|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : ศิษย์หลวงตา ถามเมื่อวันที่
17 พ.ย. 2546 |
สังเกตจิตได้จากความวุ่นวาย
หนูกำหนดคำบริกรรมพุทโธ กับสติไม่ให้เผลอตามที่หลวงตาเมตตาสอนมาเป็นระยะ จนสังเกตุจิตได้ตรงที่ เวลาที่หนูไปอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย อยู่กับคนหมู่มาก เรื่องยุ่ง ๆ ทางโลกค่ะ แต่แปลกตรงที่อยู่ดี ๆ เพียงชั่วแว็บเดียวจิตมันรู้สึกเวิ้งว้าง เหมือนมีเราอยู่คนเดียว แม้ตัวเราก็เหมือนไม่มีในความรู้สึกขณะนั้น เพราะตลอดมาลูกใช้วิธีเจริญสติกับบริกรรมพุทโธ จิตมันก็ไม่วอกแวกออกไปไหน มันสงบนิ่งของมัน จนมาสังเกตได้ตรงที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย แต่ข้างใจเราไม่วุ่นวาย มันกลับเหมือนอากาศเย็น ๆ อยู่ในจิตค่ะ อย่างนี้ลูกภาวนมาถูกทางบ้างไหมค่ะ หากถูกประการใดลูกก็สามารถออกพิจารณาได้ตามควรใช่ไหมค่ะ แต่ลูกรู้สึกปีติอยากเล่าให้คนอื่นฟัง เพราะลูกแน่ใจว่าเป็นผลของการรักษาสติ หมั่นภาวนาตามหลวงตาสอน จะคิด จะทำอะไรก็ดูมีหลัก มีเหตุผล ลูกเลยไปชักชวนเพื่อนฝูงให้รู้จักภาวนาบ้างค่ะ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพรักหลวงตาเป็นที่สุด
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2546 |
เรียนคุณใช้นาม ศิษย์หลวงตา หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาเป็นแนวธรรมปฏิบัติให้คุณ เมื่อเช้าวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
โยม : ลูกกำหนดคำบริกรรมพุทโธกับสติไม่ให้เผลอ ตามที่หลวงตาเมตตาสอนมาเป็นระยะ สังเกตจิตได้ตรงที่ เวลาที่ลูกอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย อยู่กับคนหมู่มาก เรื่องยุ่งๆ ทางโลกค่ะ แต่แปลกตรงที่อยู่ดีๆ เพียงชั่วแวบเดียวจิตมันก็รู้สึกเวิ้งว้างเหมือนมีเราอยู่คนเดียว แม้ตัวเราก็เหมือนไม่มีในความรู้สึกขณะนั้น เพราะตลอดมาลูกใช้วิธีเจริญสติกับบริกรรมพุทโธ จิตมันก็ไม่วอกแวกออกไปไหน มันสงบนิ่งของมัน จนมาสังเกตได้ตรงที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย แต่ในใจเราไม่วุ่นวาย มันกลับเหมือนอากาศเย็นๆ อยู่ในจิตค่ะ อย่างนี้ลูกภาวนามาถูกทางบ้างไหมคะ
หลวงตา : ถูกต้องๆ แล้ว ที่ภาวนาอย่างนี้ถูกต้อง ให้เจริญอย่างนั้นเรื่อยๆ ไปแล้วมันจะค่อยรอบคอบ เรื่องความเป็นของเจ้าของกว้างขวางออกไปเรื่อยๆ นะ เอาเท่านั้น
โยม : ถ้าหากถูกประการใด ลูกก็สามารถออกพิจารณาได้ตามสมควรใช่ไหมเจ้าคะ
หลวงตา : ใช่
โยม : แต่ลูกรู้สึกปีติอยากเล่าให้คนอื่นฟัง เพราะลูกแน่ใจว่า เป็นผลของการรักษาสติ หมั่นภาวนาตามหลวงตาสอน จะคิดจะทำอะไรก็ดูมีหลักมีเหตุผล ลูกก็เลยไปชักชวนเพื่อนฝูงให้รู้จักภาวนาบ้างค่ะ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพหลวงตาเป็นที่สุด
หลวงตา : ที่ว่าอยากให้คนอื่นได้รู้จักบ้าง เรียกว่าไม่ผิด ถ้าอยากให้คนอื่นรู้ไม่มีบ้างแล้ว นี่มันจะเป็นบ้านะนี่ เข้าใจไหม คือคำว่าบ้าง คนสมควรที่จะแนะนำกันก็แนะนำ ถ้าไม่สมควรจะไปสอนพวกสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ถูก คำว่าบ้างนั่นได้แล้ว คัดออกมาเป็นบ้าง เข้าใจไหม เอาเท่านั้นแหละ
|
|
|