คำถาม 
โดย : n ถามเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2546

พิจารณาความไม่เที่ยงเป็นทุกข์

ขอเมตตาจากหลวงตากราบเรียนเรื่องการปฏิบัติธรรมภาวนาดังนี้ครับ กระผมปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิภาวนา โดยกำหนดคำบริกรรมภาวนาพุทโธให้สติติดแนบกับคำบริกรรมพุทโธ บริกรรมภาวนาไปจนกระทั่งลมหายใจละเอียดมาก เสมือนไม่มีลมหายใจอยู่เลยครับ ปรากฏว่าร่างกายเริ่มเบา และมีอาการคล้ายกับร่างกายหายไป เหลือแต่ตัวรู้คือจิต ทุกสิ่งทุกอย่างว่างไปหมด สว่างไปหมด ขาวไปหมด จิตมีอาการสงบเย็น เบาสบายอย่างน่าอัศจรรย์ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยครับ คล้ายกับว่าเหลือแต่ตัวรู้คือจิต เมื่อกระผมดีใจอาการของจิตก็ถอนออกมาทันที เมื่อกระผมเสียใจหรืออยากที่จะเข้าไปสัมผัสกับอาการดังกล่าวอีก ปรากฏว่าไม่เป็นอาการอย่างที่ผ่านมา
กระผมจึงปล่อยวางจิต ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ ปล่อยวางเฉย ๆ ไม่ยึดมั่นถือมั่นกับอาการดังกล่าว ปรากฏว่าจิตยิ่งดำดิ่งลึกมาก สว่างมาก ขาว และว่างไปหมดเลยครับ ร่างกายเหมือนหายไป เหลือแต่ตัวรู้คือจิต เมื่อถอนออกจากสมาธิปรากฏว่าร่างกายเบามาก จิตใจมีความสงบเย็น สุขุม มองอะไรคิดอะไรเห็นเป็นธรรมไปหมด ต่างจากสภาวะปกติทั่วไป จากนั้นกระผมก็หัดพิจารณาธรรม กำหนดลงความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ในขันธ์ห้า รวมทั้งพิจารณาอสุภะภายใน น้อมเข้ามาสู่ไตรลักษณ์  จิตก็ค่อย ๆ วางความยึดมั่นถือมั่นลง ในขณะที่กำลังปฏิบัติธรรมภาวนา กระผมขอกราบเรียนถามหลวงตาว่า ปฏิบัติตามนี้ถูกต้องหรือไม่อย่างไรครับ)

คำตอบ
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2546

เรียนคุณ n
หลวงตาได้เมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาธรรมของคุณให้
คืนวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๖ ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ ดังนี้

หลวงตา     :     บอกเลยว่าถูกต้องแล้ว ให้พิจารณาอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ นะ มันจะเหมือนเก่า ไม่เหมือนเก่า อย่าไปกังวล ให้ถือหลักปัจจุบันด้วยความมีสติในการภาวนาเสมอไป

<< BACK

 


หน้าแรก