอาการภายนอกที่มีแต่พิธีนั้นพิธีนี้ ดูไม่ได้นะพูดจริงๆ รำคาญ นี่ทำอะไรปั๊วะเลยๆ ทันกับกิเลสความหมายว่าอย่างนั้น อย่างเมื่อวานนี้เราไปดู เอ้อ รำคาญ ไม่ไปก็อย่างไร ก็มาดึงให้ไป ครั้นไปแล้วก็พิธีอยู่อย่างนั้น อู๊ย รำคาญ นี่เหรอวิธีแก้กิเลส นั่นเอาตรงนั้นนะ ไม่ได้เอาตรงอื่น วิธีแก้กิเลสแก้อย่างนี้หรือ วิธีนั้นวิธีนี้ กว่าจะมาถึงตายแล้ว นี่ขึ้นไปไหนคู่ต่อสู้ พอขึ้นไปปั๊วะเลย ชนะก็ชนะ ไม่ชนะตกเวทีไปเลย ไม่ต้องรอ อย่างนั้นซี
เรื่องของกิเลสเป็นของเล่นเมื่อไร ฟัดมาพอแล้วถึงได้มาพูดเต็มเหนี่ยว เหลาะๆ แหละๆ อย่างนี้ไม่ทัน อย่างไปในงานนั้นงานนี้ มีพิธีนั้นพิธีนี้เราไม่อยากไปนะ รำคาญ เหมือนทำเล่นกัน ทำจริงมันต้องปั๊วะเลยๆ อย่างนั้น มาลากไปจนได้นั่นแหละ ว่าจะไม่ไปก็มาลากไป ให้ไปรำคาญตา อู๊ย รำคาญ นี่เห็นไหมพาท่านทั้งหลายไป เช่นไปแจกทานแจกอะไรเห็นไหม ใส่ปั๊วะเลยๆ เห็นไหมล่ะ อย่างนั้นละมันถึงทันกัน พิธีนั้นพิธีนี้ โอ๋ย ไม่ได้เรา เรื่องของโลกของกิเลสกับเรื่องของธรรมต่างกันนะ
อย่างพาท่านทั้งหลายไป ไปก็โยนตูมเลยเห็นไหมล่ะ ไปเมื่อวานดูเหมือนช้าง ๑๕ ตัวหงายหมดเลย เห็นไหมล่ะ เอา ช้างหงายเลยเห็นไหม เศษเหลือกองพะเนินเอาไปโรงช้าง นั่นของเล่นเมื่อไรถ้าลงได้ทำ เอาอย่างนั้นนะ เหยาะๆ แหยะๆ ไม่อยากทำนะเรา ทำอะไรมีแต่พิธี มีแต่กิเลสไปควบคุมๆ พิธีนั้นพิธีนี้กว่าจะเข้าถึงตัว อู๊ย เสียเวลานาน ว่าจะเอาก็ปึ๋งเลยๆ
เอานะใส่ปั๊วะเลยนะพี่น้องทั้งหลาย อย่ารอการทำอะไรก็ดี อย่าเหยาะๆ แหยะๆให้เห็น ขวางตานะ ทำอะไรให้จริงให้จังทุกอย่าง อย่าเหลาะๆ แหละๆ ขวางตา ขึ้นไปก็ให้เป็นนักมวยไม่ต้องยกครู ขึ้นไปคู่ต่อสู้ที่ไหนเดินเข้าไปผึงเลย ใส่ตูมเลย แพ้ก็แพ้ ไม่แพ้ตกเวทีแล้วก็ไปเลย อย่างนั้นซีจึงเรียกว่านักสู้ ทำอะไรเหยาะๆ แหยะๆ เราดูไม่ได้นะ เอาจริงเอาจังทุกอย่าง ผลก็ได้เป็นจริงขึ้นมา ไอ้เหยาะๆ แหยะๆ ผลก็เป็นอย่างนั้นละ ผลก็เป็นเหยาะๆ แหยะๆ ถ้าจริงจังผลเป็นอย่างนั้นละใส่ปั๊วะเลยๆ เราเรียกว่าเป็นคนขวางโลกเขาก็ถูก เป็นอย่างนั้นจริงๆ ว่าเอาอะไรเอาจริง ทำจริงเลย ไม่เหลาะแหละ
ทีนี้เวลาผลตอบแทนเหมือนกันนะ ผลตอบแทนนี่ก็เหมือนพายุบุแคมผึงเข้ามาเลย เหตุทำไว้อย่างไรๆ ผลจะเป็นอย่างนั้น เหตุเหยาะๆ แหยะๆ ผลจะเหยาะๆ แหยะๆ เหตุจริงจังผลจะจริงจังทุกอย่าง อย่าพากันเหยาะแหยะ ถ้าพิจารณาเหตุผลเหมาะแล้วเอาเลยๆ อย่างนั้น พากันเหยาะๆ แหยะๆ ใช้ไม่ได้นะ เราพูดจริงๆ ไปในงานพิธีต่างๆ เราไม่อยากไป รำคาญตา เช่นเขานิมนต์ไปในงานต่างๆ ไม่อยากไป แต่มันก็มาลากไปให้ได้ คือมันขวางตา ไปก็เหยาะๆ แหยะๆ อย่างว่า พิธีนั้นพิธีนี้ โอ๊ย กว่าจะเข้าถึงตัวแทบตาย นี้มันไม่เคยเป็นอย่างนั้น เพราะได้เคยฟัดกับกิเลสมาแล้ว เหยาะๆ แหยะๆ ไม่ได้ ว่าอย่างไรๆ ถึงไหนถึงกัน กิเลสไม่หงายเราหงาย ทีนี้กิริยาที่ใช้กับกิเลสออกมาใช้ภายนอกมันก็ไม่เหยาะแหยะ จริงจังเหมือนกัน
(หลังจังหันหลวงตาท่านไม่ได้แสดงพระธรรมเทศนา)
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz
|