ดุด่าเพื่อความดี
วันที่ 17 ตุลาคม 2548 เวลา 8:40 น. ความยาว 34.16 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win Narrow Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

ดุด่าเพื่อความดี

ก่อนจังหัน

         เออ วันพรุ่งนี้ออกพรรษาบิณฑบาตที่ศาลาข้างนอก เข้าใจเอานะ วันพรุ่งนี้บิณฑบาตข้างนอกที่ศาลาใหญ่ ไม่บิณฑบาตในบ้านนะ บิณฑบาตในวัดที่ศาลาใหญ่

        ตั้งแต่วันเข้าพรรษามาจนกระทั่งออกพรรษา ใครมีความดีที่เป็นสัจจะความจริง ของตัวเอง ตั้งไว้ตั้งแต่วันเข้าพรรษากระทั่งออกพรรษา มีข้อวัตรมีความดีอะไรบ้างล่ะ เราเคยประกาศให้ทราบแล้วตั้งแต่เริ่มวันเข้าพรรษา ควรที่จะได้สิ่งที่เป็นที่ระลึกอันสำคัญๆ ภายในใจของตัวเอง และปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนกระทั่งออกพรรษานี้ใครได้อะไรบ้างไหม หรือได้ตั้งแต่ความเหลวไหลๆ นั่นเหรอ

เราเคยอธิบายให้ฟังแล้ว วันเข้าพรรษาใครจะมีความสัตย์ความจริงอะไรๆ จนกระทั่งวันออกพรรษาไม่ให้ขาด เช่นอย่างใส่บาตร อย่างน้อยได้ใส่บาตรวันละหนึ่งองค์ก็เอา เรียกว่าทานบารมีของเรา วันพระหรือวันอะไร รักษาศีลให้ได้ตามความสัตย์ความจริง นี่เราเคยประกาศมาแล้ว มันได้เรื่องอะไรบ้างไหมล่ะ หรือได้แต่ความเลวไหลๆ นั่นเหรอ ถ้าเหลวไหลๆ อย่างนี้ไปแล้วคนมีแต่ความเหลวไหลเต็มโลกเป็นอย่างไร ความสัตย์ความจริงไม่มี

ถ้าธนบัตรก็มีแต่ธนบัตรปลอม ธนบัตรจริงไม่มี เป็นอย่างไรล่ะ กี่คนมีแต่คนปลอม ให้กิเลสถลุงเอาหมดๆ ด้วยความจอมปลอมของกิเลส คนจริงด้วยศีลด้วยธรรมมีไหม ให้ดูตัวเองนะ แต่ละคนๆ ให้ดูตัวเอง อย่าไปดูผู้อื่นผู้ใด เรานั้นละเป็นผู้รับผิดชอบ สุขทุกข์ดีชั่วอะไรอยู่กับเรา เราจะเป็นผู้รับผิดชอบตัวเราเอง จึงให้ดูเรามากยิ่งกว่าดูคนอื่นคนใด มันได้เรื่องอะไรบ้างไหมล่ะ หรือได้แต่ความเหลวไหลๆ เหรอ

โอ๊ย เราสลดสังเวชนะ กิเลสมันเหยียบหัวชาวพุทธเรา คนอื่นใดเราไม่ค่อยพูดละ พูดถึงเรื่องชาวพุทธนี่ละ กิเลสเหยียบย่ำๆ ขี้รดหัวด้วยนะ กิเลสมันขี้รดหัว หัวใจนั่นน่ะ ขี้ก็ขี้โลภขี้โกรธขี้หลงนั่นน่ะ ขี้รดหัวก็หัวใจเรานั่นละ มันมีแต่ขี้ในหัวใจเรา ขี้เต็มหัวใจ หัวใจเป็นส้วมเป็นถาน ให้ขี้กิเลสรดเอาๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไรนะ ยิ่งเหลวแหลกไปทุกวันๆ เวลานี้กิเลสยิ่งคืบหน้าๆ ของจริงมันเสกสรรเป็นของปลอมขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ หลอกมนุษย์คนโง่คนเซ่อ ของปลอมมันเสกขึ้นมาเป็นของจริงๆ ของจริงมันปัดออกๆ ให้มีแต่ของปลอมในคนๆ หนึ่ง

