งานของสมณะ
วันที่ 13 กันยายน 2524 เวลา 4:30 น. ความยาว 15.13 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๔

งานของสมณะ

 

การสร้างกินมีทำเลที่ทำงานเป็นประจำทุกสัตว์ทุกบุคคล จะอยู่เฉยๆ ไม่ได้เพราะธาตุขันธ์นี้มันรบกวนวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา ทั้งความหิวความกระหาย ทั้งโรคภัยไข้เจ็บมีอยู่เป็นประจำในขันธ์ จะเรียกว่าขันธ์นี้หาความสงบพอตัวไม่ได้ก็ไม่ผิด เพราะขันธ์นี้เกิดขึ้นมาในท่ามกลางแห่งโลก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จึงต้องมีความบกพร่องต้องการและแปรปรวนภายในตัวอยู่เสมอ โลกจึงต้องทำงานกันไม่ว่าสัตว์ว่าบุคคล ต้องทำงานเพื่อปากเพื่อท้องเพื่อความเป็นอยู่ เพื่อชีวิตรอดไปเป็นวันๆ จนถึงอวสานของชีวิตนั้นๆ โลกจึงเป็นปกติสุขโดยไม่ต้องขวนขวายอะไรไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นโลกจึงมีงานประจำตน นอกจากมีงานประจำตนแล้ว ยังต้องมีสถานที่ทำเลแห่งการทำงานนั้นๆ

มนุษย์เราอยู่สถานที่ใดก็มีที่ทำงานเป็นของตน และมีโรงงานเป็นที่ผลิตเครื่องอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อธาตุเพื่อขันธ์ เพื่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ทั่วๆ ไป และงานที่โลกทำนั้น ผลที่ถูกผลิตออกมาเป็นความสำเร็จแก่ความต้องการและธาตุขันธ์ ให้โลกเห็นอยู่อย่างชัดเจน เช่น โรงงานผลิตสิ่งนั้น สิ่งนั้นปรากฏขึ้นมา โรงงานนั้นผลิตสิ่งนั้น สิ่งนั้นปรากฏขึ้นมาจากโรงงานนั้นๆ นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ

ที่นี่ทางพระพุทธศาสนาก็มีงานประจำตน มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการเยียวยารักษาจิตใจของตนให้มีความสงบร่มเย็น ไม่ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเพราะขาดธรรมอันเป็นอาหารทางใจ เฉพาะอย่างยิ่งนักบวชย่อมมีโรงงานเป็นเนื้อเป็นหนังเป็นกิจจะลักษณะ เป็นหลักฐานมั่นคง เป็นกฎเป็นเกณฑ์ยิ่งกว่างานอื่นใดเพศอื่นใด ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงทรงสั่งสอน สถานที่ทำงานและงานอันเป็นความจำเป็นที่จะได้ผลเป็นที่พอใจ และความประสงค์ของผู้ต้องการผลอันเป็นที่พึงหวัง เช่น ทรงสั่งสอนสถานที่ที่อยู่อาศัย ทรงสั่งสอนงานที่ทำไม่ให้ผิดพลาด ทรงสั่งสอนว่าให้แสวงหาอยู่ในสถานที่สงัด เช่น ในป่า ร่มไม้ ชายเขา ตามถ้ำ เงื้อมผา ป่าช้า ป่าชัฏ อันเป็นที่สงัดไม่เป็นที่พลุกพล่านด้วยสิ่งรบกวนต่างๆ เพื่องานที่ทำนั้นจะได้เป็นไปเพื่อความราบรื่นดีงามสมความมุ่งหมายไม่ล่าช้าเนิ่นนาน

งานที่ทำก็คือการภาวนา พิจารณาตั้งแต่ขั้นสมถะคือความสงบเย็นใจ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น สมถธรรม ๔๐ ห้องที่ทรงแสดงไว้ เพื่อความสงบระงับของจิตซึ่งเป็นตัวฟุ้งซ่านวุ่นวาย ด้วยอำนาจแห่งโรคภายใน ได้แก่กิเลสตัณหาอาสวะเครื่องหมักดองอยู่ภายในจิตใจ ให้สงบตัวลงไปด้วยอุบายวิธีแห่งธรรมนั้นๆ เช่น อานาปานสติเป็นต้น นี่คืองานขั้นหนึ่งเป็นขั้นเป็นตอนซึ่งพูดในภาคทั่วๆ ไป ในขณะที่จะสับงานหรือเปลี่ยนงานในเวลาเช่นนั้นก็มี เช่น วิปัสสนาการพิจารณาแยกแยะอาการของกายส่วนต่างๆ ด้วยอุบายของสติปัญญาอันเป็นความฉลาดแหลมคม ให้รู้ตามความเป็นจริงในธาตุในขันธ์ทั้งภายนอกภายใน ตลอดสิ่งทั่วๆ ไปซึ่งอยู่ในวงแห่งการพิจารณาของปัญญา จะพึงรู้รอบขอบชิดตามกำลังของตน

