คำถาม 
โดย : สมจิต ถามเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2546

ปรับอุปจารสมาธิให้กลายเป็นวิปัสสนาได้โดยวิธีใด

ปกติเข้าสมาธิได้เกือบทุกวัน  ตอนนี้มาคิดว่าควรทำวิปัสสนาให้ได้ จะเป็นประโยชน์ต่อตนมากกว่า แม้พยายามทำเท่าไรก็เข้าสมาธิไปทุกที ไม่เป็นวิปัสสนาได้ คิดว่าได้เคยเข้าวิปัสสนาไปครั้งหนึ่งโดยบังเอิญ ปรากฏ "ได้ยิน" กับ"เสียง" เป็นคนละอัน ไม่โกรธแม้กำลังถูกด่าทออยู่ บัดนี้ก็ทำไม่ได้อีกเลย ขอความเมตตาหลวงตาช่วยไขข้อที่ควรปรับเปลี่ยนโดยละเอียด จักเป็นพระคุณยิ่ง หากไม่เข้าสมาธิจิตจะฟุ้ง ไม่รวมกำลังจิต จิตปราศจากความมั่นคง จึงใคร่ขอวิธีที่เข้าวิปัสสนาโดยนำสมาธิมาเกื้อกูลด้วยเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณยิ่ง

คำตอบ
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2546

เรียนคุณสมจิต
หลวงตาได้เมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาของคุณให้
เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้ 

โยม             :      คนที่สามครับ  ปกติเข้าสมาธิได้เกือบทุกวัน  ตอนนี้มาคิดว่าควรทำวิปัสสนาให้ได้ จะเป็นประโยชน์ต่อตนมากกว่า แม้พยายามทำเท่าไรก็เข้าสมาธิไปทุกที ไม่เป็นวิปัสสนาได้

หลวงตา     :      มันเป็นยังไง ออกไปพิจารณา เข้าสมาธิเข้ามานานแล้ว ทีนี้ออกจากสมาธิไปพิจารณาร่างกายเกี่ยวกับเรื่องที่ว่านี่ อสุภะอสุภัง เข้าใจเหรอ ให้ออก ไม่อยากออกก็ลากออก นี่มันติด เห็นว่าสมาธิมีความสบายมาก ติดมันไม่อยากออก

โยม           :      เขาบอกว่า ได้เคยทำวิปัสสนาครั้งหนึ่งโดยบังเอิญ ปรากฏว่า ได้ยิน กับ เสียง เป็นคนละอันกัน ไม่โกรธแม้กำลังถูกด่าทออยู่ก็ตาม บัดนี้ทำไม่ได้อีกเลย ขอความกรุณาหลวงตาช่วยไขข้อข้องใจ

หลวงตา     :      อันนั้นคือกิเลสมันแทรกขึ้นมา เรียกว่าต้านทานธรรม เช่นมาด่าทอทุกแบบที่จะให้เราเสียใจ ให้เราโกรธเราแค้น คือให้ฝ่ายธรรมโกรธแค้น กิเลสมันแหย่เข้ามาเข้าใจไหมอย่าไปโกรธแค้นมันเข้าใจเหรอ มันเกิดอยู่ที่ใจขึ้นมากระซิบกระซาบทุกแบบ ทางนี้จะโต้มันก็ได้ไม่โต้ก็เฉยเสียเข้าใจไหม ก็มีเท่านั้น อย่าเอามาเป็นอารมณ์ อะไรด่าไม่ด่าก็ตาม กิเลสมันอยู่ในจิตมาตั้งกัปตั้งกัลป์แล้ว ในชาตินี้ก็ตั้งแต่วันเกิดมันก็เป็นมาอย่างนั้น มันไม่แสดงเฉยๆ ทางนั้นมาแสดง เราตื่นบ้าอะไรกับมัน ให้ว่าอย่างนั้นเข้าใจเหรอ เอาว่าไป

โยม            :      เขาบอกต่อไปว่า หากไม่เข้าสมาธิจิตจะฟุ้ง ไม่รวมกำลังจิต จิตปราศจากความมั่นคง จึงใคร่ขอวิธีที่เข้าวิปัสสนาโดยนำสมาธิมาเกื้อกูลด้วยเจ้าค่ะ กราบขอบพระคุณยิ่ง

หลวงตา     :      ให้เข้าสู่สมาธิให้จิตสงบเสียก่อนซิ 

โยม            :       เขาบอกว่า ขอวิธีวิปัสสนาโดยนำสมาธิมาเกื้อกูล ให้หลวงตาแนะ

หลวงตา     :      สมาธิเวลาสงบก็ไม่ต้องทำงานอะไรเหลือแต่ความรู้เด่น นั่น เรียกสมาธิ ทีนี้เวลาเราจะออกพิจารณาทางด้านปัญญาก็เคลื่อนความรู้นี้ออกใช้ในสิ่งต่างๆ โดยทางปัญญาเข้าใจหรือเปล่าล่ะ พิจารณาคลี่คลายดูสิ่งต่าง ๆ นั้นเรียกว่าปัญญา ก็อย่างนั้นแหละจะให้ว่ายังไงอีก เอ้า ว่าไป 

(ทีมงานขออนุโมทนาในธรรมภาวนาของคุณมา ณ ที่นี้และโปรดอ่านธรรมะของหลวงตาได้ในเว็บไซด์นี้เพื่อความก้าวหน้าในธรรมต่อไปของคุณ)

<< BACK

 


หน้าแรก