ธนบัตรเต็มศาลานี้มีแต่ธนบัตรปลอม เกิดประโยชน์อะไร พิจารณาซิ ที่จะอาศัยได้ก็คือธนบัตรจริง มีใบหนึ่งสองใบร้อยบาทพันบาทเท่านี้เราพึ่งเป็นพึ่งตายได้ ไอ้ธนบัตรปลอมเต็มศาลาพึ่งมันไม่ได้ กิเลสเต็มหัวใจๆ พึ่งมันไม่ได้นะ มีแต่มันจะเหยียบหัวๆ ตลอดเวลา ความสัตย์ความจริงความดีงามทั้งหลาย นั้นละเป็นธนบัตรจริง เราจะได้พึ่งอาศัยนั้นน่ะ มันมีบ้างไหมในหัวใจเรา เตือนทุกวันๆ เตือนด้วยความเข้มข้นเสียด้วยนะ

คือธรรมะสดๆ ร้อนๆ มรรคผลนิพพานสดๆ ร้อนๆ บาปบุญนรกสวรรค์สดๆร้อนๆ อยู่ในตัวของเราที่จะไปรับเหมาส่วนใด ส่วนดีหรือส่วนชั่ว ถ้าเราเป็นผู้รับเหมา นั่นละกองรับเหมา ความชั่วเต็มหัวใจเราตายแล้วจมเลยๆ ถ้าความดีไม่ต้องบอก ขึ้นเลยๆ เรารับผิดชอบเรา เคยแสดงให้ฟังตลอดมา เป็นยังไง ตั้งแต่วันเข้าพรรษามาสามเดือนนี่ได้อะไรบ้างเป็นความสัตย์ความจริงต่อหัวใจเรา พอจะได้รับความอบอุ่น นี่ละสำคัญตรงนี้

มันมีแต่ความเดือดร้อนซิ พอคิดถึงความดีไม่มี แต่เรื่องความเดือดร้อนนี้เต็มเนื้อเต็มตัว ตายไปแล้วจะเอาอะไร ตั้งแต่เป็นอยู่นี้ความเดือดร้อนก็เต็มหัวใจ ตายไปแล้วจะเอาความชุ่มเย็นมาจากไหน ไม่ได้นะ ใครจะพูดแน่นอนยิ่งกว่าศาสดาองค์เอก ในโลกนี้มีศาสดาองค์เดียวที่พูดแม่นยำๆ ไม่มีโกหกโลกๆ อะไรเลย แต่กิเลสโกหกหมด อยู่ในท้องก็โกหก ออกมาแล้วก็โกหก อยู่ในท้องแม่ก็โกหกแม่ ออกมาแล้วโกหกใครต่อใคร กิเลสเป็นอย่างนั้น ทั้งแม่ทั้งลูกมีแต่กิเลสโกหกตัวเองๆ และทั่วโลกนี้มีแต่กิเลสเต็มตัวโกหกโลก โลกเป็นโลกเหลวไหลโลเล โลกทั้งโลกหาสาระไม่ได้ มีแต่กิเลสเหยียบเอาๆ โอ๋ย น่าทุเรศนะ ธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นของเลิศเลอไม่อยากสนใจ ถ้าเป็นมูตรเป็นคูถแล้วขยำกันเลยๆ มูตรคูถคือความชั่วช้าลามกชอบนะจิตใจ ให้พากันพิจารณาให้ดีทุกคนๆ เอาละให้พร

หลังจังหัน

ผู้กำกับ จากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการออนไลน์ครับ “ทักษิณ” เมินสังคมมองใช้ กม.ฟ้องสื่อฯพร่ำเพรื่อ แขวะปูมหลังคนที่ทะเลาะกับตัวเองเบื้องหลังมีปัญหาผลประโยชน์ส่วนตัว พร้อมท้า “สนธิ” ฟ้องกลับได้เลย แต่กรณี “หลวงตา” ได้รับเมตตามาก่อนทำไม่ลง

