|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : พิสิษฐ ถามเมื่อวันที่
5 ส.ค. 2546 |
นั่งสมาธิให้จิตสงบอย่างเดียวเลิกคิดเรื่องนิพพานถูกหรือไม่
1.เวลาที่มีความรู้เกิดขึ้นเช่น มีความรู้ว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ที่ใจ เป็นต้น แต่หลังจากนั้นไม่นานจะมีความสงสัยในความรู้นั้นว่าถูกต้องหรือไม่ มักจะเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย จนรู้สึกว่าต้องต่อสู้กับความสงสัยตลอด ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมจะยึดเอาความรู้นั้นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และกำจัดความสงสัยเสียหรือควรจะพิจารณาความรู้นั้นให้กระจ่างแจ้งจนหายสงสัยครับ 2.เรื่องนี้ผ่านมาหลายวันแล้วครับ ผมได้นอนไกวเปลหลานและเปิดเพลงฟังไปด้วย มีความคิดว่าเพลงที่ฟังอยู่เป็นกิเลส หลังจากนั้นไม่นานจิตเป็นสมาธิและคิดว่าเสียงเพลงเป็นกิเลสวิ่งเป็นสายเข้าไปหาจิต พอไปถึงก็ไม่อยากฟังเพลงที่ฟังอยู่ การไม่อยากฟังเพลงเป็นกิเลสหรือเปล่าครับ 3.ตอนนี้ผมเลิกหาอ่านหนังสือธรรมะเกือบหมด จะอ่านเฉพาะที่อยากอ่านจริง ๆ เพราะยิ่งอ่านยิ่งสับสนในสิ่งที่ผมกำลังปฏิบัติอยู่ว่าถูกต้องหรือไม่ ตอนนี้เลยเน้นนั่งสมาธิให้จิตสงบอย่างเดียว เลิกคิดเรื่องนิพพาน บุญกรรม ไม่ทราบว่าทำถูกต้องหรือเปล่าครับ ขอกราบขอบพระคุณหลวงตาอย่างสูง พิสิษฐ์
Aug0546
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2546 |
เรียนคุณพิสิษฐ์ หลวงตาได้เมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาของคุณให้ เมื่อเช้าวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
โยม : ผมมีปัญหาอยากเรียนถามหลวงตาเพิ่มเติมครับ เวลาที่มีความรู้เกิดขึ้นเช่น มีความรู้ว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ที่ใจ เป็นต้น แต่หลังจากนั้นไม่นานจะมีความสงสัยในความรู้นั้นว่าถูกต้องหรือไม่ มักจะเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย จนรู้สึกว่าต้องต่อสู้กับความสงสัยตลอด ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมจะยึดเอาความรู้นั้นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และกำจัดความสงสัยเสียหรือควรจะพิจารณาความรู้นั้นให้กระจ่างแจ้งจนหายสงสัยครับ
หลวงตา : ถูกต้องแล้วนะ ความสงสัยเหล่านั้นมันคือกิเลส มันเป็นตัวภัย มันเป็นข้าศึกมาทำความรู้สึกอันถูกต้องของเราให้ล้มเหลวไปได้ ให้เอนเอียงไปได้ ให้ยึดเอาความรู้สึกอันนี้ที่เราพิจารณานี้เป็นหลักเป็นเกณฑ์แล้วตัดความสงสัยนั้นออก เท่านั้นแหละ เอ้า ว่าไป
โยม : ข้อต่อไปครับ เรื่องนี้ผ่านมาหลายวันแล้วครับ ผมได้นอนไกวเปลหลานและเปิดเพลงฟังไปด้วย มีความคิดว่าเพลงที่ฟังอยู่เป็นกิเลส หลังจากนั้นไม่นานจิตเป็นสมาธิและคิดว่าเสียงเพลงเป็นกิเลสวิ่งเป็นสายเข้าไปหาจิต พอไปถึงก็ไม่อยากฟังเพลงที่ฟังอยู่ การไม่อยากฟังเพลงเป็นกิเลสหรือเปล่าครับ
หลวงตา : ที่ไม่อยากฟังเพลงที่สกปรกนั้นไม่เป็นกิเลส ถ้าอยากฟังเพลง เช่น คุณเพลิน พรหมแดน ร้องเพลงของท่านอาจารย์มั่นนั้น อันนั้นถูกต้องให้ฟังมาก ๆ เข้าใจไหม
โยม : ต่อไปนะครับ อีกข้อหนึ่งบอกว่า ตอนนี้ผมเลิกหาอ่านหนังสือธรรมะเกือบหมด จะอ่านเฉพาะที่อยากอ่านจริง ๆ เพราะยิ่งอ่านยิ่งสับสนในสิ่งที่ผมกำลังปฏิบัติอยู่ว่าถูกต้องหรือไม่ ตอนนี้เลยเน้นนั่งสมาธิให้จิตสงบอย่างเดียว เลิกคิดเรื่องนิพพาน บุญกรรม ไม่ทราบว่าทำถูกต้องหรือเปล่าครับ ขอกราบขอบพระคุณหลวงตาอย่างสูง
หลวงตา : เออ เอาละ ถูกต้อง ตอนนั้นไม่ต้องไปคิดถึงมรรค ผล นิพพาน บุญ กรรม ให้ระลึกอยู่กับคำบริกรรมหรือคำภาวนานี้โดยเฉพาะ มันจะกระเทือนถึงกันเองกับมรรคผลนิพพานเข้าใจไหม เออ เอ้า ว่าไป
โยม : จบแล้วครับ เขากราบขอบพระคุณมาครับ
(ทีมงานขออนุโมทนาในธรรมปฏิบัติของคุณมา ณ ที่นี้)
|
|
|