|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : หลานหลวงตา ถามเมื่อวันที่
29 ก.ย. 2546 |
การซึอขายพระเครื่องเป็นโทษหรือไม่
กราบเรียนหลวงตาที่เคารพอย่างสูงยิ่ง
ครอบครัวของหลานเคารพเลื่อมในในพระพุทธศาสนาทั้งครอบครัวค่ะ และได้มีโอกาสไปกราบหลวงตาในหลายๆ ครั้งค่ะ ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ และหลาน และพี่ ๆ น้อง ๆ ในระยะหลัง ๆ นี้ เพื่อนคุณพ่อมักจะขายพระเครื่องให้คุณพ่อโดยว่าราคาในอนาคตจะดีมาก หลานได้มีโอกาสทราบว่าคุณพ่อก็มีการซื้อพระเครื่องเข้ามาที่บ้านเป็นระยะ ๆด้วยราคาถือว่าที่สูงพอสมควร สำหรับตัวหลานเอง มีความคิดว่าการซื้อขายพระเครื่องเพื่อหวังผลที่นอกไปจากเพื่อการปกป้องคุ้มครอง หรือผลประโยชน์ทางด้านจิตใจของเจ้าของนั้น เป็นเรื่องที่ให้โทษค่ะ (เช่นการหวังผลกำไรอย่างเป็นรูปธรรม หรือเห็นเป็น"ทรัพย์สิน"ประเภทหนึ่ง บางคนก็เก็บสะสมพระเครื่องไปเรื่อย ๆ) หลานอยากกราบเรียนหลวงตาให้ช่วยให้โอวาทเกี่ยวกับเรื่องการซื้อขายพระเครื่องด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา ว่าการกระทำเช่นนี้จะให้โทษมากน้อยแค่ไหนค่ะ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณหลวงตามากค่ะสำหรับความเมตตาที่สูงยิ่งต่อชาวไทย และลูกศิษย์ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับท่านอย่างหาประมาณไม่ได้ หลานขอให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงและสดชื่นตราบนานเท่านานนะคะ
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2546 |
หลวงตาเมตตาตอบปัญหาของคุณดังนี้ค่ะ หลวงตา โทษไม่โทษก็ตามเถอะ อย่าไปหาขายพระเครื่อง พระเครื่องธรรมดาก็เป็นพระพุทธเจ้า เอาพระพุทธเจ้ามาเป็นสินค้าขายเกลื่อนเวลานี้เต็มไปหมด พวกชาวพุทธขายพ่อตัวเอง พระพุทธเจ้ามีเยอะ แล้วมีหลายรายนะที่มาถวายพระพุทธรูปให้เรา มาถวายแล้วเราก็ เอ้า รับให้แล้วเอาคืนไปกราบเสียไปเท่านั้นละ เราไม่เอา เพียงแค่นี้ก่อนลึกกว่านั้นยังไม่พูด มันไม่สมควรจะรับได้เอาแค่นี้ก่อน เอ้า รับให้แล้วนะเรียบร้อยแล้วหลวงตารับให้แล้ว เอ้า เอาคืนไปกราบนะ ความจริงก็คือเราไม่เอา จะส่งเสริมคนให้เป็นบ้าขายพระพุทธรูป เอาพระพุทธรูปเป็นปลาเน่าไปขายเกลื่อน คนนั้นก็ว่าดิบว่าดี มันก็ดีแหละดีแบบนี้น่ะ ดีแบบเลิศกว่านี้เป็นยังไงมันไม่มีมันไม่รู้เข้าใจไหม จำเป็นอะไรจะต้องเอาพระพุทธเจ้ามาขาย
ทีนี้เวลาทำขึ้นไปเมื่อขายได้มีราคาดีอย่างนี้ มันก็มีกำไรใช่ไหม ก็มีกำลังใจสร้างพระพุทธรูปขึ้นขายเกลื่อน เดินไปตามถนนหนทางให้ระวังนะ เดี๋ยวไปโดนพระพุทธรูปเข้านะ เขามาขายเกลื่อนอยู่นั้น สินค้าใหญ่เข้าใจไหม พวกนี้เป็นอย่างนั้นนะ หากิน อาศัยธรรมนี้เป็นเครื่องหากิน เวลานี้เกลื่อนพระพุทธเจ้าเป็นสินค้าอันใหญ่หลวง ศาสนานี้เป็นสินค้าอันใหญ่หลวง ขายเกลื่อนกันไปหมด อะไรที่จะพอเอาไปขายได้เป็นประโยชน์ว่าอย่างนั้นเลยตามความรู้สึกของเขา เกลื่อนไปหมดด้วยสิ่งเหล่านี้ แต่ที่จะเนรเทศกิเลส ขายกิเลสออกจากใจให้มีความเบาบางภายในตัวเองมีความสุขบ้าง มันไม่สนใจกันนะ พระพุทธเจ้าสอนให้ชำระสิ่งเหล่านี้ที่มันหนัก
แม้ที่สุดไปเอาพระพุทธเจ้ามาขายกินอย่างนี้มันก็ยิ่งไปใหญ่แล้วนะ ถ้าพูดไปมันก็กระเทือน มันมีส่วนได้นิดหนึ่งส่วนเสียมาก นั่น ไม่พูดเสียดีกว่า อย่างที่เขาเอาพระพุทธรูปมาให้เราไม่ทราบว่ากี่ราย เราทำอย่างนี้เรื่อย ๆ ไป มารับให้แล้ว เอ้า เอากลับคืนรับให้เรียบร้อยแล้วนะ คือเราไม่เอา มันจะเป็นการส่งเสริมพวกนี้ บางรายถ้าเราจะแย็บออกบ้างก็ นี่สินค้าใหญ่คือพระพุทธรูปนี่เห็นไหม พากันไปซื้อให้หมดบ้านหมดเมืองนะ เอามาขายเกลื่อน อย่าสนใจกราบพระพุทธเจ้า ให้หาพระพุทธเจ้ามาขายกันกินอย่างนี้ แล้วกราบลมกราบแล้งไปอย่างนั้นนะ ว่าอย่างนี้ละเรา มันไม่รู้ภายใน
จากกัณฑ์เทศน์'เป็นศาสดาด้วยการภาวนา" วันที่ 5 ต.ค. 2546
|
|
|