วันนี้ (16 ต.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการฟ้องร้องสื่อที่ล่าสุดได้ฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันว่า “ก็ว่ากันไปตามกติกา เชื่อผมสิ ทุกอย่างมีกติกาสากลอยู่ ทุกคนมีเสรีภาพ แต่เสรีภาพถ้าไปละเมิดสิทธิคนอื่น คนอื่นเขาก็ต้องใช้สิทธิในการป้องกันการถูกละเมิดได้เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ว่าจู่ๆ อยากจะทำอะไรที่ละเมิดสิทธิคนอื่น แล้วตอนนี้มาบอกว่าไม่ได้นะผมเป็นฐานันดรพิเศษ ไม่ได้หรอก”

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีอีกหลายคดีหรือไม่ที่จะฟ้องร้องสื่อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่ทราบ ผมไม่ทราบ อยู่ที่ทางฝ่ายกฎหมายเขาดู ถ้าอะไรที่ไม่ล้ำไม่เหลือเกินไปนี่เขาไม่ทำหรอก อันนี้บางทีมันเกินไป และที่เกินไปเบื้องหลังก็ผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้นแหละ แต่ละคนที่ทะเลาะกับผม ปูมหลังชี้มาได้ทุกคนเลย ปกติผมไม่ค่อยทะเลาะกับใครอยู่แล้ว ส่วนใหญ่แล้วมีปัญหาผลประโยชน์ทั้งนั้น”

เมื่อถามว่า ตอนนี้สังคมกำลังมองว่าเป็นการใช้กฎหมายมากเกินไปจนกลายเป็นการละเมิดสื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า “ไม่มี ผมไม่ได้ใช้กฎหมายมากเกินไป บางคนใช้ไมโครโฟนมากเกินไป” เมื่อถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะฟ้องกลับ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ยินดีต้อนรับ ส่วนกรณีของหลวงตามหาบัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวทันทีว่า “ อุ๊ย อันนี้ท่านเมตตาผมมาก่อนเยอะเลย เพราะฉะนั้นผมก็ต้องเมตตาท่าน ”

หลวงตา เขาพูดนี้ถูกต้องนะ คือท่านเมตตาเรามาก่อน เราต้องเมตตาท่านกลับ ตั้งแต่เด็กมันยังเมตตาพ่อแม่ได้ อย่าว่าแต่พ่อแม่เมตตาเด็กเลย เด็กยังเมตตาพ่อแม่ได้ อันนี้ก็เหมือนกัน เราไม่ค้าน เข้าใจเหรอ เด็กมันสงสารพ่อแม่ได้ อันนี้ลูกศิษย์ทำไมจะสงสารครูบาอาจารย์ไม่ได้ ตั้งแต่ครูบาอาจารย์ยังสงสารลูกศิษย์ได้ เอาละเขาพูดถูกต้องดี อยากให้ลูกศิษย์ของเราคนนี้หรือคนใดก็ตามนำอันนี้ไปใช้ต่อครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่มีบุญมีคุณต่อเรา ให้ตอบท่านด้วยความดีงามของเรา เหมาะนะ ก็เท่านั้นไม่มีอะไร

ผู้กำกับ หนังสือพิมพ์ข่าวสดเขาลงว่า “คนที่ถือคติว่ารบกับผีดีกว่ารบกับคน วันนี้ยังอยู่ในเรือนจำ แต่ไม่รู้คนที่ตั้งใจรบกับพระจะไปจบลงตรงไหน เว้นแต่วิษณุ เครืองาม จะไม่เชื่อคติข้างต้นก็ลกป”.(หมายความว่าไง) เป็นคำย่อหมายถึงแล้วกันไปครับ

