คำถาม 
โดย : อดิสรณ์ ถามเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2547

พระธรรมวินัยเกี่ยวกับการชุมนุมของพระสงฆ์

กราบนมัสการหลวงตาที่เคารพอย่างสูง
    ๑.   เกล้ากระผมได้ติดตามเหตุการณ์กรณีการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รู้สึกสลดสังเวชกับการแก้ไขปัญหาของผู้มีอำนาจในรัฐบาล ที่มาแห่งปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือการใช้กฎหมายและมีนักกฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้องหลายคน ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดความเข้าใจกันว่านักกฎหมายทุกคนใช้เทคนิคในทางกฎหมายแสวงประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม เกล้ากระผมเป็นนักกฎหมายคนหนึ่ง ขอกราบเรียนว่า นักกฎหมายโดยส่วนใหญ่ไม่ได้มีลักษณะเช่นนั้น  เพราะท่านเทิดทูนความเป็นธรรม มีความรับผิดชอบต่อสังคมในมโนสำนึก  ยิ่งกว่านั้นท่านยังรังเกียจผู้ที่สอนหลักการทางกฎหมายที่เลิศลอย แต่กลับปฏิบัติในสิ่งตรงข้าม จนได้สมญานามว่านักวิชาการขายตัว บุคคลเหล่านี้แม้จะมีความเก่งกาจสักเพียงใด   ก็ไม่ได้รับการยอมรับนับถือจากนักวิชาการกฎหมายโดยแท้  จึงขอกราบเรียนย้ำว่านักกฎหมายส่วนใหญ่ยังยึดหลักความถูกต้องชอบธรรม

๒. เกล้ากระผมได้ชมรายการกรองสถานการณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ ซึ่งมีสมมติสงฆ์ ๒ รูป กับผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติร่วมออกรายการ  รู้สึกแปลกพิกลบอกไม่ถูก หลังจากนั้นเกล้ากระผมได้มีโอกาสสนทนากับเพื่อน  จึงอดไม่ได้ที่จะเขียนข้อสังเกตเนื่องจากมีการกล่าวไม่ตรงความจริง  ทั้งมีผลกระทบต่อสมเด็จพระสังฆราชและคณะสงฆ์  ดังนี้

ก. เกี่ยวกับจำนวนพระสงฆ์ที่เข้าร่วมสังฆกรรมที่วัดอโศการามในวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าวว่า “ไม่ถึงพัน มีความพยายามจะสร้างภาพให้เป็นหมื่น”  แต่ความจริงปรากฏพยานหลักฐานเป็นลายมือชื่อของพระสงฆ์ผู้เข้าร่วมประชุมแนบท้ายมติที่ประชุมว่ามีจำนวน  ๑๐,๓๕๙ รูป  นอกจากนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับพระอาการของสมเด็จพระสังฆราช หากฟังอย่างพินิจพิเคราะห์แล้ว จะเห็นได้โดยง่ายว่าเป็นการกล่าวขัดแย้งกันเอง พระอาการของสมเด็จพระสังฆราชยังไม่ถึงกับไม่อาจทรงปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะยังทรงรับรู้  และสามารถแต่งผู้ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ได้ หากมีพระประสงค์
ข.  ข้อความที่ผู้ร่วมรายการบางท่านได้กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จพระสังฆราชโทรศัพท์ไปถึงบุคคลคนหนึ่งเพื่อฝากข้าราชการให้ได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น ก็เป็นการมิบังควร เพราะมีผลกระทบในทางที่เสียหายต่อสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นที่เคารพของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ ก็เข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นสมเด็จพระสังฆราช มีโทษทางอาญาถึงขั้นจำคุก ๑ ปี เป็นคดีความผิดอาญาแผ่นดิน    นอกจากนี้ยังมีการกล่าวใส่ความคณะสงฆ์อันทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก เข้าข่ายความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกถึง ๑ ปี เช่นกัน 

ค. เกล้ากระผมมีความเชื่อมั่นว่าพระธรรมวินัยมีความละเอียดอ่อนกว่ากฎหมายมาก และถ้าหากเป็นวินัยภายในแล้ว เป็นสิ่งที่ประเสริฐ มิอาจนำไปเปรียบกับกฎหมาย  การที่สงฆ์ปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัยย่อมไม่มีทางที่จะกระทำผิดต่อกฎหมาย  แต่ปัญหาคือไม่มีผู้อธิบายพระธรรมวินัยอย่างมีเหตุผลให้เข้าใจ ในรายการกรองสถานการณ์ ผู้ดำเนินรายการพยายามถามว่าการแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชชอบด้วยพระธรรมวินัยหรือไม่ ผู้ร่วมรายการไม่อธิบาย แต่บ่ายเบี่ยงไปพูดเรื่องมหาประเทศ ๔ อะไรก็ไม่รู้  จึงขอความเมตตาหลวงตาช่วยชี้หลักพระธรรมวินัยในเรื่องนี้อีกสักครั้งหนึ่ง และขอความเมตตาทราบพระธรรมวินัยเกี่ยวกับการชุมนุมของพระสงฆ์ด้วย  

กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง
นักกฎหมายคนหนึ่ง

คำตอบ
เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2547

เรียนคุณอดิสรณ์ 
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบคุณให้
เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด   ดังนี้

หลวงตา         :     พูดรวมๆ เลยนะ ที่พระมาตั้ง ๑๐,๓๕๙ องค์ ท่านมาตามหลักธรรมวินัย ท่านไม่ได้มาด้วยป่าๆ เถื่อนๆ เหมือนที่อยู่ๆ ฆราวาสญาติโยมมาจากโลกไหนก็ไม่ทราบ มาตั้งคณะกรรมการจะมากินโต๊ะสมเด็จพระสังฆราช โดยที่ว่าหน้าที่การงานอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่มีในธรรมวินัยที่จะมาเป็นใหญ่เป็นโตในการมาแต่งตั้งตนเอง มาครอบหัวพระไปเสียหมด ทั้งๆ ที่พระเป็นผู้ทรงธรรมทรงวินัยด้วยกันสมบูรณ์แบบ วัดไหนองค์ไหนเจ็บไข้ได้ป่วย พระท่านจะปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยอย่างสมบูรณ์แบบด้วยกัน ท่านไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับใคร ท่านปฏิบัติอย่างนี้ตลอดมา อยู่ๆ ก็มาเห็นตั้งคณะกรรมการผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พระเหล่านั้นตายไปหมดแล้วหรือ พวกนี้จึงได้มาปฏิบัติหน้าที่ เราอยากถามว่าอย่างนั้นนะ

พระสงฆ์ท่านก็ปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัย ดังที่ท่านมาหมื่นกว่าองค์ตะกี้นี้ ท่านมาตามหลักธรรมหลักวินัย ท่านไม่ได้มาแบบป่าๆ เถื่อนๆ อย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ ให้เกิดความยุ่งเหยิงวุ่นวายแก่พระสงฆ์ตั้งหมื่นกว่ารูป ก็เพราะอันนี้เป็นต้นเหตุ ขัดแย้งต่อพระธรรมวินัยท่านจึงได้มา ชี้แจงเหตุผลกลไกให้ทราบแล้วก็ส่งออกไป ส่งจากการประชุมออกไปนี้ไปทางสำนักนายกฯ แล้ว ก็มีเท่านั้นหลักธรรมวินัย เอาพระหมื่นกว่าองค์นั่นเลย นั่นท่านมาตามหลักธรรมวินัย ถ้าผิดตรงไหนเอ้าไปถามท่านดูซิน่ะ

โยม           :     มี ผ.อ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแย้งว่ามีไม่ถึงพัน

หลวงตา     :     มีไม่ถึงพัน มันก็โกหก พวกนี้พวกนักโกหก ไม่เคยเอาความจริงมาพูดสักทีพวกนี้ มีตั้งแต่เรื่องโกหกเอามาต้มตุ๋นชาวบ้าน จะทำลายชาติกับศาสนาให้จมไปก็คนพวกนี้เองจะเป็นพวกไหน ฟังให้ดีทุกคน ก่อเรื่องนั้นขึ้นมา ก่อเรื่องนี้ขึ้นมา เรื่องนั้นผ่านไปแล้ว ผ่านคือว่าชำระ อันนี้มันไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัยท่านรับไม่ได้ ตีออกไปไม่รู้กี่ครั้งกี่หน คราวนี้ก็ขึ้นมาอีกแล้ว มีกี่ครั้งกี่หน ควรจะทบทวนไปหาความผิดของพวกนี้บ้าง ทำไมจึงหาก่อตั้งแต่เรื่องแต่ราว ความรู้อย่างอื่นไม่มีเหรอ ที่จะให้ทางศาสนาและโลกมีความสงบร่มเย็น จึงหาตั้งแต่เรื่องฟืนเรื่องไฟมาก่อ เผากันอยู่ตลอด ให้มาชำระนั้นชำระนี้อยู่ตลอดเวลา

พระท่านมาประชุม ๑๐,๓๕๙ รูปมันบอกว่าไม่ถึงพัน มันตาบอดหรือ ไปดูซิน่ะ เราอยากถามว่าอย่างนี้นะ คนทั้งโลกเขารู้กันทั้งนั้น มีบัญชีพระ มันว่ามาไม่ถึงพัน มันหาเรื่องมาจากไหน นี่ละพวกโกหก ฟังซิ พูดสอดพูดแทรก จากนี้ก็มีแทรกเข้ามาอีก เวลามาประชุมนี้ก็บอกว่าจ้างมา พระเหล่านี้จ้างมา ได้องค์ละหนึ่งพันบาท เราได้ยินมาอย่างนี้ก็พูดตามได้ยินได้ฟัง เราไม่ได้เห็นตัวจริง ได้ยินเราก็บอกว่าได้ยิน ว่าจ้างองค์ละพันบาท สตางค์หนึ่งพระเหล่านี้ไม่เคยมีจะมารับค่าจ้างเพราะการประชุมนี้ ไม่มี นี่มันก็หาเรื่องมาว่าจ้างมาประชุม เห็นไหมล่ะ มันแทรกเข้ามาอย่างนี้ละ พวกเปรตพวกผีว่างั้นเลย 