เฉพาะอย่างยิ่งวัดป่าบ้านตาดก็เปรียบเหมือนกับโรงงานอันหนึ่ง ที่เราทั้งหลายเป็นผู้มุ่งต่องานและผลของงานคืออรรถธรรม ได้มาสู่สถานที่นี้ หัวหน้างานก็ได้แก่ผู้เป็นหัวหน้าวัด ผู้ทำงานเพื่อเป็นเนื้อเป็นหนังเป็นสารคุณจริงๆ ก็คือตัวของเราแต่ละองค์ๆ ที่มาประพฤติปฏิบัติเพื่อกำจัดสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่ฝังจมอยู่ภายในใจ วันหนึ่งๆ เราทำงานจากอุบายการแนะนำสั่งสอนของหัวหน้างานอย่างไรบ้าง อันนี้เป็นสิ่งที่ควรคิดอย่างยิ่งสำหรับนักบวชเราที่มุ่งหน้ามาศึกษาอบรม

งานทางโลกเขาทุกโรงงาน เมื่อตั้งโรงงานและผลิตงานนั้นๆ ขึ้นมา ผลของงานย่อมปรากฏขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอันอย่างประจักษ์ แต่โรงงานของเราที่เต็มไปด้วยคนงานคือสมณเพศสมณกิจ ทำงานอยู่ภายในวัดนี้ มีผลงานอย่างไรบ้างที่ปรากฏขึ้นมา พอเป็นความอบอุ่นภายในใจ ผลงาน เช่น สมถธรรม คือความสงบเย็นใจเป็นอย่างไรบ้าง วิปัสสนาธรรม คือความรู้แจ้งเป็นลำดับในสภาวธรรมทั้งหลายด้วยปัญญาของตนปรากฏขึ้นอย่างไรบ้าง นี่เป็นสิ่งที่เราจะต้องคิดให้ถึงใจทุกๆ รูปทุกๆ องค์

สถานที่ทำงานก็คือสถานที่เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา งานก็คือ สมถกิจ วิปัสสนากิจ โลกเขาทำงานเขามีผลของงานปรากฏขึ้นมา นักบวชเราทำงานมีผลปรากฏอย่างไรบ้าง ขอให้พากันคิดอย่างถึงใจ ถ้างานนี้ไม่ปรากฏแก่จิตใจบ้างเลยก็แสดงว่าเรานี้เจ๊งไปทุกวัน ทำงานไม่เห็นผลมีประโยชน์อะไร ขายหน้าเปล่าๆ โลกเขาตั้งโรงงานขึ้นมาสิ้นเปลืองเงินไปกี่ล้าน แต่ทำงานลงไปไม่เห็นผลของงานเลย ทำไมโรงงานนั้นๆ จะไม่ล่มจม ต้องล่มจมโดยไม่ต้องสงสัย งานของพระปฏิบัติเราก็ต้องล่มจมแบบเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าใจหายน่าเสียดายยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก

ที่นี่ก็เป็นสถานที่อบรมที่เรียกว่าโรงงาน เราทั้งหลายแต่ละท่านๆ เป็นผู้มุ่งทำงานในหน้าที่ของพระ มีศาสดาองค์เอกเป็นผู้วางโครงการไว้โดยถูกต้องแม่นยำดังธรรมท่านว่า สวากขาตธรรม ตรัสไว้ชอบแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง นิยยานิกธรรม พร้อมอยู่เสมอที่จะยังผลให้ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามสวากขาตธรรม ได้รับผลเป็นที่พอใจ

งานทั้งสองประเภทคือเหตุ ได้แก่การดำเนิน และผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินของเราในทางสมณกิจสมณธรรมนี้เป็นอย่างไรบ้าง หากยังไม่ปรากฏผลก็แสดงว่า นี่เราเริ่มเหลวไหลไปโดยลำดับทุกรูปทุกนาม ดีไม่ดีเหลวไหลจนกระทั่งหัวหน้างานว่าการสั่งสอนธรรมะนั้นเป็นโมฆธรรม หาสาระไม่ได้ หากว่าการสั่งสอนนั้นถูกต้องตามแนวสมถวิปัสสนาเป็นธรรมสาระ ผู้ปฏิบัติตามทำไมจึงไม่เห็นผล มันต้องส่อแสดงมาถึงหัวหน้าจนได้ แต่นี้ได้แนะนำสั่งสอนหมู่เพื่อนอย่างเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถที่มีอยู่ และด้วยความแน่ใจว่าไม่ผิดจากวิธีการสั่งสอนทุกแง่ทุกมุมทั้งเหตุและผล เพราะได้ดำเนินมาแล้วอย่างโชกโชนไม่สงสัย ทั้งการปฏิบัติก็ได้ตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลานมาแล้ว ตั้งแต่ภาคปฏิบัติทุกขั้นทั้งถูกทั้งผิด อันเป็นครูเป็นอาจารย์สอนตนทั้งสิ้น

อันดับต่อมาก็ได้มาแนะนำสั่งสอนหมู่เพื่อนและประชาชน ตามวิธีที่ตนดำเนินมาแล้ว ผิดหรือถูกประการใดก็ถือเป็นครูเป็นอาจารย์ของตนมาทุกระยะแล้ว จึงนำการปฏิบัติทั้งเหตุและผลนั้นมาสั่งสอนหมู่เพื่อน เพราะฉะนั้นจึงไม่สงสัยทั้งเหตุและผลที่ตนได้ดำเนินมา ด้วยเหตุนี้หมู่เพื่อนควรพิจารณาด้วยดีและมั่นใจในแนวทางที่สั่งสอนว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง ถ้าตั้งใจปฏิบัติตามจริงๆ ไม่เถลไถลไปทางอื่น

อย่าสงสัยเรื่องอะไรในโลก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา อันเต็มไปด้วยป่าช้าความเกิดตาย และเต็มไปด้วยกองทุกข์คลุกเคล้ากันอยู่นี้ ไม่มีอะไรพิเศษนอกเหนือไปจากนี้ มีเฉพาะอมตธรรมที่จะเกิดขึ้นจากผลของงานที่เราผู้ปฏิบัติอยู่เวลานี้เป็นสำคัญ ต้องเอาให้งานนี้สำเร็จจนได้แม้ขั้นใดขั้นหนึ่ง ถ้างานนี้ไม่สำเร็จเลยต้องถือว่าเหลวไหลนักปฏิบัติเรา

เราพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเวลานี้ เพศก็พร้อมคือเป็นวัตถุสมบัติภายในตัวเรา หากจะวิบัติในตัวเราเวลานี้ก็คือสติวิบัติ ปัญญาวิบัติสำหรับการแก้กิเลสประเภทต่างๆ เท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ฟื้นได้อบรมให้เกิดให้มีได้ ดัดแปลงได้ ทำให้ฉลาดได้ไม่สุดวิสัย พระพุทธเจ้าจึงสอนให้อบรมให้เห็นผลงานที่ปฏิบัติ การปฏิบัติงานไม่เห็นผลงานเลยเรียกว่าเหลวไหลที่สุด นักบวชเหลวไหลนี้ดูไม่ได้นะ เราแต่ละรายๆ เหลวไหลดูได้อย่างไร ไม่อับอายเจ้าของเหรอ และไม่อายศรัทธาผู้สนับสนุนด้วยปัจจัยสี่มาแต่วันเริ่มบวชละเหรอ โลกเขายังรู้จักอายกัน เราเป็นพระแท้ๆ ทำไมจะไม่รู้จักอายเขา

เราปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์แท้ๆ ที่ก้าวเข้ามาสู่วงพระศาสนาด้วยความเป็นพระศากยบุตรองค์อาชาไนยผู้ชนะเลิศในไตรภพแท้ๆ ถอยได้อย่างไร หน้าที่การงานของเรานี้เป็นงานที่เลิศประเสริฐตามทางศาสดาโดยแท้แล้ว ทำไมจึงจะกลายเป็นงานเหลวไหล พระเหลวไหล ผลไม่ปรากฏ ขัดกันกับธรรมขัดกันกับหลักศาสนา นอกจากขัดกับหลักศาสนาแล้ว ยังจะเป็นข้าศึกต่อศาสนาและเป็นข้าศึกต่อเราด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้น จงพากันคิดให้ดี ตีกิเลสให้แตกพ่าย คลายกิเลสให้หลุด ถึงวิมุตติธรรมภายในปัจจุบันชาตินี้ อย่าลังเลเลื่อนลอยถอยทัพกลับแพ้ จะแย่ไปตลอดกัปกัลป์หาสิ่งประกันตัวไม่ได้

อันใดที่ถือว่าเป็นสิริมงคลแก่เราเวลานี้ ก็คือการดำเนินตามหลักธรรมของศาสดา เอ้า ห้ำหั่นกิเลสตัวมหาภัยลงไป อย่าออมแรง เป็นก็เป็นตายก็ตาย ในโลกนี้มีป่าช้าเต็มไปหมดอย่าว่าแต่เราอย่างเดียวเลย โลกทั้งโลกขึ้นชื่อว่าสัตว์สังขารแล้ว ต้องมีการเกิดการดับการล้มการตายเหมือนกันไม่มีทางสงสัย ไปสถานที่ใดมีแต่ป่าช้าของสัตว์ของบุคคล ก่อนจะตายก็ดิ้นรนกระวนกระวาย จนกระทั่งไปไม่ได้แล้วค่อยยอมตาย นี่ไม่ใช่กองทุกข์บีบบังคับจะเป็นอะไร สงสัยหาอะไรกันอีก