หลวงตา โอ๊ย ภาษาผีบ้า เราไม่ใช่ผีบ้ามันอ่านไม่ออกนะ อ่านไม่ออกก็จะว่าไงอีก

ทางโรงพยาบาลเราหนักมากนะ หนักมากจริงๆ จึงได้ขอไปทางรัฐมนตรีสาธารณสุขให้ไปจับเข่าขอจากนายกรัฐมนตรีอีกทีหนึ่ง ว่าหลวงตาขอเงินไปให้พวกโรงพยาบาล เราก็พูดเล่นไปอย่างนั้น คือมันหนักมากจริงๆ เรื่องขอมาๆ แหม มากจริงๆ  เดี๋ยวนี้ตึกยังสร้างอยู่ถึงสามหลังยังไม่เสร็จเวลานี้นะ สามหลังยังไม่เสร็จ นี่จ่ายเป็นงวดๆ เป็นระยะๆ ไป ส่วนเครื่องมือแพทย์สั่งเลยๆ ถ้ารับแล้วก็สั่งให้เลยๆ มีหลายอย่างนะ

เราที่ช่วยโลกไม่ทราบว่ากี่พันกี่หมื่นล้าน ว่าพันล้านเราไม่อยากพูด ถ้าว่าหมื่นล้านขึ้นไปๆ ว่างั้นเถอะ เราพูดได้เต็มปาก พอใจ เพราะเงินที่มาหาวัดป่าบ้านตาดนี้เรียกว่าเงินเพื่อโลกไปเลยทีเดียว ไม่ได้เพื่อเรา เขาถวายมาแบบไหนๆ เรากระจายออกเพื่อโลกทั้งนั้น ที่เขาถวายเราเป็นส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัว เวลาเข้ามาปั๊บก็ออกกระจายๆ อย่างนี้ตลอดมา เราช่วยจริงๆ เพราะฉะนั้นเราถึงพูดทุกสิ่งทุกอย่างได้เต็มปากของเรา ด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วย ด้วยความเมตตาด้วย ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยแก่พี่น้องชาวไทยเราตั้งแต่นายกฯ ลงมา เราพูดด้วยความเมตตาทั้งนั้นแหละ ถึงจะพูดเด็ดพูดเดี่ยวดุด่าว่ากล่าวอะไร พิษภัยที่ออกไปจากใจของเรานี้เรียกว่าไม่มี แม้เม็ดหินเม็ดทรายก็ไม่มี ดุด่าใครหรือว่าใครหนักเบา ก็ดุด่าเพื่อความดีต่างหาก เราไม่ดุด่าเพื่อทำลายนะ เราเชื่อหัวใจเราว่าหัวใจเรานี้ไม่มีภัย เมื่อบุญเมื่อคุณเต็มตัวแล้วยังเป็นคุณต่อผู้อื่นอีก

ส่วนจะหนักเบามากน้อยก็เหมือนเขาถากไม้ ไม้ลำไหนที่เขายังไม่ถากทำเป็นต้นเสา ไม้บางช่วงก็สม่ำเสมอ บางช่วงก็คดก็งอ การถากที่สม่ำเสมอก็ถากไปเรียบๆ ที่คดที่งอเขาก็ถากหนักมือ นายช่างถากเขาเป็นอย่างนั้น อันนี้การแนะนำสั่งสอนโลกก็มีเรียบๆ มีหนักมีเบาอยู่อย่างนี้ตลอดไป เพราะคนเรียบๆ คดงอต่างกัน การเทศน์จะให้เป็นแบบเดียวกันไม่ได้ แต่รวมทั้งหมดนั้นก็คือนายช่างเขาถากต้นเสานั้นให้เป็นบ้านเป็นเรือนนั้นเอง เอามาเป็นประโยชน์ อันนี้การแนะนำสั่งสอนโลกของเราเราก็เป็นอย่างนั้น

คำว่าแพ้ว่าชนะเราไม่มี มีแต่ความเมตตาครอบไปหมด ว่าตรงไหนไม่ได้ว่าด้วยเจตนาร้ายอะไร ว่าด้วยความสัตย์ความจริง ว่าด้วยความเมตตา ถ้าไม่ดีก็ให้แก้ไขกัน ถ้าดีแล้วก็ส่งเสริมให้ดีขึ้นอย่างนั้นต่างหาก เรื่องกิริยาของเราเราพูดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าไม่เป็นภัยต่อโลก ถ้าลงไม่ไปตีความหมายให้ผิดไป สำหรับกิริยาของเราที่ออกออกด้วยความเมตตาเพื่อความถูกต้อง และแก้ไขดัดแปลงสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายล้วนๆ ไปเลย เราไม่มีอย่างอื่นอย่างใด คือเราสอนโลกนี้สอนด้วยความเมตตาล้วนๆ ไม่มีพิษภัยเจือปนเลย เพราะเหตุไร เพราะหัวใจไม่มีพิษภัย หมดโดยสิ้นเชิงแล้ว

การสอนทุกสิ่งทุกอย่างจะหนักจะเบาก็เหมือนเขาถากไม้ มีหนักมีเบาเป็นธรรมดา สอนคนก็มีดุมีด่ามีหนักมีเบาเป็นธรรมดา เรียบๆ เป็นธรรมดาอย่างนั้น คนก็เทียบกับต้นเสาที่จะทำไปปลูกบ้านปลูกเรือนนั้นละ นี่ก็สร้างคนให้ดีให้มีรากฐานมั่นคงในตัวของตัวเอง ครอบครัวสังคมตลอดชาติบ้านเมืองให้แน่นหนามั่นคงไปด้วยกัน การแนะนำสั่งสอนก็เพื่ออย่างนั้นเราไม่เพื่ออย่างอื่น ใครจะมาตีความหมายเราว่าไปเป็นอะไรๆ กับใครนี้ผิดทั้งเพ เราไม่มี ถึงจะดุด่าว่ากล่าวหนักเบามากน้อยเพียงไรก็เป็นไปด้วยความเมตตา เจตนาเพื่อให้โลกได้รับความสงบร่มเย็นให้ถูกต้องดีงามเท่านั้น อย่างอื่นเราไม่มี ใครจะไปตีความหมายนอกจากนี้แล้วผิดทั้งเพ

ผิดแล้วก็ไปผิดตัวเองนะ สำหรับเราเราไม่ผิดเราพูดจริงๆ เพราะไม่มีอะไรผิดในหัวใจเรา ออกด้วยความถูกต้องทุกอย่าง ไม่ว่าหนักว่าเบามากน้อยเป็นไปด้วยความถูกต้อง พิจารณาเรียบร้อยแล้วออกๆ จะหนักจะเบาอะไรจะพิจารณาเรียบร้อยแล้วออก สมบูรณ์แบบๆ ควรหนักก็หนัก ควรเบาก็เบา เหมือนเขาถากไม้ไปเท่านั้นเองไม่มีอย่างอื่น

โลกสกปรกจะถือว่าเรานี้เป็นข้าศึกต่อชาติบ้านเมืองไปก็ได้ ที่เกี่ยวกับเราตำหนิติเตียนชาติบ้านเมืองตรงไหนๆ เช่นวงรัฐบาลเป็นต้นมา เหล่านี้ไม่ได้สูงกว่าธรรม ธรรมเหนือหมด ธรรมสอนด้วยความเมตตาล้วนๆ ธรรมไม่มีผิดละ สอนให้ถูกต้องแม่นยำ เราสอนโลกเราก็สอนอย่างนั้น เต็มไปด้วยเจตนาที่มีเมตตาล้วนๆ ในหัวใจ เราไม่มีอย่างอื่นอย่างใด ที่เราตะเกียกตะกายนี้ก็เพื่อโลกสงสารไม่ได้เพื่อเรา สำหรับเราอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าเขาไม่ว่าเป็นคำหยาบนะ ส่วนผู้ที่จะคอยหยิบคอยตะครุบเอาสิ่งหยาบๆโลนๆ มูตรคูถมันมีอยู่เยอะ สมมุติว่าเราจะพูดออกมานี้เขาจะว่าคำหยาบ ถ้าโดยลำพังเราแล้วนะ นั่ง นอน ตดป้าดๆ อยู่ก็ได้ไม่เป็นไร นี่หยาบหรือ เขาว่าหยาบ เอ้า เราตดก็ตดได้ ขี้ก็ขี้ได้ เราเคยตดเคยขี้มาแล้วทำไมจะเป็นของหยาบไป มันมีอยู่กับทุกคน

