|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : ศิษย์สวนแสงธรรม ถามเมื่อวันที่
13 พ.ค. 2546 |
พิจารณาอสุภะเป็นอนุโลม-ปฏิโลม
น้อมกราบนมัสการกราบเรียนถามหลวงตา เรื่องพิจารณาอสุภะ
อิริยาบถถูกจริตกับการเดินจงกรมภาวนาพุทโธเมื่อขั้นฝึกจิตเกิดสมาธิจนจับคำบริกรรมอยู่ท่ามกลางอกแนบกับสติ มันเหมือนตึ๊ก ๆ แน่นอยู่ท่ามกลางอก มีสติทุกอิริยาบถ เหมือนว่าเราอยู่ในห้องว่างคนเดียว มีใครเปิดประตูโผล่หน้าเข้ามานิดหนึ่งก็เห็น เปรียบคนที่โผล่หน้าเข้ามาเหมือนอารมณ์เครื่องกวนจิต ไม่ว่าดี ชั่ว เรื่องทั่วไป เหมือนมีฐานรู้เป็นสมาธิที่ตรงกลางอก เรื่องราวอารมณ์ใดก็ตามแว็บเข้ามานิดหนึ่ง เหมือนมีฐานรู้ในเรื่องราวนั้น ๆ แต่มันก็เป็นสมาธิสติตึ๊ก ๆ อยู่ท่ามกลางอก จนคิดเทียบของมันเองว่า อาการจิตฟุ้งซ่านกับจิตที่เป็นสมาธิ เห็นความวุ่นวายของสื่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาที่จิต จิตมันจึงลงให้กับความเป็นสมาธิ เพราะเห็นโทษวุ่นวายจากจิตฟุ้งซ่านมาเทียบกันแล้ว เช่นหากมีใครมาสร้างความเดือดร้อนให้ ก่อเรื่องวุ่นวายให้ จิตมันก็เย็นของมันอยู่เงียบๆเขาจะว่าจะก่อเรื่องไม่ดีให้เราอะไรใครก็ตาม แปลกที่จิตมันเย็นของมัน เขาทำก็เป็นเรื่องที่เขาทำ เราไม่รับเข้ามาหาใจเรา มันก็อยู่แบบเงียบ ๆ เย็น ๆ รู้สึกตลก ๆ และสงสารคนที่เขาทำไม่ดีกับเรา เขามีแต่ไฟเผาใจเขา นี่ค่อยสังเกตการพัฒนาของจิตเป็นระยะ ๆ ไปแบบนี้
พอออกพิจารณาด้านปัญญา พิจารณาอสุภะเป็นอนุโลม-ปฏิโลม จากหัวลงเท้า จากเท้าขึ้นหัว เป็นภาพสุภะร่างกายคนปกติ ค่อยย่อยลง สลายลงเป็นผงดิน ตามขั้นไตรลักษณ์ของความเป็นกายคนกายสัตว์ อริยสัจมันก็ผุดชัดขึ้นมาจนน้ำตาไหลเป็นความซึ้งด้วยความจริงในอริยสัจที่ไม่เคยชัดด้วยธรรมนี้มาก่อน ขณะจิตที่พิจารณาตอนนี้เมื่อดึงอสุภะให้แน่นที่จิต มันก็เหมือนซึมเป็นความเข้าใจ อาการของกามราคะเหมือนเด็กมาแหย่เล่นๆ ยิบ ๆ อสุภะเป็นเหมือนตัวป้องกัน เป็นฐานมั่นคงแน่นที่จิตจากอาการกามราคะและทั้งภาพกามกิเลสขึ้นมา อสุภะก็ดึงขึ้นมารับกับอาการกามราคะนั้นๆ แต่ระยะหลังมานี่อุสภะขึ้นทันที สุภะก็แว็บขึ้นมาทันทีทับอสุภะ ลูกจึงสังเกตว่านี่ยังมีตัวสุภะกามกิเลสอยู่ที่มันคอยจะเล่นงานได้ทุกเมื่อ ลูกจึงเร่งที่จะพิจารณาอสุภะให้ซึมมากเข้าแต่แปลกที่ทั้งอสุภะกับสุภะมันวื้ด ๆ รวมลงที่จิต มาอยู่ตรงท่ามกลางอก แต่เป็นน้อยครั้งไม่มากเหมือนทุกครั้งที่พิจารณาอสุภะแต่สุภะทับลงทันที
ขอกราบรบกวนเรียนถามหลวงตาเพิ่มเติมในขั้นต่อไปด้วยเจ้าค่ะ และแนวทางที่ปฏิบัติมา ขอกราบนมัสการมาด้วยความเคารพเหนือเกล้า จากศิษย์สวนแสงธรรม
May1346
