คำถาม 
โดย : สายใจ ถามเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2546

ธรรมะแก้ไขทุกข์ได้

หลายครั้งที่ดิฉันคิดท้อใจ คิดอยากตายให้หมดจากเรื่องร้าย ๆ ในชีวิต คิดอยากแก้ไขเรื่องหนี้สินก็หาทางออกไม่ได้ คิดอยากไปจะรบกวนขอยืมใครเขาก่อนก็ไม่กล้า คิดอยากแก้ไขเรื่องครอบครัวก็แก้ไม่ได้ ดิฉันเลยเลือกเอาทำบุญช่วยชาติดีกว่าค่ะ จึงได้มีโอกาสไปฟังธรรมหลวงตาและไปถวายปัจจัยช่วยชาติเป็นบางโอกาสที่ว่างจากงานประจำ ได้ยินหลวงตาแสดงธรรม ทำให้ดิฉันยึดเอาธรรมะของหลวงตา เพราะดิฉันฟังแล้วจิตก็สงบ ทั้ง ๆ ที่บางทีก็ไม่ได้นั่งสมาธิ แต่อาศัยฟังเทศน์ของหลวงตาจิตใจกลับสดชื่น สงบจากเรื่องทุกข์ในใจ ดิฉันจึงเชื่อแรงบุญ ค่อยคิดอ่านเพื่อแก้ทุกข์ให้หมดไป ดิฉันจึงเขียนมาเล่าถวายเพราะระลึกในพระคุณของหลวงตาที่ให้ชาวไทยได้รู้จักมหากุศลช่วยชาติ รู้จักเอาธรรมะมาแก้ไขทุกข์ได้ และได้อ่านธรรมะหลวงตาในเว็บไซด์นี้อยู่เสมอ ตอนเช้าดิฉันต้องไปทำงานตอนเวลาหลวงตากำลังเทศน์ที่วัดค่ะ จึงต้องไปดูถ่ายทอดสดที่ทำงาน เปิดดูก็กลัวเจ้านายตำหนิ แต่ก็ตัดสินใจเปิดฟัง และทำงานไปด้วย เพราะคิดว่าเราทำสิ่งที่เป็นมงคลแก่ใจ ใจกลับเป็นสมาธิดีค่ะ 
กราบนมัสการมาด้วยความเคารพสูงสุด

ดิฉันขอยืมอีเมลของเพื่อนใช้ก่อนค่ะ ดิฉันไม่มีอีเมล

คำตอบ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2546

เรียนคุณสายใจ 
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบให้คุณ
เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด  ดังนี้

หลวงตา     :     นี่ก็เป็นคำบอกเล่าธรรมดา คำบอกเล่านี้ก็ถูกแล้วไม่เห็นผิดอะไร ให้พยายามทำอย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆ ให้ถี่ยิบเข้าไปทันกับกิเลสตัวมันผาดโผน มันผาดโผนไปเรื่อยๆ แหละกิเลส มันไม่ค่อยอ่อนตัว ให้เราพยายามนำธรรมเข้าไปแก้ไขดัดแปลงมันเรื่อยๆ เป็นการพูดเล่าให้ฟังก็ไม่เห็นความผิดความพลาดประการใดๆ แสดงออกมา เล่าเฉยๆ เรียกว่าฟังอรรถฟังธรรมจากครูจากอาจารย์นั้นเป็นความชอบธรรมแล้ว ให้ทำต่อไป ก็ได้ผลประโยชน์แล้วนี่ แล้วมีอะไรอีกในปัญหานั้น

โยม           :     เขากลัวเจ้านายตำหนิเท่านั้นเอง

หลวงตา     :     ก็อย่าไปกลัวเจ้านายเกินไป กลัวอะไรเขาตำหนิ เวลาเราขี้เกียจขี้คร้านก้าวไปผิดอรรถผิดธรรม ไม่เห็นกลัวธรรมตำหนิบ้างล่ะ ธรรมอยู่กับตัวเอง เหยียบหัวธรรมไปทำไม ด้วยความไม่รู้ตัวนั่นซีเหยียบหัวธรรม ให้ตำหนิตัวเองตรงนี้นะ เข้าใจ ว่าไป

(โปรดหาอ่านธรรมะหลวงตาเพิ่มเติมในหน้าหนังสือธรรมะ และหน้าธรรมะประจำวันในเว็บไซด์นี้)

<< BACK

 


หน้าแรก