คำถาม 
โดย : ตั้ม ถามเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2546

เอาสติไว้ที่ปลายจมูกถูกต้องหรือไม่

(จากประเทศออสเตรเรีย)
กราบนมัสการหลวงตาที่เคารพอย่างสูงขอรับ
เนื่องด้วยกระผมรู้สึกสงสัยวิธีการอานาปานสติที่กระผมกำลังทำอยู่ ว่าเป็นไปถูกทางหรือไม่ ซึ่งพอเกิดความสงสัยตัวนี้ขึ้นมาทีไรความหยั่งในความละเอียดของสมาธิดูเหมือนถูกสกัดกั้นขอรับ วิธีเดียวที่กระผมทำได้เพื่อทำลายความสงสัยตัวนั้นก็คือ พยายามสังเกตสติที่จับอยู่ที่ปลายจมูกว่าเป็นจุดจุดเดียวหรือไม่ พอทดลองจนแน่ใจแล้วก็ดำเนินวิธีนั้นต่อไปขอรับ ผลที่ได้ก็คือลมหายใจจะเบาลง พร้อมกับความปีติอิ่มเอิบใจที่เพิ่มขึ้นจนกระทั่งถึงจุดจุดหนึ่งรู้สึกความอิ่มเอิบมีมากจนบอกไม่ถูกบางครั้งรู้สึกเหมือนขนลุกด้วยขอรับ จากที่สังเกตผลที่กระทำมากระผมเข้าใจว่าทำถูกทางขอรับ แต่พอมาทำอีกความสงสัยก็เกิดขึ้นอีกแล้วก็เป็นอุปสรรคเหมือนเดิม กระผมจึงใคร่ขออนุญาตหลวงตาได้โปรดพิจารณาวิธีอานาปานสติที่กระผมทำอยู่ด้วยขอรับ ว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ครับ วิธีที่กระผมทำอยู่ก็คือเอาสติไว้ที่ปลายจมูกดักความรู้สึกของลมที่เข้าและออกขอรับ ในขณะเดียวกันก็รับรู้ไปในตัวด้วยว่าลมที่เข้าสั้นแค่ไหน ยาวแค่ไหน บางครั้งก็รับรู้ถึงปริมาณลมว่ามากแค่ไหน น้อยแค่ไหน บางครั้งก็จับภาพเป็นเหมือนแผ่นเยื่อบางบาง เข้าและออกตามลมหายใจขอรับ 
วิธีที่กล่าวมากระผมทำแล้วได้ผลขอรับ แต่จุดเดียวที่กระผมสงสัยคือกระผมกลัวว่าตอนที่พิจารณาว่าลมสั้นแค่ไหน ยาวแค่ไหน หรือปริมาณลมเข้ามากแค่ไหน ออกมากแค่ไหน สติของกระผมจะไม่เป็นจุดจุดเดียว กลัวว่ามันจะตามเข้าไปด้วย ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ได้อ่านมาขอรับ แต่กระนั้นวิธีที่กระผมได้ปฏิบัติได้ให้ผลดั่งที่กระผมได้กราบเรียนไปแล้วขอรับ
ขอกราบนมัสการขอบพระคุณหลวงตาเป็นอย่างสูงขอรับ 

Jun1846

คำตอบ
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2546

เรียนคุณตั้ม
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาธรรมของคุณให้
วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

หลวงตา     :      มันสงสัยอะไร ว่ามาซิ สงสัยมันสงสัยอะไร 

โยม            :      ก็สงสัยวิธีอานาปานสติที่เขาอยู่นี่ครับ ว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ วิธีที่เขาทำอยู่คือเอาสติไว้ที่ปลายจมูก 

หลวงตา     :     เออ ถูกต้องแล้วอันนั่นน่ะถูกแล้ว

โยม            :     ดักความรู้สึกของลมที่เข้าและออกขอรับ ในขณะเดียวกันก็รับรู้ในตัวด้วยว่า ลมที่เข้าสั้นแค่ไหนยาวแค่ไหน บางครั้งก็รับรู้ถึงปริมาณลมว่ามากแค่ไหนน้อยแค่ไหน บางครั้งก็จับภาพเป็นเหมือนแผ่นเยื่อบาง ๆ เข้าและออกตามลมหายใจขอรับ วิธีที่กล่าวมากระผมทำแล้วได้ผลขอรับ แต่จุดเดียวที่กระผมสงสัยคือ กระผมกลัวว่าตอนที่พิจารณาว่าลมสั้นแค่ไหน ยาวแค่ไหน หรือปริมาณลมเข้ามากแค่ไหน ออกมากแค่ไหน สติของกระผมจะไม่เป็นจุด ๆ เดียว เพราะว่ามันจะตามเข้าไปด้วย ซึ่งไม่เป็นไปตามได้อ่านมาขอรับ แต่กระนั้นวิธีที่กระผมได้ปฏิบัติ ได้ผลดังที่กระผมได้กราบเรียนไปแล้วขอรับ กราบนมัสการขอบพระคุณหลวงตาเป็นอย่างสูงขอรับ จากตั้ม 

หลวงตา     :     เออ อันนี้ถูกต้องแล้วนะ อย่าไปสงสัย สิ่งสงสัยคือกิเลส มันมากีดขวางทางสะดวกและทางถูกต้องของเราให้เขวไปตามมันเข้าใจไหมล่ะ ทางที่เราดำเนินมาแล้วถูกต้องแล้ว ลมหายใจละเอียดเท่าไรจะรู้ในตัวเอง ละเอียดจนกระทั่งหมดลมมันก็รู้เอง นี่ละการภาวนาพระพุทธเจ้าก็เจริญอานาปานสติ กำหนดลมหายใจเข้าออก ๆ ใครจะเจริญธรรมบทใดก็ตาม ตามแต่จริตนิสัยได้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วผลสุดท้ายที่ได้ก็คือความสงบ ความสว่างไสวของจิตจะเกิดขึ้นด้วยกัน เช่น อย่างคนนี้ทำนา คนนี้ทำสวน คนนี้ค้าขาย ประเภทต่าง ๆ ตามแต่หน้าที่ที่ถนัดตัวเองไปทำ ผลรายได้คือตัวเงินสำเร็จการครองชีพด้วยกันเข้าใจไหม อันนี้ก็เหมือนกัน ผลรายได้คือความสงบเย็น เอาเท่านั้นละ มีอะไรอีก

(ทีมงานอนุโมทนาในธรรมภาวนาของคุณมา ณ ที่นี้)

<< BACK

 


หน้าแรก