คำถาม 
โดย : ศิษย์ชาวพุทธ ถามเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2546

ศาสนาเซนเป็นภาคปฏิบัติขั้นสติปัญญาอัตโนมัติของพุทธศาสนา

ฝากทีมงานกราบอนุโมทนาสาธุการ ที่หลวงตาเมตตาเปิดเรื่องพระพุทธศาสนาให้ลูกหลานได้เข้าใจ และปฏิบัติถูกตามแนวทาง  หลวงตาเทศน์สอนเกี่ยวกับเรื่องศาสนาเซน ไว้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ศาสนาเซนก็คือภาคปฏิบัติ เป็นขั้นสติปัญญาอัตโนมัติ ทำให้ลูกหลานได้เข้าใจและเป็นพระคุณอันหาประมาณมิได้ที่หลวงตาเปิดธรรมนี้ให้ลูกหลานได้เข้าใจและน้อมรับมาปฏิบัติตาม (ศิษย์)

คำตอบ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2546

เรียนคุณใช้นาม ศิษย์ชาวพุทธ
หลวงตาได้เมตตาแสดงธรรมตอบคุณเกี่ยวกับเรื่องศาสนาเซน
เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

โยม           :      คนที่ ๔ บอกมาว่า ที่หลวงตาเมตตาในเรื่องพุทธศาสนาให้ลูกหลานได้เข้าใจ และปฏิบัติถูกต้องตามแนวทาง หลวงตาเทศน์สอนเกี่ยวกับเรื่องศาสนาเซน เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ที่ผ่านมา ศาสนาเซนเป็นภาคปฏิบัติเป็นขั้นสติปัญญาอัตโนมัติ ทำให้ลูกหลานได้เข้าใจ 

หลวงตา     :      สติปัญญาอัตโนมัติของพุทธศาสนาเข้าใจไหม 

โยม            :       ครับ ทำให้ลูกหลานได้เข้าใจ และเป็นพระคุณอันหาประมาณไม่ได้ที่หลวงตาได้เปิดธรรมะนี้ให้ลูกหลานได้เข้าใจ และน้อมรับมาปฏิบัติ เขาก็แบบว่ากราบขอบพระคุณหลวงตามาที่หลวงตาได้เมตตา

หลวงตา     :      เออ เอาละ ก็ไม่ผิด ถ้าใครก้าวเข้าถึงขั้นอันนี้จะว่าเซนก็ได้ จะว่าพุทธเต็มเหนี่ยวก็ได้ เราก็เคยพูดแล้วว่าเซนนี้ออกจากพุทธ คือเซนนี่ผู้พิจารณาทางด้านปัญญา จิตใจผ่านได้ด้วยพิจารณาทางด้านปัญญา ทีนี้พวกที่มาตามหลังก็เลยเอาเรื่องปัญญานี้มาเป็นศาสนาเซนเสียเลย ไม่ได้คำนึงถึงว่าผู้หลุดพ้นมาจากแง่ไหน ๆ ของพุทธศาสนา ความจริงเป็นกิ่งก้านของพุทธศาสนาตอนปลาย คือตอนละเอียดเกี่ยวกับวิปัสสนา แล้วก็เลยเอานี้เป็นศาสนาเลย ใครมาปฏิบัติตามศาสนาเซนต้องใช้ปัญญาๆ แล้วผิดไปเลย อันนี้ผิดเข้าใจเหรอ พิสูจน์ดังที่ว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้นี้ ศีล สมาธิ ปัญญา 
ศีล เป็นเครื่องอบรมจิตใจให้อบอุ่นไม่เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะเหตุที่ว่าตนทำศีลให้ด่างพร้อยหรือขาดทะลุไป จิตก็ไม่เป็นกังวลเพราะจิตของเราบริสุทธิ์ เวลาเข้าสมาธิจิตก็รวมได้ง่าย เพราะมันไม่วอกแวกไปหาสิ่งระแคะระคายที่เจ้าของทำศีลด่างพร้อย 

