เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
ดุเพื่อพยุง
ก่อนจังหัน
กรุณาทราบทั่วกันทองคำยังมีความจำเป็นอยู่มาก เรากวนอย่างแต่ก่อนไม่กวนแหละ แต่จะกวนแบบนี้ แบบเรียนให้ทราบด้วย แล้วขอบิณฑบาตอย่างเงียบๆ ด้วย แล้วออดอ้อนด้วย อยู่ในนั้นแหละ ให้ทำอย่างแต่ก่อนไม่ทำ คือหลวงตาว่ายังไงต้องเป็นอย่างนั้น ว่าพักไหนเป็นพักนั้นๆ ไม่เคลื่อนคลาด คำพูดเรามาจากความสัตย์ความจริงทุกอย่าง เราทำอะไรเราจริงทุกอย่างเมื่อลงตรงไหน เวลานี้เป็นน้ำไหลซึมก็ให้เป็นน้ำไหลซึม ไม่เคาะกระเป๋านั้นกระเป๋านี้เหมือนแต่ก่อน แต่ก่อนไปเขาเห็นหน้าเขาจะวิ่งเข้าป่า ไม่อย่างนั้นหลวงตาจะไปเคาะกระเป๋าเขา เดี๋ยวนี้ไม่เคาะ ออดอ้อนเอา
หลวงตาไม่มีเวลาอยู่ละ วุ่นตลอดเวลานะ ความวุ่นนี้ก็วุ่นเพื่อชาติไทยของเรา ให้มีความแน่นหนามั่นคง อุ่นหนาฝาคั่งขึ้นเป็นลำดับ สำหรับหลวงตาเองชี้นิ้วเลยว่าไม่เอาอะไรทั้งหมด บอกว่าไม่เอาอะไรทั้งหมด แต่ความดีดความดิ้นหลวงตาเป็นที่หนึ่ง ดีดดิ้นกวนนั้นกวนนี้เรื่อย หากไม่เอา หากกวน หากไม่เอา ให้พรแล้วบิณฑบาต
หลังจังหัน
เราพูดได้อย่างเปิดอกเรื่องการเสียสละ เราไม่มีอะไรเก็บ ไม่มี มีแต่ออกตลอด มาเท่าไรออกหมดๆๆ เรื่อยๆ แต่มันก็แปลกอยู่ที่ว่ามันหลั่งไหลออก นึกว่าจะหมดมันก็ไม่หมดนะ มันก็เข้าของมันอยู่เรื่อย โดยไม่ไปหาขอหาร้องที่ไหนละ มันก็มาของมันเรื่อยและออกตลอดอยู่อย่างนี้ตลอดมา พูดถึงเรื่องการเสียสละเราอยากยกนิ้วเลย วัดในทั่วประเทศไทยชิ้นิ้วว่าวัดป่าบ้านตาด บอกอย่างตรงๆ คือเราพูดอย่างเป็นอรรถเป็นธรรม ไม่เอนไม่เอียง ไม่เข้านู้นเข้านี้ ไม่เหยียบนั้นยกยอนี้ ไม่เอา เราเอาเป็นธรรม
เท่าที่เราทำมานี้เรียกว่าไม่มีอะไรเหลือเลย มีเท่าไรออกหมดๆ หมดตลอด แล้วมันก็มาตลอดนะ แปลกอยู่ มาอยู่เรื่อยๆ อย่างนั้นละ เราก็ไม่ไปหาขอหาร้องที่ไหน มันหากมาของมัน ได้ช่วยอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ละ เพราะเราตั้งหน้าช่วยโลกจริงๆ เราไม่เอาอะไรแล้วในโลกทั้งสามนี้ เราบอกเราปล่อยหมดแล้ว มีแต่เปิดออกๆๆ มาเท่าไรออก ออกด้วยความเมตตานะ ไม่ใช่ออกด้วยอะไร ความเมตตานี้สำคัญมาก มีเท่าไรเป็นมีไม่ได้ละความเมตตา หมดเลย ความเมตตากวาดออกหมด ความตระหนี่กวาดเข้า ความเมตตากวาดออก ไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว แล้วมันก็มาของมันอยู่อย่างนั้นละ ไม่ไปหาขอหาร้องรบกวนใคร แต่มันก็มาของมันอยู่อย่างนั้นเรื่อยๆ
