|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : หมาน้อย ถามเมื่อวันที่
28 มิ.ย. 2546 |
ความเข้าใจอายตนะนิพพาน
ขอเมตตาหลวงตาพิจารณาความเข้าใจนี้ว่าถูกหรือไม่ ได้ยินคำว่าอายตนะนิพพานแล้ว รู้สึกว่าเป็นคำที่ใช้ได้ดีอย่างมาก คำว่าอายตนะคือ ระบบการรับรู้ จะต้องมีสองส่วนคือ สิ่งของ วัตถุ หรือ คลื่นเสียง ระบบกลิ่น ระบบรส ที่มาตกกระทบกับอวัยวะ แต่อวัยวะนั้นไม่ได้รับรู้ เพราะว่ากันตามจริงแล้ว อวัยวะไม่มีผู้รับรู้ แต่ผู้รับรู้โดยตรงคือ นามธรรมตัวหนึ่ง ซึ่งมีอยู่ตลอดเวลา ปุถุชนคนทั่วไปจะเอา นามธรรมผู้รู้นี้ ปนกันระบบรู้ ปนกับร่างกายและอวัยวะ และบอกว่าเขาเป็นผู้รับรู้ เป็นผู้เห็น ผู้ได้ยิน ได้กลิ่น และลิ้มรส แต่ผู้ปฏิบัติเพื่อการรู้เห็นตามความเป็นจริงจะทราบได้ และแจกแจงได้ถึงความเป็นคนละส่วนของระบบทั้งหมด ระบบจิตล้วนๆของพระอรหันต์จะแยกออกมาอีกชั้นหนึ่ง นอกเหนือจากระบบทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ถึงแม้จิตจะภูมิใจในความเป็นผู้รู้ล้วน ๆ ว่ารู้แล้ว ว่าระบบอายตนะภายใน ภายนอกเป็นอย่างไร และไม่ติดในความรู้ ความเห็นใด ๆ ในจิตนี้ แล้วก็ตาม แต่จิตลืมไปว่า มันยังติดอยู่ในตัวตนเองที่ยังวิจารณ์ ตัวอื่น ๆนอกเหนือตัวมัน ลืมที่จะหันมาวิจารณ์ตัวเอง เมื่อได้หันมาวิจารณ์ตัวเองอยู่เรื่อย ๆ แล้ว ปัญญาจะเห็นว่า ผู้รับรู้นี้เป็นเพียง ระบบหนึ่งเหมือนกัน เป็นเพียงผู้รับรู้เท่านั้น และมีความเป็นตัวเป็นตน หลอกให้จิตเชื่อว่า เป็นตัวเป็นตนตามมันไป จิตที่เห็นความจริง จะแยกออกมาจากระบบนี้ และมีความรู้ ความเห็นอันหนึ่งเกิดขึ้น ความรู้ ความเห็นอันนี้แหละ ซึ่งรู้ความจริง ในระบบทั้งหมด รวมถึงรู้ความจริงในตัวผู้รู้มันเองด้วยเป็นอายตนะหนึ่งเดียวที่มีในจิตที่บริสุทธิ์
Jun2846
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 0 543 |
เรียนคุณหมาน้อย หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบเป็นแนวธรรมศึกษาให้คุณ ไว้วันที่ ๓๑ มิถุนายน ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
หลวงตา : โอ๊ย.เอาละไม่อยากพูด คำว่า อายตนะนิพพาน จะรู้ได้ชัดและเข้าใจกัน มีพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ล้วน ๆ เท่านั้น เพราะอายตนะนิพพานเป็นสมบัติประจำท่านตลอด จ้าเข้าไปปั๊บนี่ถึงแล้วถึงกันหมดแล้ว นี่พูดเข้าใจหรือเปล่าล่ะ นี่ละอายตนะนิพพาน พอบรรลุธรรมปึ๋งถึงกันหมด นี่อายตนะนิพพานของพระอรหันต์ท่านไม่ถามกัน พวกเรามาถามนี้ เดี๋ยวเห่าไปทางนั้น เดี๋ยวเห่าไปทางนี้ เดี๋ยวไอ้หยองเห่าทางนี้เดี๋ยวไอ้ปุกกี้เห่าทางนี้ เราเลยจะต้มยำหมาไม่ไหววันนี้ เอาละพอ
อายตนะนิพพานเป็นของเล่นเมื่อไร แต่เป็นของจริงร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับพระอรหันต์เท่านั้น พูดอย่างนี้พอเข้าใจไม่ใช่เหรอ พอบรรลุธรรมปึ๋งอายตนะนิพพานถึงกันหมด นั่นเห็นไหม นี่ละอายตนะนิพพานโดยแท้เป็นอย่างนี้ อย่างอื่นก็ว่ากันไปอย่างนั้นแหละ ที่จ้าขึ้นเลยทันทีไม่ต้องถามกัน ทุก ๆ องค์บรรดาสิ้นกิเลสด้วยกันแล้วก็คือ พระอรหันต์เท่านั้น เป็นผู้ทรงอายตนะนิพพานสมบูรณ์แบบ เข้าใจไหม แล้วจะมีข้อคัดค้านตรงไหนอีกล่ะว่ามาซิ
โยม : ขอให้มีอายตนะนิพพาน จะได้เข้าใจกว่านี้ หลวงตา : ก็พูดแล้วนี่ อายตนะนิพพาน เช่น พระอรหันต์นี่นะ เช่น สมมุติหลวงตาบัวขึ้นเป็นพระอรหันต์ นี่ก็อายตนะนิพพาน แน่ะ ก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ นี่ตุ๊กตาเข้าใจไหม มันก็เท่านั้นเองจะว่าอะไรอีก พูดขนาดนั้นแล้วยังไม่เข้าใจ นี่ละธรรมประเภทที่ท่านก็พูดออกมาสำหรับปุถุชนเรานี้ไม่เข้าใจเลย อันนี้เราแน่นอนไม่เข้าใจเลย จะพูดแยกไปไหนก็ไม่เข้าใจ พอว่า อายตนะนิพพาน พระอรหันต์ทรงไว้สมบูรณ์แบบทุกองค์ ถึงกันหมดทันที อันนี้เข้าใจด้วยกันหมด ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมาทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกองค์ พอผางเข้าจุดนั้นแล้วเป็นอายตนะนิพพานด้วยกันหมดเลย เข้าใจเหรอ ท่านไม่สงสัยกันเลย ไม่สงสัยพระพุทธเจ้าว่ามีมากมีน้อยเพียงไร แล้วพระพุทธเจ้าก็ไม่สงสัยพระอรหันต์ เพราะเป็นอายตนะนิพพานด้วยกัน สงสัยกันหาอะไร แน่ะเท่านั้น
|
|
|