นี้พิจารณาทางสมาธิ พอจิตเป็นสมาธิจิตมีกำลังเต็มเหนี่ยว เรียกว่า จิตในสมาธินี้เป็นจิตที่พอกับอารมณ์ทั้งหลาย ไม่อยากดู ไม่อยากเห็นไม่อยากได้ยินได้ฟัง ไม่หิวโหยในอารมณ์ต่าง ๆ เพราะจิตเป็นสมาธิมีความสงบตัว ความสงบตัวนี้เป็นอาหารของจิต จิตจึงไม่ไปหาคืบคลานกับอาหารภายนอกซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟเผาตัวเอง ทีนี้เวลาจิตเข้าสู่ความสงบนี้จิตก็มีกำลังไม่หิวโหยกับอารมณ์ 

พาพิจารณาทางด้านปัญญา เอ้า ทำงานนี้ก็ทำ ทำงานนี้ก็ทำตามสั่ง สั่งให้ทำอะไรก็ทำ เพราะจิตไม่เถลไถลไปหาอารมณ์นั้นนี้ เพราะความหิวโหยในอารมณ์ จิตมันอิ่มอารมณ์แล้วไม่ไป สั่งทำงานอะไรก็ทำ ทีนี้ก็ทำเรื่อยเป็นวิปัสสนาไปเรื่อย นี่ สมาธิปริภาวิตา ปญฺญา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญาให้เดินได้อย่างคล่องตัว ปญฺญาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ จิตเมื่อปัญญาได้ซักฟอกแล้วย่อมหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ นั่น ๓ ขั้น ถ้าพูดตามบาลีไปเลยก็ว่า สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส ศีลเป็นเครื่องอบรมสมาธิให้มีความแน่นหนามั่นคงมากขึ้น ๆ สมาธิปริภาวิตา ปญฺญา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา สมาธิเป็นเครื่องอบรมปัญญาให้เดินได้คล่องตัว คือ ทีแรกศีลอบรมสมาธิให้มีความสงบเย็นได้เร็ว สมาธิมีกำลังแล้วหนุนปัญญาให้เดินได้คล่องตัว ทีนี้ปัญญาเป็นเครื่องอบรมจิตให้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ ต่อเนื่องกันไปอย่างนี้ นี่ละท่านสอน สอนพระทุกองค์ เวลาบวชแล้วสอนธรรมข้อนี้ 

หลวงตา     :      เรื่องศาสนาพระพุทธเจ้ามีมาก่อนแล้ว เรื่องผู้ที่บรรลุพวก ขิปปาภิญญา มีแต่พวกปัญญารวดเร็วผ่านออก ๆ จากพุทธศาสนา ผ่านออก ๆ ผู้ที่ไม่รวดเร็วก็หนุนกันไปตั้งแต่ ศีล สมาธิ ไปเรื่อย ๆ ผ่านออก ๆ นี่เรียกว่า ศาสนาที่สมบูรณ์แบบคือพุทธศาสนา มีทั้ง ก.ไก่ ก.กา มีทั้งประถมมีทั้งมัธยมตลอดดอกเตอร์เข้าใจไหม นี่ขึ้นเป็นขั้น ๆ ทีนี้ไปทางโน้นไปหาขั้นดอกเตอร์เลย ผู้ที่ควรแก่ขั้นนั้นมันก็ไปได้ ผู้ไม่ควรแก่นั้น ก.ไก่ ก.กา มันยังไม่ได้มันจะไปเอาดอกเตอร์มาจากไหนเข้าใจไหม นี่ละศาสนาเซนเป็นขั้นดอกเตอร์ของพุทธศาสนา เป็นขั้นที่จะหลุดจะพ้นด้วยปัญญาอยู่แล้ว ก็เท่านั้นละ

(ทีมงานขออนุโมทนาพร้อมระลึกในพระคุณของหลวงตาและพระพุทธศาสนาเช่นกัน) 

<< BACK

 


หน้าแรก