เราสงสัยอะไรในโลกแห่งกระทะที่ครอบศีรษะเรา หรือทอดเราเหมือนกับเนื้อกับปลาอยู่เวลานี้ ด้วยความทุกข์ทรมานต่างๆ เราสงสัยอะไรอยู่อีก ก็มีทางเดียวที่จะกระโดดให้รอดพ้นไปได้จากกองฟืนกองไฟคือ ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา เป็นต้น ด้วยการปฏิบัติเพื่อเอาตัวรอดเป็นยอดเรา ยอดธรรมนี้เท่านั้น ซึ่งเป็นทางอันเอกเป็นสถานที่เกษม เป็นธรรมเลิศภายในใจที่พาให้ข้ามพ้นไปได้ ด้วยความปลอดภัยไร้ทุกข์โดยประการทั้งปวง

ฉะนั้นจงพากันทำให้ถึงใจ ในการประพฤติปฏิบัติอย่าท้อถอยอ่อนแอนะ ไม่มีผลประโยชน์อะไรเกิดขึ้นจากความท้อถอยอ่อนแอ ความท้อแท้เหลวไหลเลย ผลจะเกิดขึ้นเพราะความขยันหมั่นเพียร ความอุตส่าห์พยายามต่างหาก เฉพาะอย่างยิ่งอิทธิบาททั้ง ๔ คือ ฉันทะ พอใจในอรรถในธรรมเพื่อความพ้นทุกข์นี้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่พอใจกับสิ่งอื่นใด วิริยะ เพียรเพื่อความพ้นทุกข์ถ่ายเดียว เพราะเราเคยจมอยู่ในทุกข์มานาน ไม่เป็นที่สงสัยและประจักษ์ใจทุกคน จิตตะ มีความรักความใฝ่ใจในงานของตนอยู่เสมอไม่จืดจาง วิมังสา ทำอะไรๆ ให้คิดอ่านไตร่ตรอง อย่าสักแต่ว่าทำ ให้มีความจงใจคือสติติดแนบไปด้วย ปัญญาพิจารณาใคร่ครวญเสมอ นี่คืองานเพื่อความหลุดพ้น อิทธิบาท แปลย่อว่าแดนแห่งความสำเร็จ ไม่มีงานใดที่จะถูกต้องและเหมาะสมยิ่งกว่าอิทธิบาททั้ง ๔ อันเป็นแดนสำเร็จนี้ไปได้เลย

จงปลงใจลงในธรรมเหล่านี้ ถ้าอยากหนีทุกข์ไม่จมอยู่กับมันตลอดไปน่ะ และจงทราบโดยทั่วกันด้วยว่า กิเลสทุกประเภทไม่เคยสอนให้สัตว์โลกเบื่อทุกข์และหนีทุกข์ นอกจากกล่อมให้หลงเพลินลืมตัวและจมอยู่ในทุกข์ถ่ายเดียว ไม่หยิบยื่นอะไรมาผลัดเปลี่ยนพอได้หายใจคลายทุกข์บ้างเลย มีธรรมเท่านั้นสอนสัตว์โลกให้เบื่อหน่ายคลายทุกข์ จนบรรลุถึงบรมสุขไม่มีอะไรเป็นคู่แข่งได้

เมื่อทราบตามความจริงนี้แล้ว จงดูใจตัวเองและถามใจตัวเองว่า จะยึดเอากิเลสเป็นศาสดา สรณํ คจฺฉามิ หรือจะยึดเอาศาสดาและธรรมเป็น สรณํ คจฺฉามิ และถามผลของการยึดนั้นด้วยว่า สัตว์โลกทุกข์เพราะกิเลสหรือทุกข์เพราะธรรมอย่างจริงใจ อย่าถามเล่นๆ ทำเล่นๆ กิเลสจะหัวเราะเอาจะว่าไม่บอก เพราะเพลงของกิเลสไพเราะเพราะพริ้งและอ้อยอิ่งสุดประมาณที่จะตามรู้ทัน ถ้าไม่ใช่วิสัยของธรรมและผู้มีธรรม จะไม่มีวันค้นพบต้นสายปลายเพลงของมันได้เลย ถ้าอยากค้นให้พบเพลงอันอ้อยอิ่ง แต่แสนจอมปลอมของมัน ก็จงผลิตสติ ปัญญา ศรัทธา ความเพียรเข้าให้พอตัว จะต้องเจอร่างยักษ์ร่างผีของมันที่ฝังจมอยู่ภายในใจชนิดใจหายใจคว่ำ เพราะความเห็นโทษของมันประจักษ์ในวันหนึ่งแน่นอน


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก