คำถาม 
โดย : ณฐนนท์ ตราชู ถามเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2546

ออกพิจารณาธรรมเร็วเกินไปหรือไม่

กราบเรียนพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัวที่เคารพยิ่ง กระผมได้มีโอกาสมาปฏิบัติราชการ ณ ต่างประเทศ ก็ยังนั่งสมาธิอยู่เสมอ สถานที่สงบเงียบมาก มีป่ามาก ตอนนี้ผมมีปัญหาเรื่องจิตตภาวนา ไม่ทราบจะถามใคร จึงขอกราบขอเมตตาจากหลวงตา 
1. บางวันผมเดินกลับบ้าน มารู้ตัวอีกครั้งจิตมันแอบพุทโธๆๆ อยู่เองโดยอัตโนมัติ ดูเหมือนจะดี แต่ผมสงสัยว่าเป็นเรื่องของการเผลอ หรือขาดสติไหมครับ กลัวว่าเดี๋ยวคนมาทักจะไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินอยู่ข้างนอกผมควรปฏิบัติตัวอย่างไรครับ ควรประคองพุทโธต่อไปขณะเดินหรือเลิกบริกรรมไปเสีย

2. ทุกวันนี้ผมนั่งสมาธิแบบวนไปวนมา ไม่ทราบว่าจะถูกหรือไม่ครับ คือ ผมเริ่มพุทโธๆๆ จนนิ่งได้ระยะหนึ่ง หมดความรู้สึกทางกายทั้งหมดแล้ว จะเหมือนกับที่เรียกกว่าจิตรวมหรือไม่ก็ไม่ทราบ ก็ออกมาพิจารณา ผม เล็บ ขน หนัง ฟัน ถึงความสกปรกและไม่เที่ยงของสิ่งเหล่านี้ สักพัก ก็วนไป วนมา ย้อนไป ย้อนมา พอรู้สึกเหนื่อย คือพิจารณาไปแล้วไม่เกิดความเฉียบขาด คือทื่อๆและไม่สิ้นสุด ผมก็เลิกพิจารณา กลับมาพุทโธๆๆๆ ต่อ จนนิ่งอีกดีแล้วก็มาพิจารณาอีกครั้ง วนไปวนมาแบบนี้หล่ะครับ แต่ละช่วงไม่นานเท่าไหร่ประมาณ สิบกว่านาทีได้ครับ หลวงตาครับผมควรอยู่ในสมถะนานกว่านี้ไหมครับ ผมออกมาพิจารณาเร็วเกินไปไหมครับเกรงว่าจะเป็นผลเสียมากกว่าได้ 

ห่างไปจากเมืองที่ผมอยู่ประมาณสองชั่วโมง ก็มีวัดสาขาของหลวงปู่ชา แห่งวัดหนองป่าพง ที่เมืองเวลลิงตัน 

May2246

คำตอบ
เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2546

เรียนคุณณฐนนท์ 
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาภาวนาของคุณให้
เช้าวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

โยม            :     กราบขอเมตตาจากหลวงตา ๑)บางวันผมเดินกลับบ้าน มารู้ตัวอีกครั้ง จิตมันแอบพุทโธ ๆ อยู่เองโดยอัตโนมัติ ดูเหมือนจะดี แต่ผมสงสัยว่าเป็นเรื่องของการเผลอหรือขาดสติไหมครับ กลัวว่าเดี๋ยวคนมาทัก จะไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินอยู่ข้างนอก ผมควรปฏิบัติตัวอย่างไรครับ ควรประคองพุทโธต่อไปขณะเดิน หรือเลิกบริกรรมไปเสีย

หลวงตา     :     ก็ภาวนาพุทโธต่อไปนั่นแหละ เลิกบริกรรมแล้วไม่เป็นท่า ตั้งแต่กำลังภาวนาอยู่ยังมาสงสัยตัวเจ้าของ ยิ่งหยุดภาวนาแล้วยิ่งเป็นบ้าไปเลย หายสงสัยแล้วคนเป็นบ้า เข้าใจไหม

โยม             :     ข้อที่สอง ทุกวันนี้ผมนั่งสมาธิไปจะวนไปวนมา ไม่ทราบว่าจะถูกหรือไม่ครับ คือผมเริ่มพุทโธๆ จนนิ่งได้ระยะหนึ่ง หมดความรู้สึกทางกายทั้งหมดแล้ว จะเหมือนกับที่เรียกว่าจิตรวมหรือไม่ก็ไม่ทราบ พอออกมาพิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ความสกปรกและความไม่เที่ยงของสิ่งเหล่านี้สักพัก ก็วนไปวนมา ย้อนไปย้อนมา พอรู้สึกเหนื่อย คือพิจารณาไปแล้วไม่เกิดความเฉียบขาด คือทื่อๆ และไม่สิ้นสุด ผมก็เลิกพิจารณา กลับมาพุทโธ ๆ ต่อจนนิ่งอีกดีแล้ว ก็หันมาพิจารณาอีกครั้ง วนไปวนมาแบบนี้ละครับ แต่ละช่วงไม่นานเท่าไร ประมาณ ๑๐ กว่านาทีได้ครับ หลวงตาครับผมควรอยู่ในสมถะนานกว่านี้ไหมครับ ผมออกพิจารณาเร็วเกินไปไหมครับ เกรงว่าจะเป็นผลเสียมากกว่าได้

หลวงตา     :     การพิจารณาดังที่พิจารณามาแล้วก็เป็นเรื่องของนักภาวนา เวลาสงบก็สงบ เวลาพิจารณาวกวนก็คุ้ยเขี่ยขุดค้นหาเหตุหาผล ก็วกวนเป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่วกวนแบบคนไม่เคยภาวนา วกวนด้วยสติปัญญาพิจารณาคุ้ยเขี่ยขุดค้นหาเหตุหาผลของสัจธรรมคือขันธ์ทั้งห้านี้ ไม่ผิดแหละอันนี้ เข้าใจเหรอ มันจะวกวนก็ให้วกวน วกวนด้วยวิธีนี้ไม่เป็นไรไม่เสียหาย เป็นวกวนที่ถูกต้องดีงามอยู่แล้ว แล้วอะไรอีกล่ะ

โยม            :     เขาบอกว่าเขาควรอยู่ในสมถะนานกว่าที่เขาจะออกมาพิจารณา เขาพิจารณาเร็วเกินไปหรือไม่

หลวงตา     :     ขอบอกย่อๆ เสียก่อนไม่ต้องมากมายนัก เขาจะอยู่สัก ๕ ชั่วโมงหลวงตาก็พอใจ หรืออยู่ถึง ๑๐ ชั่วโมงหลวงตาก็พอใจ มันไม่ค่อยได้มีใครอยู่อย่างนี้แหละ เราอยู่เราอย่าโดดออกไป เข้าใจไหม ให้อยู่สงบ เมื่อถอนออกไปแล้วค่อยพิจารณา อย่าไปรบกวน สงบเท่าไรก็ตามกำลังของเจ้าของเสียก่อนในเบื้องต้น เข้าใจ

(ทีมงานตั้งจิตอนุโมทนาในธรรมภาวนาของคุณมา ณ ที่นี้)

<< BACK

 


หน้าแรก