คำถาม 
โดย : ลูกศิษย์หลวงตา ถามเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2547

การอโหสิกรรมจากจิตแท้จริง เกิดจากการพิจารณาทางปัญญา

กราบนมัสการท่านพระอาจารย์มหาบัว    
                  ลูกมีข้อข้องใจ  ขอให้พระหลวงตาช่วยเมตตาชี้แนะนำว่า      คำที่กล่าวว่า   "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"      เมื่อลูกต้องการไม่จองเวรกับบุคคลที่ลูกมีเรื่องทะเลาะด้วย   หรือโกรธให้กันนั้น   ลูกอยากอโหสิกรรม  ไม่ก่อเวรให้แก่กันอีก   ทำอย่างไรจึงจะอโหสิกรรมออกมาจากจิตอย่างแท้จริง    เพราะลูกไม่อยากมีการผูกเวรอีกต่อๆไป   ลูกไม่อยากมีกรรมต่อกัน   แต่การที่จิตจะปล่อยจากอารมณ์นี้อย่างแท้จริง   มักจะไม่เป็นโดยง่าย    จิตมักจะกระเพื่อมเมื่อเจอกันอีก   ลูกอยากที่จะอโหสิกรรมกันจริงๆ  โดยเมื่อเจอกันจะต้องไม่รู้สึกอะไรกันอีก   เหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย    ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะเกิดจากการพิจารณาทางปัญญาเท่านั้นใช่ไหม   จึงจะถอดความรู้สึกนี้ออกจากจิตได้      กราบนมัสการมาเพื่อขอความเมตตาช่วยแนะนำให้ลูกด้วย

คำตอบ
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2547

เรียนคุณผู้ถาม เนื่องจากคุณไม่ได้แจ้งEMail ของคุณมาให้ จึงตอบรวมมาในหน้า รวมถาม-ตอบปัญหาธรรมะ

หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาธรรมให้คุณ
เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด  ดังนี้

โยม           :     คนที่ ๓ ครับ อันนี้เรียกตัวเองว่าลูกครับ

หลวงตา     :     ลูกเหรอ เอาๆ พ่อให้พูดแล้วเอาพูดได้

โยม            :     เมื่อลูกต้องการไม่จองเวรกับบุคคลที่ลูกมีเรื่องทะเลาะด้วยหรือโกรธให้กันนั้น ลูกอยากอโหสิกรรม ไม่ก่อเวรให้แก่กันอีก ทำอย่างไรจึงจะอโหสิกรรมออกมาจากจิตอย่างแท้จริง เพราะลูกไม่อยากมีการผูกเวรอีกต่อๆ ไป แต่การที่จิตจะปล่อยจากอารมณ์นี้อย่างแท้จริง มักจะไม่เป็นไปโดยง่าย จิตมักจะกระเพื่อมเมื่อเจอกันอีก ลูกอยากที่จะอโหสิกรรมกันจริงๆ โดยเมื่อเจอกันเหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะเกิดจากการพิจารณาทางปัญญาเท่านั้นใช่ไหมคะ

หลวงตา     :     อันนี้ก็ใช่ ยังไม่ได้มากอะไรให้เก็บความรู้สึกไว้และกิริยาอย่าให้แสดงออกไปตามที่เป็นการก่อเวร ให้พยายามระงับความคิดเช่นนี้เสมอ ความคิดที่จะก่อกรรมก่อเวรให้ระงับทันที เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ เราไม่ก่ออารมณ์เหล่านั้นไม่เป็นภัย ถ้าเราคิดก่อกรรมก่อเวรกับเขา ก็เป็นก่อกรรมก่อเวรต่อเราอยู่ตลอด เป็นอารมณ์ตลอด เข้าใจไหมล่ะ อารมณ์นี่แหละมันเผาเราเป็นก่อกรรมก่อเวรต่อเรา ถ้าเราไม่ไปคิดถึงเรื่องเขา เราก็ระงับการก่อเวรกับเขา ของเราไม่มีก่อนแล้ว เข้าใจไหม มันก็ไม่มีกรรมเวรกับใคร เอาว่าไป

โยม           :     อ่านให้จบนะครับ ซึ่งการที่จะทำได้นั้น จะเกิดจากการพิจารณาทางด้านปัญญาเท่านั้นใช่ไหมคะ จึงจะถอดความรู้สึกนี้ออกจากจิตได้ กราบนมัสการขอความเมตตาช่วยแนะนำให้ลูกด้วย หลวงตาแนะนำไปแล้วครับ

หลวงตา     :     แนะนำไปแล้วก็ถูกต้องแล้ว ให้ถึงขั้นที่มันจะมาตัดกันแล้ว มันเป็นขั้นเป็นตอนของธรรม ธรรมละเอียดเท่าไรๆ เรื่องเหล่านี้มันจะตัดของมันไปด้วยกันๆ ตอนแรกให้เขาทำอย่างนั้นถูกต้องแล้ว ที่เราสอนถูกต้องแล้ว

                                                   ___________

คุณสามารถเปิดชมภาพและเสียง พร้อมตัวหนังสือของกัณฑ์เทศน์วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ได้ที่http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2635&CatID=2) 

<< BACK

 


หน้าแรก