คำถาม 
โดย : หนูไม่เผลอสติ ถามเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2546

พิจารณาจิตสังขาร

1.ขณะหนูภาวนาจนจิตดิ่งลงสู่ความสงบแน่วเป็นลักษณะนี้อยู่นาน แล้วเหมือนจิตสังขารปรุงเป็นภาพตัวเองตั้งแต่เล็ก เป็นเรื่องดี เรื่องไปทำบุญต่าง ๆ สมัยเป็นเด็ก จนเรื่อยมาถึงปัจจุบัน เป็นภาพฉาก ๆ แล้วปรุงเป็นเรื่องที่ทำไม่ดีต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยเด็ก เรื่อยมาถึงปัจจุบัน คือมันปรุงทั้งบุญที่ทำ ความไม่ดีที่ทำตั้งแต่เล็กให้เห็นเป็นภาพฉาก ๆ ซึ่งเรื่องตั้งแต่เล็กลืมไปหมดก็ปรากฏให้เห็น แล้วสติก็จับอยู่ตรงจิตนั่น ยังคงนิ่งแน่วอยู่ ชั่วแว็บเดียวเหมือนหดเข้ามาที่จิต ลูกคิดว่าเป็นธรรมในจิตแสดงให้รู้ว่า ทั้งบาปเรื่องไม่ดี ทั้งบุญที่ทำทั้งหมด ทั้งจำได้และไม่ได้มารวมอยู่ที่จิต พอชั่วขณะจิตแว็บเดียวก็น้ำตาไหลเหมือนกับรู้อาการของจิต เหตุเกิดบุญ เหตุเกิดบาปความไม่ดี จึงขอเมตตาหลวงตาสอนว่า ที่สังขารปรุงแบบนี้ เป็นลักษณะที่ลูก พิจารณามาอย่างนี้ถูกหรือไม่อย่างไรเจ้าค่ะ 

2.ขณะกำลังน้ำตาไหลในข้อธรรมที่ปรากฏนี้ แล้วจิตมันก็ยังรู้สึกหดแน่น ๆ นิ่ง ๆ อยู่กับอาการของจิตนี้ ลูกยังคงบริกรรมพุทโธติดกับสติ ไม่เผลอไปตามสังขารที่ปรุง อย่างนี้เป็นการถูกหรือไม่ อย่างไรเจ้าค่ะ สำหรับการภาวนาในขั้นนี้

กราบนมัสการระลึกในพระคุณหลวงตาอย่างสูงสุดเจ้าค่ะ (จาก หนูไม่เผลอสติ)

คำตอบ
เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2546

เรียนคุณใช้นาม หนูไม่เผลอสติ
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาจิตตภาวนาของคุณ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๕ ณ วัดป่าบ้านตาด  ดังนี้

หลวงตา     :     เออ ที่ว่าน้ำตาร่วงลงมานั้นเป็นน้ำตาที่มีคุณค่ามีราคานะ น้ำตาที่โศกเศร้าโศกาอาลัยทั่วโลกดินแดน ไม่มีค่าทั้งนั้นอย่าพากันร้องห่มร้องไห้ น้ำตาแบบนั้นอย่าให้มันร่วง ให้มันร่วงกับเรื่องศีลเรื่องธรรม มีความปีติยินดีในสมบัติอันล้ำเลิศของตนเอง ดังที่น้ำตาของคุณร่วงจากการภาวนานี้เหมาะสมแล้ว พยายามทำให้ดีนะ แล้วการคิดปรุงดีชั่วต่าง ๆ มันคิดเป็นธรรมดาของสังขาร สติ ปัญญาเรามีปัดออก อันใดที่คิดไม่ดี อันใดที่คิดดีก็เปิดทางให้คิดไป เท่านั้นแหละ

โยม           :     ข้อ ๒ ครับ ขณะกำลังน้ำตาไหลในข้อธรรมะที่ปรากฏนี้แล้ว จิตมันก็ยังรู้สึกหดแน่น ๆ นิ่ง ๆ อยู่กับอาการของจิตนี้ ลูกก็ยังคงบริกรรม พุทโธ ติดกับสติ ไม่เผลอไปตามสังขารที่ปรุงแต่ง อย่างนี้เป็นการถูกหรือไม่อย่างไรเจ้าคะ 

หลวงตา     :     ถูก ๆ ต้องแล้ว ให้ดำเนินไปอย่างนั้นเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรขัดข้องละ ถูกต้องแล้ว เอ้า ว่าไป

โยม           :     เขาก็ถามมาแค่นี้ละครับ เขาก็กราบนมัสการรำลึกในพระคุณหลวงตาเป็นอย่างสูงสุดครับ

หลวงตา     :     เออ ก็มีเท่านั้น หมดแล้วเหรอ เออ เอาละแค่นั้นละ เรื่องการตอบปัญหามันแล้วแต่คำถามมา เอาแน่ไม่ได้ละ ถามมาแง่ไหนก็ไปแง่นั้น ๆ เท่านั้นเองหมดแล้วนะทีนี่ 

(ทีมงานขออนุโมทนาในธรรมภาวนาของคุณมา ณ ที่นี้ )

<< BACK

 


หน้าแรก