เรื่องราวเราก็พูดไปตามหลักความจริงธรรมดาๆ ธรรมเป็นอย่างนั้น ไม่ได้ถือว่าอันนั้นหยาบอันนั้นสกปรกอันนี้โสมม เป็นความรังเกียจ เป็นความรักชอบไปอย่างโลก ธรรมไม่มีอย่างนั้น ไม่รังเกียจ ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก คำว่ารังเกียจคือว่ารังเกียจอย่างถึงใจเคียดแค้นให้เขาอย่างนี้ไม่มี ถ้าว่ารักก็รักจนเป็นบ้าก็ไม่มี อย่างนั้นไม่มี พูดให้ตรงๆ ก็คือว่า รักไม่มี ชังไม่มี มีแต่ธรรมเสมอภาคไปหมด ธรรมเป็นอย่างนั้น เข้าสู่หัวใจใดหัวใจนั้นก็เป็นแบบเดียวกันนั้นหมด จะทำให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้ ที่จะให้เป็นอย่างโลกไม่มี ที่จะเป็นพิษเป็นภัยต่อโลกด้วยคำพูดคำจาเน้นหนัก หรือคำลักษณะดุด่าว่ากล่าวที่จะเป็นพิษเป็นภัยไปตามคำดุด่าว่ากล่าว บอกว่าไม่มี มีแต่ธรรมล้วนๆ ออกไป ตำหนิติเตียนหรือชมเชยตามหลักความจริงของธรรมเท่านั้นเอง

โลกเขาก็จะถือว่าเรานี้เป็นอะไรกับโลก เพราะมันมีเรื่อยที่จะให้ได้พูดได้จานะ เพราะธรรมดูโลกดูทั่วถึงไปหมด ไม่ได้ดูเฉพาะเห็นแก่เราเห็นแก่ปากแก่ท้องเรา เห็นแก่พรรคแก่พวกของเราภาคของเรา ไม่ได้มีในธรรม เห็นแก่ สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น นั่นเห็นอันนี้ละ เสมอกันหมดเลย เราสอนโลกก็สอนอย่างนั้น จะหนักจะเบาก็เพื่อความดีงามทั้งหมด เราจึงไม่มีอะไรกับโลก ส่วนโลกเขาจะมีกับเรา แต่มีมันก็ไปมีกับเขาเองละ มันย้อนไปหาเจ้าของเอง เพราะเราไม่มีอย่างนั้น

เขามาตีเอาว่าหลวงตาบัวว่าคนนั้นอย่างนั้นว่าคนนี้อย่างนี้ เขาว่าด้วยความถึงใจ ว่าดีเขาชมในใจของเขาจริงๆ ว่าชั่วเขาเคียดแค้นในใจของเขาจริงๆ นี่กระเทือนหัวใจตัวเอง ทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่ว ถ้าฝ่ายดีค่อยยังชั่ว แต่ฝ่ายชั่วทำลายตัวเอง แต่สำหรับเราจะพูดไปที่ไหนเราไม่มีทั้งนั้นแหละ จะเป็นเสียงเหมือนฟ้าดินถล่มก็ตามมันก็เหมือนฝนตกลงมานี้เย็น ฟ้านี้เปรี้ยงๆ อยู่ข้างบน เวลาฝนตกลงมาน้ำมันเย็น อันนี้เสียงอรรถเสียงธรรมเปรี้ยงๆ แต่รสแห่งธรรมนั้นเย็นฉ่ำไปหมด นั่นต่างกันนะ

วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละไม่พูดมาก วันนี้เทศน์พอได้ออกทางวิทยุบ้างนะ.นี่พูดอย่างนี้ก็ออกวิทยุทั่วประเทศไทยนะนี่ ออกทั่วประเทศไทย เพื่อให้เขาได้ฟังบ้างตอนเช้า ที่เราเทศน์ทุกเช้าๆ ไม่มากก็น้อย ถ้าเทศน์ก่อนจังหันน่ะเข้มข้นดี พอฉันเสร็จแล้วมันอะไรก็ไม่รู้ มันมีสะเปะสะปะไปด้วย เวลาหลังจังหันแล้วมันมักจะมีสะเปะสะปะสับสนปนกันไปด้วย

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก