คำถาม 
โดย : apitum ถามเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2547

ท่านหลวงตาปฏิบัติธรรมอย่างไรจึงยังมี โทสะอยู่มาก

ผมสงสัยว่า ท่านหลวงตา ปฏิบัติธรรม อย่างไร จีงยัง มีความโกรธอยู่เนีองๆ  (ดูท่านจาก TV.)
    เจริญสติปัฐาน ระลีกรู้ นาม รูป มีปรมัตธรรม เป็นอารมณ์ อยู่เนีองๆ จะบรรเทากิเลส ได้มาก ทำลายความเป็นตัวตนให้ลดลง  (สมาธิ ระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว) กิเลสจะลดลง ต่อเมี่อมีปรมัตธรรม เป็นอารมณ์เสมอๆ ท่านหลวงตา มีความเห็นว่าอย่างไร ครับ?

คำตอบ
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2547

เรียนคุณผู้ถาม
หลวงตาเมตตาตอบปัญหาของคุณให้
เมื่อวันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด  ดังนี้

หลวงตา     :     ปฏิบัติธรรมที่พวกขี้โกรธทั้งหลายให้ได้ดูบ้างว่า กิริยาท่าทางนี้ไม่ใช่กิริยาแห่งความโกรธ ผู้ดูต่างหากมันตัวโกรธ ตัวหมายเรื่องกิเลส เพราะกิเลสเต็มหัวใจมัน ธรรมะที่ออกนี้ไม่มีกิเลส พูดตรงๆ ว่าหลวงตาไม่มีกิเลสในหัวใจ เปิดโล่งหมดแล้วมาได้เป็นเวลา ๕๔ ปีนี้แล้ว หลวงตาเปิดโล่งได้เลย โลกเขาเอาออกโชว์ได้ ทำไมธรรมจึงออกโชว์ไม่ได้ พระพุทธเจ้าปฏิบัติมาออกโชว์แก่โลกทั้งสามนี้ได้ตลอดมา นี้คือธรรมที่เลิศเลอที่ท่านปฏิบัติได้ นี้เราดำเนินตามธรรมที่เลิศเลอ ปฏิบัติได้รู้ได้เห็นมาจนกระทั่งถึงธรรมที่เลิศเลอเต็มหัวใจ แม้จะแสดงกิริยาอะไรออกมา เป็นพลังของธรรมทั้งนั้น ไม่ได้เป็นพลังของกิเลส นอกจากพวกคลังกิเลสมันเห็นอะไรก็ตีเข้าไปเป็นกิเลสเสียทั้งหมด เอะอะตดแตก นี้ก็ว่าตดนี้มันเหม็นนะ ดุในเจ้าของ จะว่าอย่างนั้นไปนะ ไม่ดุเจ้าของ มันดุแต่กิเลสมันเฉียดจมูกคนไป เข้าใจไหม ใครหลบไม่ดีจมูกขาด เข้าใจไหม ตะกี้นี้ถามว่ายังไง

โยม           :     ถามว่า เขาดูทางทีวี สงสัยว่าท่านหลวงตาปฏิบัติธรรมะอย่างไร จึงยังมีความโกรธอยู่

หลวงตา     :     เอา เราอยากถามย้อนหลังอีก ดูแบบไหนถึงดูว่าเป็นคนโกรธหรือไม่โกรธ หลวงตาโกรธหรือไม่โกรธ ให้ตอบมาวันหลังนะ ถ้าตอบวันนี้ไม่ทัน นี่หลวงตาได้เปิดแล้วว่า กิริยาท่าทางนี้เป็นกิริยาของธรรม พลังของธรรม ไม่ใช่พลังของกิเลส กิริยาของกิเลส เพราะเครื่องมือของกิเลสได้แก่ธาตุขันธ์ของเรา กิริยาที่แสดงเวลานี้เป็นเครื่องมือของธรรม ถ้ากิเลสมีภายในใจมากน้อย แสดงความรุนแรงออกมา จะเป็นฟืนเป็นไฟทั้งหมด ถ้าภายในจิตใจหมดกิเลสแล้ว มีแต่ธรรมบรรจุภายในใจ ธรรมแสดงออกมาก็มีลักษณะท่าทางเหมือนกัน แต่เป็นธรรมล้วนๆ นี่หลวงตาแสดงเวลานี้แสดงออกเป็นธรรมล้วนๆ หลวงตาไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายในหัวใจเลย ได้เป็นเวลา ๕๔ ปีมานี้ เอาไปฟังไปพิจารณา ถามมาอีกจะตอบอีก ถามมาทางสหรัฐ เมืองไทยก็จะตอบได้เป็นไรวะ

โยม           :     คนเดียวกันนี้ถามต่อไปอีกครับว่า เจริญสติปัฏฐาน ระลึกรู้นาม รูป มีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์อยู่เนืองๆ จะบรรเทากิเลสได้มาก ทำลายความเป็นตัวตนให้ลดลง สมาธิระงับกิเลสได้แค่ชั่วคราว กิเลสจะลดลงต่อเมื่อมีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์เสมอๆ ท่านหลวงตามีความเห็นอย่างไรครับ

หลวงตา     :     แล้วคุณมีปรมัตถธรรมแล้วยังที่ละกิเลสนั่น หรือมีแต่ถามหลวงตาว้อๆ เท่านั้นเหรอ เราไม่อยากตอบ ถามแบบลมปากว้อๆ กิเลสไม่ได้ขาดสักนิดหนึ่ง เข้าใจเหรอ ก็มีเท่านั้นแหละ

                                               ___________

นอกจากนี้ทีมงานขอแนะให้คุณกดอ่านพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ดังนี้

1.  อ่านเทศของหลวงตา น์วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๒ ณ วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร เรื่อง เราไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ท่านเทศน์ไว้เป็นคำตอบให้คุณได้ คุณสามารถกดอ่านเต็มกัณฑ์ได้ที่
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1304&CatID=2

2. อ่านเทศน์วันที่ 6 มกราคม 2547 เรื่อง แสดงนี้มีแต่ธรรมสะอาดทั้งนั้น กดอ่านให้ได้เต็มกัณฑ์ ได้ที่
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2592&CatID=2

                                              ___________


<< BACK

 


หน้าแรก