คำถาม 
โดย : ฝ้ายคำ ถามเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2546

ชอบเพศเดียวกันผิดหลักพุทธศาสนาหรือไม่

หนูอยากกราบเรียนถามปัญหาหลวงตาค่ะ คือหนูมีเพื่อนคนหนึ่งเขามาปรึกษาปัญหาอย่างจริงจังกับหนูว่า เขาเป็นหญิงที่รักชอบคนเพศเดียวกัน กำลังตัดสินใจจะไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน เขาเป็นคนเคารพในพุทธศาสนาเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ พ่อแม่และญาติพี่น้องไม่เห็นด้วย เพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเตือนกล้าบอก เขาจึงปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทซึ่งมีหนูรวมอยู่ด้วย แต่ทุกคนก็ไม่ทราบจะตอบอย่างไร เขาบอกว่าถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักศีลธรรม หรือขัดต่อคำสอนของพระพุทธองค์เขาก็จะพยายามฝืนใจไม่ไปใช้ชีวิตคู่ และจะคบค้ากันอย่างเพื่อน แต่ถ้าไม่ผิดหลักธรรมอะไร เขาก็จะเลือกชีวิตเช่นนั้น เพราะสังคมในปัจจุบันก็รู้สึกจะยอมรับได้มากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งชีวิตคู่เช่นนี้ก็ไม่ต้องมีลูกให้เป็นภาระอีกด้วย
คนอื่นๆ ตอบก็ไม่เป็นที่แน่ใจแก่หนูและเพื่อนๆ แถมยังไม่มีใครสามารถยกหลักพุทธศาสนามาอธิบายอย่างชัดเจนได้ค่ะ หนูจึงขอรบกวนกราบเรียนถามหลวงตาแทนเพื่อนว่า หลวงตามีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างคะ จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องต่อหลักศีลธรรม หรือผิดจากหลักพระพุทธศาสนาอย่างไรบ้างไหมเจ้าค่ะ เพื่อนหนูเขาจะรอฟังคำตอบในเรื่องนี้จากหลวงตาเช่นกันค่ะ และเขาจะใช้คำตอบของหลวงตาเป็นแนวทางในการตัดสินใจชีวิต ถึงแม้ว่าจะต้องฝืนใจและต้องอดทนขนาดไหนก็ตาม เขาก็บอกกับเพื่อนๆ ว่าจะเลือกปฏิบัติตามหนทางที่ถูกต้องและไม่ผิดต่อศีลธรรมเจ้าค่ะ 

Jun1746

คำตอบ
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2546

เรียนคุณฝ้ายคำ
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาของคุณให้
เมื่อเช้าวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

หลวงตา   :   เอาละ ตั้งแต่หมาเขายังมีตัวผู้ตัวเมียสมสู่อยู่ร่วมกัน คนมันหาไม่ได้เหรอ ผู้หญิงหาผู้ชายมาเป็นผัวไม่ได้เหรอ ถ้างั้นมันก็เลวกว่าหมา เข้าใจไหม นี่ละหลักธรรมเป็นอย่างนั้น นี่มันไม่ใช่หลักธรรม มันขัดมันแย้งออกมาอย่างนั้น หลักธรรมทั่วโลกดินแดนพระพุทธเจ้าก็สอนมาอย่างนั้น มีผัวมีเมีย ก็คือผู้หญิงกับผู้ชาย แม้แต่สัตว์เช่นหมาเป็นต้นก็มีตัวผู้ตัวเมีย ไอ้เราผู้หญิงวิ่งไปหาผู้หญิงด้วยกัน มาเป็นผัวเป็นเมียกันนี่มันเลวกว่าหมา มันหาผู้ชายไม่ได้เหรอ ให้รีบงดถ้าตั้งใจว่าจะงด ให้รีบหยุดเสียถ้าตั้งใจจะหยุด เข้าใจเหรอ 

โยม           :     เขารอฟังคำสอนหลวงตาอยู่ครับ

หลวงตา     :     นี่สอนแล้ว เอาละพอ

(ทีมงานขอเป็นกำลังใจจากแนวคำสอนของหลวงตามา ณ ที่นี้)

<< BACK

 


หน้าแรก