นี่ละภาษาธรรม เอ้า ใครจะเอาเราไปไหนก็ไป ให้ถอยใครไม่ถอยคนๆ นี้น่ะ พระองค์นี้น่ะ อีตาบัวนี้ไม่ถอยใคร ถ้าผิดจากหลักธรรมหลักวินัยใส่กันเปรี้ยงๆ เลย คอขาดๆ ไปเลย ขอให้ได้บูชา แม้ตั้งแต่มีแต่ท่อนตัวอย่างเดียว หัวขาดก็จะขอบูชาพระพุทธเจ้า ไม่บูชากับพวกเปรตพวกผีที่ก่อตั้งแต่ก่อกรรมก่อเวรใส่ชาติใส่บ้านใส่เมือง หาเรื่องก่อนั้นก่อนี้ เราไม่กราบพวกนี้ เราไม่สรรเสริญ เพราะมันมาทำลายโดยถ่ายเดียว

ปลิ้นปล้อนหลอกลวงไม่มีใครเกินพวกนี้ เก่งมากที่สุดเลย เขาทำดิบทำดีทั่วประเทศเขตแดน คิดดูซิคนทั้งโลกเมืองไทยเรานี้ อุตส่าห์พยายามเสาะแสวงหาสมบัติเงินทองมาด้วยความรักชาติ มีจำนวนมากน้อยขนาดไหน ท่านทั้งหลายก็ทราบแล้ว พวกนี้มันมีสักสตางค์ไหม ไม่เคยเห็นพวกนี้เอาเงินมายื่นให้หนึ่งบาท ช่วยชาติไทยของเรา อันนี้หนึ่งดอลลาร์ ช่วยชาติไทยของเรา ทองคำหนึ่งกิโลมาช่วยชาติไทยของเรา แล้วจึงมีสิทธิที่จะมาดุมาด่าเพื่อความแนะนำสั่งสอนหาความดีเพิ่มเติมกันไปอย่างนี้ไม่มี มีแต่มาทำลายๆ ทั้งนั้น ดีแล้วหรือพวกนี้ ท่านทั้งหลายฟังให้ดีนะ 

พวกนี้พวกก่อกวน พวกทำลาย ทั้งชาติทั้งศาสนา ก่ออยู่ตลอดเวลา มีกี่ครั้งแล้วที่มาก่ออยู่เวลานี้น่ะ หาตั้งแต่เรื่องทำลายๆ ทั้งนั้นนะ เรื่องดิบเรื่องดีที่จะควรส่งเสริมว่า อ้อ เข้าท่านะ อย่างนี้ไม่มี ฟังให้ดีคนทั้งประเทศ เป็นยังไงพวกนี้หรือที่จะปกครองบ้านเมืองต่อไป เอาพวกนี้หรือมาปกครอง หรือจะเอาพวกไหน พิจารณาให้ดีนะ มีตั้งแต่เรื่องก่อกวนตลอดเวลา ไปที่ไหนมีแต่เรื่องนี้ ปลิ้นปล้อนหลอกลวง พระมาประชุมนี้ก็ว่าจ้างมาองค์ละพันๆ ฟังซิน่ะ ใครจ้าง มันไปเห็นมาจากไหนเอามาอ้างซิน่ะ เอาสักขีพยานมา ถ้าจะเอาจริงจริงๆ แล้วเอาสักขีพยานมา หลวงตาบัวจะเป็นคนรับทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นคนโต้ตอบแต่คนเดียวเท่านั้น เพราะพระเหล่านี้ไม่เคยมี แม้สตางค์หนึ่งท่านก็ไม่เคยมาสนใจ ท่านมาโดยหลักธรรมหลักวินัย เห็นว่าความสกปรกโสมมฟืนไฟกำลังเผาชาติเผาศาสนาเข้าไป ท่านก็มาชำระสะสาง เอาความจริงออกมาชำระสะสาง จึงเรียกว่าท่านมาตามธรรมตามวินัย ท่านไม่ได้มาด้วยการรับจ้างรางวัลที่ไหนไม่มี นี่มันก็หลอกใช่ไหมล่ะ

มันแทรกโน้นแทรกนี้พวกเปรตนี่ มันอยู่ดีๆ ธรรมดาไม่ได้นะ ก่อเรื่องนั้นขึ้นมาแล้วก่อเรื่องนี้ขึ้นมาไม่มีเวลาหยุดถอย จากนี้มันจะเอาอะไรอีกก็ไม่รู้นะ คอยฟังก็แล้วกันพวกนี้ จะหาเรื่องส่งเสริมไม่เห็นมีที่ไหน มีแต่การทำลายๆ ทั้งนั้น เอายุติแค่นี้ก่อน"

                                                ___________

(คุณสามารถชมภาพ ฟังเสียง และอ่านกัณฑ์นี้เต็มกัณฑ์ได้ที่http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2640&CatID=0) 

<< BACK

 


หน้าแรก