|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : น้ำใส ถามเมื่อวันที่
6 มี.ค. 2547 |
พิจารณาอายตนะ
หลวงตาเจ้าค่ะ หนูปฏิบัติ โดยการรวมจิต ให้เป็นสมาธิโดยวิธิดูลมแต่หนูมิได้สนใจลม ดูเอาสติจดจ่ออยูที่ตัวที่ไปรู้ลมค่ะ แล้วก็ นำมาพิจารณาถึงเรื่องสิ่งต่างๆทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นธาตุ(ขี้เถ้า) แล้วก็ พิจารณาหลักไม่เที่ยง เป็นทุกข์ อนัตตา เจ้าค่ะ พอทำส่วนนี้ชำนาญ ก็นำมาพิจารณาว่าเหตุใดสิ่งต่างๆ เป็นธาตุ(ขี้เถ้า) ในเมื่อเข้าใจตามความเป็นจริงแล้ว เมื่อมีสิ่งต่างๆ มากระทบ ยังมีความเข้าใจ การรับรู้อยู่ล่ะ จึงมาพิจารณาในส่วนของ อาตนะภายนอกและภายในกระทบกันทำให้เกิด นามความรู้สึก ค่ะ ก็ เห็นระบบนี้ แล้วเห็นว่ามีตัวจิตเป็นผู้ถอยหลังออกมาได้ค่ะ และก็พิจารณาลงหลักไตรลักษณ์ แต่ขณะที่จิตแม้จะถอยออกมาจากกลุ่มนามความรู้สึก ก็ยังมีความรู้สึกอยู่คือมันจะมีความรู้เฉพาะตัวว่ามันไม่ใช่ทุกอย่าง แต่จิตมันมีมันคือความรู้สึกที่รู้ว่าไม่ใช่ แต่เป็นความรู้สึกที่เหมือนสำคัญมามีตัวมัน (เหมือนเป็นความรู้สึกที่อยู่ลึกสุด ๆค่ะ) หนูก็พยายามหาทางถอดถอนค่ะ หลวงตามีข้อแนะนำหนูหน่อยนะค่ะ
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2547 |
เรียนคุณใช้นาม น้ำใส หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาให้คุณ เมื่อเช้าวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
หลวงตา : เท่าที่พิจารณามานี้ถูกต้องแล้ว ให้พิจารณาตามที่เคยพิจารณามา เรื่องความชำนิชำนาญและความละเอียดลออ และความสุดขีดของมันจะอยู่ในจุดที่พิจารณานี้ถูกต้องแล้ว เป็นทางเดินเพื่อความถูกต้องแล้ว เข้าใจหรือ เอ้า ถ้ายังไม่สิ้นจะสิ้นจุดนี้ ถ้ามันสิ้นก็รู้ตัวเอง สนฺทิฏฺฐิโก เข้าใจ? ไม่พูดมากแหละอันนี้ย่อๆ
___________
คุณสามารถรับชมวีดิโอ และถอดเป็นตัวหนังสือเต็มกัณฑ์ของเทศน์วันนี้ ๑๐ มีนาคม ๒๕๔๗ ได้ที่ http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2666&CatID=2
|
|
|