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2546 |
เรียนคุณใช้นาม ศิษย์สวนแสงธรรม หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบ การพิจารณาอสุภะของคุณ ไว้ เมื่อเช้าวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
หลวงตา : เขาถามว่าถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง อันนี้ถูกต้องอยู่แล้วนี่ ถูกต้องแล้วที่เขาพิจารณาอย่างนี้นะ พิจารณาอสุภะรวดเร็วเท่าไรสุภะก็ค่อยลดลง ๆ เพราะพิจารณาถูกต้องแล้วไม่อธิบายไปมากละ ที่ว่าสุภะ อสุภะนี้ที่จะยุติของมันนั้นอธิบายให้ฟังยากนะ ถ้าจะอธิบายในจุดนั้นแทนที่มันจะเปิดโล่งของมันเข้าไปได้ มันกลับปิดตันตัวเอง เพราะฉะนั้นท่านผู้พิจารณาถึงขั้นอสุภะนี้การอธิบายอสุภะเวลาที่จะขาดจากกันจริง ๆ นี้ ต้องเป็นเคล็ดลับของตัวเองจะไปบอกอย่างนั้นไม่ได้นะ ก็มีตั้งแต่ว่าให้ทำอย่างนั้น ๆ เท่านั้นอยู่ เราจะให้เป็นอย่างนั้นต่อไปอีกนี้บอกไม่ได้ อันนี้เมื่อรู้นี่ปั๊บแล้วก็ทะลุถึงกันเลย นี่ละอันหนึ่งเป็นเคล็ดลับของกิเลสประเภทนี้ เข้าใจมิใช่เหรอที่พูด อะไร ๆ ก็ตาม อันนั้นอสุภะอันนี้อสุภะมันเป็นไปจากจิต เมื่อจิตพิจารณาแล้วดึงเข้ามา พิจารณามันเข้ามาหาตัวเอง แล้วตัวเองเป็นตัวนั้นเสียเอง แล้วมันก็ปล่อยข้างนอกเข้าใจหรือเปล่าล่ะ ก็เป็นอย่างนั้น
ปล่อยข้างนอก ก็พิจารณาเอาอันนั้นละฝึกซ้อมตัวเองให้มันชำนิชำนาญเข้าไป ละเอียดเข้าไป ๆ แล้วจิตอันนี้ตั้งขึ้นเร็วขึ้นดับเร็วขึ้น ตั้งขึ้นปั๊บ กำหนดปั๊บมันจะดึงเข้ามานี้ มันจะดึงเข้ามาเองนะ เร็วเข้า ๆ ต่อจากนั้นไปสุภะหรืออสุภะก็ดีที่ตั้งขึ้นมาแบบไหนนั้น มันจะดับรวดเร็วลงไปแล้วก็หดเข้ามาที่ใจ ๆ ต่อจากนั้นมันก็แย็บ ๆ ๆ เป็นแสงหิ่งห้อยไป แล้วก็เอาอันนั้นละพิจารณาต่อไป จับไม่ปล่อยจากจุดนี้นะ มันชำนาญขนาดไหนมันจะรู้ของมันเอง เอาอันนี้ละเป็นฐานฝึกซ้อมตลอด ตั้งแต่สุภะ อสุภะนี่ พอกำหนดแล้วมันจะเข้ามา ๆ นี่เรียกว่าผู้เข้าใจสุภะ อสุภะแล้ว เรื่องกามกิเลสเข้าใจในจุดนี้ แล้วก็ฝึกซ้อมถ้ายังไม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ฝึกซ้อมนี่ละมันจะก้าวขึ้นสู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังที่ท่านว่า อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฎฐา ชั้นสุทธาวาสของพระอนาคามีท่านได้ระดับแรกก่อน การฝึกซ้อมอย่างนี้เรียกว่า ฝึกซ้อมเพื่อก้าวสูงขึ้นไปละเอียดขึ้นไปจนกระทั่งถึงอกนิฏฐา เสร็จจากนั้นพุ่งเลยถึงนิพพาน เข้าใจนะ ต้องฝึกซ้อมเรื่อย ๆ อันนี้
(ทีมงานขออนุโมทนาในธรรมภาวนาและเป็นกำลังใจให้พร้อมด้วยความเพียรในการฝึกซ้อมดังหลวงตาเมตตาสอนค่ะ)
|
|
|