คิดดูซิอย่างเวลานี้พวกตึกโรงพยาบาล เดี๋ยวนี้ก็สี่ตึกห้าตึก ลาดยาวนี้ก็อีก นี่ก็สองหลัง ๔๗ ล้าน มันก็ค่อยถูค่อยไถกันไปอย่างนี้ละ ให้มีมากกว่านั้นมันก็ไม่มาก มันพอถูพอไถกันไปเรื่อย เราทำด้วยความเป็นธรรมจริงๆ เราไม่มีโลกแฝงเลย ไม่ว่าจะธรรมดา พูดธรรมดา หรือนิ่มนวลอ่อนหวาน พูดหยอกพูดเล่น พูดเด็ดพูดเดี่ยว เฉียบขาดอะไรมีแต่ออกเป็นธรรมล้วนๆ เลย เราไม่มีเรื่องของกิเลสเข้ามาแฝงหัวใจ เช่นอย่างดุด่าว่ากล่าว เหมือนกับว่าจะกัดจะฉีกนี้ความจริงหัวใจไม่มี แน่ะ ก็มีแต่ความเมตตาเพื่อจะพยุง
ดุก็ดุเพื่อพยุง ไม่ใช่ดุเพื่อเหยียบย่ำทำลาย เป็นดุ เป็นเด็ดเป็นขาดเพื่อพยุงทั้งนั้นๆ เราไม่มีเพื่อทำลาย กิริยาอาการที่ออกทุกด้านทุกทางเรียกว่าเป็นธรรมล้วนๆ ที่มารวมลงแล้วมันก็มาอยู่ที่หัวใจ ถ้าใจเป็นพิษนี้ออกอะไรเป็นพิษไปหมดเลยนะ ใจเป็นพิษเสียอย่างเดียวออกอะไรเป็นพิษเป็นภัยไปหมด ถ้าเป็นคุณเป็นธรรมเสียอย่างเดียวออกอะไรเป็นธรรมไปหมด เพราะฉะนั้นจึงสำคัญอยู่ที่หัวใจ โลกอันนี้มีอยู่ที่หัวใจของสัตว์โลก เพราะฉะนั้นท่านจึงสอนให้มีการอบรม ให้ใจได้รับความดีงามเข้าสู่ตัวเองแล้วจะกระจายไปด้วยความดีงาม ถ้าใจมีแต่พิษแต่ภัยออกไปไหนเผาไปหมด
ใจนี่มีทั้งกิเลสมีทั้งธรรม กิเลสเป็นฟืนเป็นไฟ ธรรมเป็นน้ำดับไฟ เป็นอย่างนั้น มันต่างกันนะ เวลาได้บำเพ็ญให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียทุกอย่างแล้วนี้ มันไม่มีอะไรสงสัยแล้วในโลกนี้ มันเต็มอยู่ในหัวใจหมดทุกอย่างบรรจุในนี้หมด ดี-ชั่วรู้รอบๆๆ กันไปหมด มันปัดของมันเอง มันเข้าไม่ติดพวกชั่วอะไรไม่ติด มันปัดของมันทันทีเป็นอัตโนมัติ เป็นเองๆ ถ้าดีก็คัดเข้าๆ ไม่ดีปัดออกๆ เหมือนเขานับธนบัตร ธนบัตรอันไหนปลอมปัดออกทันที อันจริงเอาเข้าๆ อันไหนปลอมปัดออกๆ ใจก็เหมือนกัน คัดเลือกสิ่งดี-ชั่วทั้งหลาย อะไรที่จะเป็นภัยนี้ปัดออกทันทีๆ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz
|