|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : ลูกศิษย์หลวงตา ถามเมื่อวันที่
9 ก.พ. 2547 |
การอโหสิกรรมจากจิตแท้จริง เกิดจากการพิจารณาทางปัญญา
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์มหาบัว ลูกมีข้อข้องใจ ขอให้พระหลวงตาช่วยเมตตาชี้แนะนำว่า คำที่กล่าวว่า "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร" เมื่อลูกต้องการไม่จองเวรกับบุคคลที่ลูกมีเรื่องทะเลาะด้วย หรือโกรธให้กันนั้น ลูกอยากอโหสิกรรม ไม่ก่อเวรให้แก่กันอีก ทำอย่างไรจึงจะอโหสิกรรมออกมาจากจิตอย่างแท้จริง เพราะลูกไม่อยากมีการผูกเวรอีกต่อๆไป ลูกไม่อยากมีกรรมต่อกัน แต่การที่จิตจะปล่อยจากอารมณ์นี้อย่างแท้จริง มักจะไม่เป็นโดยง่าย จิตมักจะกระเพื่อมเมื่อเจอกันอีก ลูกอยากที่จะอโหสิกรรมกันจริงๆ โดยเมื่อเจอกันจะต้องไม่รู้สึกอะไรกันอีก เหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะเกิดจากการพิจารณาทางปัญญาเท่านั้นใช่ไหม จึงจะถอดความรู้สึกนี้ออกจากจิตได้ กราบนมัสการมาเพื่อขอความเมตตาช่วยแนะนำให้ลูกด้วย
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2547 |
เรียนคุณผู้ถาม เนื่องจากคุณไม่ได้แจ้งEMail ของคุณมาให้ จึงตอบรวมมาในหน้า รวมถาม-ตอบปัญหาธรรมะ
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาธรรมให้คุณ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
โยม : คนที่ ๓ ครับ อันนี้เรียกตัวเองว่าลูกครับ
หลวงตา : ลูกเหรอ เอาๆ พ่อให้พูดแล้วเอาพูดได้
โยม : เมื่อลูกต้องการไม่จองเวรกับบุคคลที่ลูกมีเรื่องทะเลาะด้วยหรือโกรธให้กันนั้น ลูกอยากอโหสิกรรม ไม่ก่อเวรให้แก่กันอีก ทำอย่างไรจึงจะอโหสิกรรมออกมาจากจิตอย่างแท้จริง เพราะลูกไม่อยากมีการผูกเวรอีกต่อๆ ไป แต่การที่จิตจะปล่อยจากอารมณ์นี้อย่างแท้จริง มักจะไม่เป็นไปโดยง่าย จิตมักจะกระเพื่อมเมื่อเจอกันอีก ลูกอยากที่จะอโหสิกรรมกันจริงๆ โดยเมื่อเจอกันเหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนเลย ซึ่งการที่จะทำได้นั้นจะเกิดจากการพิจารณาทางปัญญาเท่านั้นใช่ไหมคะ
หลวงตา : อันนี้ก็ใช่ ยังไม่ได้มากอะไรให้เก็บความรู้สึกไว้และกิริยาอย่าให้แสดงออกไปตามที่เป็นการก่อเวร ให้พยายามระงับความคิดเช่นนี้เสมอ ความคิดที่จะก่อกรรมก่อเวรให้ระงับทันที เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ เราไม่ก่ออารมณ์เหล่านั้นไม่เป็นภัย ถ้าเราคิดก่อกรรมก่อเวรกับเขา ก็เป็นก่อกรรมก่อเวรต่อเราอยู่ตลอด เป็นอารมณ์ตลอด เข้าใจไหมล่ะ อารมณ์นี่แหละมันเผาเราเป็นก่อกรรมก่อเวรต่อเรา ถ้าเราไม่ไปคิดถึงเรื่องเขา เราก็ระงับการก่อเวรกับเขา ของเราไม่มีก่อนแล้ว เข้าใจไหม มันก็ไม่มีกรรมเวรกับใคร เอาว่าไป
โยม : อ่านให้จบนะครับ ซึ่งการที่จะทำได้นั้น จะเกิดจากการพิจารณาทางด้านปัญญาเท่านั้นใช่ไหมคะ จึงจะถอดความรู้สึกนี้ออกจากจิตได้ กราบนมัสการขอความเมตตาช่วยแนะนำให้ลูกด้วย หลวงตาแนะนำไปแล้วครับ
หลวงตา : แนะนำไปแล้วก็ถูกต้องแล้ว ให้ถึงขั้นที่มันจะมาตัดกันแล้ว มันเป็นขั้นเป็นตอนของธรรม ธรรมละเอียดเท่าไรๆ เรื่องเหล่านี้มันจะตัดของมันไปด้วยกันๆ ตอนแรกให้เขาทำอย่างนั้นถูกต้องแล้ว ที่เราสอนถูกต้องแล้ว
___________
คุณสามารถเปิดชมภาพและเสียง พร้อมตัวหนังสือของกัณฑ์เทศน์วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ ได้ที่http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2635&CatID=2)
|
|
|