|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : ผู้กำลังฝึกหัดภาวนา ถามเมื่อวันที่
16 ต.ค. 2546 |
ภาพกระดูกปรากฏขึ้นเอง
๑.เวลานั่งสมาธิ เมื่อจิตสงบนิ่งเป็นสมาธิแล้ว จึงพิจารณากาย ก็ ปรากฎผลดี แต่มักจะมีจิตหนึ่งมาบอกว่า นั่งนานแล้วให้ถอนออก จากสมาธิ แล้วโยมก็จะถอนออกจากสมาธิตามที่มีเสียงบอก ทั้ง ๆ ที่จะภาวนาต่อไปก็ได้ แต่ไม่ทราบว่าทำไมจึงทำตามเสียงบอกนั้น ทุกครั้งไป ขณะที่ถอนออกจากสมาธิตามเสียงบอก ก็รู้สึกสดชื่นเพราะได้กำลังจากสมาธิ
กราบขอความเมตตาหลวงตาฯ ชี้อุบายแก้ไขจิต เพื่อให้สามารถภาวนาติดต่อกันไปได้เป็นเวลานาน เพราะขณะที่ถอนออกจากสมาธิ ก็รู้สึกว่า สามารถนั่งภาวนาต่อไปได้ แต่จิตหนึ่งก็คอยบอกว่า จะนั่งภาวนาต่อไปทำไม
๒. เมื่อวานนี้ได้เห็นหญิงชราวัยกว่า ๘๐ ปี จิตก็นำเอามาพิจารณาเทียบกับตนเองว่า เมื่อเราถึงวัยชรา สังขารร่างกายก็ย่อมเสื่อมโทรมลงไปเช่นที่เห็น ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ก็ได้นำธรรมะข้อนี้ไปพิจารณาต่อ และมีเสียงขึ้นมาในจิตว่า "เรานี้หลงกาย หลงเขา หลงเรา" และก็ภาวนาต่อไปได้ดี และช่วงเย็นรู้สึกโกรธเพื่อนคนหนึ่ง ไม่อยากจะโกรธ จึงตั้งสติและน้อมจิตเข้ามาเพื่อจะพิจารณากาย แต่ยังไม่ทันจะได้พิจารณากาย ก็ปรากฏภาพกระดูกสีเทา ๆ เป็นท่อน ชัดเจนขึ้นมาในจิต
โยมควรจะพิจารณาต่ออย่างไร เพราะไม่ได้ตั้งใจ ให้มีภาพกระดูกปรากฎขึ้นมา แต่ภาพกระดูกปรากฎขึ้นมาเอง จากผู้กำลังฝึกหัดภาวนา
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2546 |
เรียนคุณใช้นาม ผู้กำลังฝึกหัดภาวนา หลวงตาได้เมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาการภาวนาของคุณให้ เมื่อเช้าวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
โยม : ๑.) เวลานั่งสมาธิ เมื่อจิตสงบนิ่งเป็นสมาธิแล้วจึงพิจารณากายก็ปรากฏผลดี แต่มักจะมีจิตหนึ่งมาบอกว่า นั่งนานแล้วให้ถอนออกจากสมาธิ แล้วโยมก็ถอนออกจากสมาธิตามที่มีเสียงร้องบอก ทั้ง ๆ ที่จะภาวนาต่อไปก็ได้ แต่ไม่ทราบว่าทำไมจึงทำตามเสียงบอกนั้นทุกครั้งไป ขณะที่ถอนออกจากสมาธิตามเสียงบอก ก็รู้สึกสดชื่นเพราะได้กำลังจากสมาธิ กราบขอเมตตาหลวงตาชี้อุบายแก้ไขจิตเพื่อให้สามารถภาวนาติดต่อกันไปได้เป็นเวลานาน เพราะขณะที่ถอนออกจากสมาธิก็รู้สึกว่าสามารถนั่งภาวนาต่อไปได้ แต่จิตหนึ่งก็คอยบอกว่า จะนั่งภาวนาต่อไปทำไม
หลวงตา : อันนั้นมันเรื่องกระซิบของกิเลสนะ นั่งภาวนาไปทำไม เข้าใจเหรอ โคตรพ่อโคตรแม่ของกิเลสมันเคยนั่งภาวนาเหรอ แล้วมันมาสอนเรา เราทำไมเชื่อมันนักล่ะ มันต้องอย่างนั้นซิเข้าใจเหรอ ถ้าโคตรพ่อโคตรแม่ของกิเลสมันไม่เคยนั่งภาวนา อย่าไปเชื่อมันนัก เชื่อธรรมพระพุทธเจ้าเข้าใจไหม ให้ภาวนา เดินภาวนา นั่งภาวนา นอนภาวนาด้วยความมีสติเข้าใจเหรอ เออ เอาละพอ มีอะไรอีกว่าไป
โยม : ข้อ ๒ เมื่อวานนี้ได้เห็นหญิงชราวัยกว่า ๘๐ ปี จิตก็นำเอามาพิจารณาเทียบกับตนเองว่า เมื่อเราถึงวัยชราสังขารร่างกายก็ย่อมเสื่อมโทรมลงไปดังเช่นที่เห็น ต่อมาในวันรุ่งขึ้นก็ได้นำธรรมะข้อนี้ไปพิจารณาต่อ และมีเสียงขึ้นมาในจิตว่าเรานี้หลงกาย หลงเขาหลงเรา และก็ภาวนาต่อไปได้ดี และช่วงเย็นรู้สึกโกรธเพื่อนคนหนึ่งไม่อยากจะโกรธ จึงตั้งสติและน้อมจิตเข้ามาเพื่อจะพิจารณากาย แต่ยังไม่ทันจะได้พิจารณากาย ก็ปรากฏภาพกระดูกสีเทา ๆ เป็นท่อนชัดเจนขึ้นมาในจิต โยมควรจะพิจารณาต่ออย่างไร เพราะไม่ได้ตั้งใจให้มีภาพกระดูกปรากฏขึ้นมา แต่ภาพกระดูกปรากฏขึ้นมาเอง
หลวงตา : แล้วเราจะไปโกรธเขาทำไม ภาพกระดูกมาสอนแล้วมันก็กระดูกเหมือนกัน เขาก็ดีเราก็ดี กระดูกต่อกระดูกไปหาโกรธกันใช้ไม่ได้ ใจสอนให้มันรู้จักกระดูก อย่าไปโกรธไปเคืองกัน สพฺเพ สพฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายมีความ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันหมดทั้งสิ้น เป็นกระดูกด้วยกันทั้งสิ้น อย่าไปหาโกรธกระดูก เราไม่โง่จนบัดซบนี่นะไปหาโกรธกระดูกทำไม เอาละพอ
(ทีมงานขออนุโมทนาในธรรมภาวนาของคุณมา ณ ที่นี้ และโปรดหาอ่านธรรมะหลวงตาเพิ่มเติมในขั้นธรรมของคุณได้ในเว็บไซด์นี้)
|
|
|