คำถาม 
โดย : siripen deesuk ถามเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2546

พญานาคมีจริงหรือ

กราบนมัสการหลวงตามหาบัว
      ถามว่า พญานาคมีจริงไหมเจ้าค่ะ  และการทำบุญจะได้บุญหรือไม่

คำตอบ
เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2546


(เขาว่าพญานาคมีจริงหรือไม่) โคตรพ่อโคตรแม่มันไม่เคยเห็น มันมาถามหาอะไร พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ปฏิเสธพญานาคยังไง ก็มีแต่พวกตาบอดเท่านั้นมาหลับตาถาม ทีนี้ เวลาตอบลืมตาตอบมันก็เข้ากันไม่ได้ซิ พระพุทธเจ้าลืมตา มาถามสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างคนตาบอดเขาก็บอกเขาตาบอด คนตาดีทั้งโลกเขาก็ไม่ปฏิเสธ แต่เขาตาบอดเขาก็บอกเขาตาบอด  ก็ยอมให้เขาตามส่วน เราไม่ว่าอะไรแหละ พอพูดถึงเรื่องพญานาค หลวงพ่อผางสำคัญอยู่นะ กับพวกงูพวกพญานาค นี่ละอำนาจวาสนาของคน มีฤทธาศักดานุภาพ ปัจจุบันนี่หลวงพ่อผางขอนแก่น นั่นน่ะท่านบวชทีหลังเรา ตอนท่านไปเราก็อยู่ที่นั่นวัดนามน ที่ท่านศึกษาปรารภกับหลวงปู่มั่น ท่านก็เทศน์อย่างเด็ดทีเดียว นั่นล่ะท่านได้ธรรมะนั่นล่ะมา ใส่เปรี้ยง ๆ ลง ท่านคงเล็งดูแล้ว เหมาะแล้ว ธรรมะจึงไม่มีอ่อนข้อเลย เด็ดตลอดจนจบ ใส่เปรี้ยงๆ  เหมือนคนโกรธแค้นกันมาได้ห้ากัปห้ากัลป์ พอมาก็ปรี่ใส่กันเลยว่างั้นเถอะน่ะ นั่นล่ะผู้ท่านได้อันนั้นมา มาพิจารณาก็ได้คติตั้งแต่นั้นมา เอาจนทะลุไป นี่ล่ะองค์นี้หลวงพ่อผาง แล้วก็เล่าถึงเรื่องของเรา

         ท่านบอกว่าท่านเคยพบกับเราอยู่ที่นั่น นามน เล่าให้พระทั้งหลายฟัง เพราะตอนนี้เราก็มาขั้นครูขั้นอาจารย์แล้ว หลวงพ่อผางก็เป็นครูเป็นอาจารย์ไปแล้ว เลยเล่าเรื่องถึงกันเฉย ๆ ทีนี้เวลาท่านออกมาแล้วนี้ งู จระเข้ เหล่านี้ เหมือนกับท่านเป็นครูเลยเชียว พวกนี้หมอบกลัวหมด จระเข้ตัวหนึ่งมันอยู่ในสระที่วัดนั้น เราเคยไปแล้ววัดนี้ เวลาเขาไปปลูกกุฏิกลางน้ำ เวลาเผลอ ๆ คนกำลังทำกุฏิมันมางับเอาขาละซิ ร้องเอิ้กอ้ากขึ้นเลย พอร้องขึ้นหลวงพ่อผางก็มา พอมันได้ยินเสียงหลวงพ่อผางมันจำได้เลยนะ พอหลวงพ่อผางมานี่ไม่ทราบหนีไปไหนกลัว ถ้าได้ยินเสียงหลวงพ่อผาง หมอบเลย กลัว 

         แล้วทีนี้ไปพักภาวนาอยู่ทางน้ำหนาว นี่ล่ะที่สำคัญนะ มีหลวงพ่อองค์หนึ่งอยู่ทางด้านนู้น เดินจงกรมอยู่กลางวันนะไม่ใช่กลางคืน หลวงพ่อผางเดินจงกรมอยู่ทางนี้ องค์นั้นเดินอยู่ทางนั้น งูใหญ่ ใหญ่เท่ากับต้นมะพร้าว มานี้มายกคอขึ้นอ้าปากใส่หลวงตาองค์นี้ ตัวมันใหญ่กว่านี้ ฟังเสียงร้องว้อ ๆ ขึ้น ตอนนั้นก็เดินจงกรมอยู่ "เป็นอะไรว่ะ"  "งูใหญ่ไม่ทราบมาจากไหน กำลังจะงับผม อ้าปากใส่ผมอยู่นี่" ท่านก็มาแล้ว ก็เห็นจริง ๆ กลางวันนะ หายก็หายในขณะนั้นเลยต่อหน้าต่อตา เป็นยังไงพญานาคมีหรือไม่มีฟังซิ ผู้เห็นท่านเห็นอยู่อย่างงั้น ผู้หลับตามันก็หลับอยู่งั้น พอมาก็เห็น โอ๊ย มันยกคอขึ้น ตัวเท่าต้นมะพร้าว ตัวยาว หลวงตานี้ก็เดินจงกรม ตัวแข็ง มันอ้าปาก มันไม่เข้ามาใกล้แหละ ห่างประมาณสักวาเศษ ๆ มันอ้าปากอยู่อย่างงี้ ตัวใหญ่

         ทีนี้หลวงพ่อผางมา “ไหนมันอยู่ไหน” พอว่าท่านเดินเข้ามาเลยนะ หลวงพ่อผางไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน มันก็อ้าปาก ทางนี้ก็เดินเข้าไป เอามึงจะกินกูเหรอ เอาเลย มึงชอบตรงไหนเอาเลย  เดินบุกเข้าไปหาเลยเชียว มันกำลังอ้าปากอยู่ พรึบเดียวหายเงียบเลย ไม่ทราบหายไปไหน ตัวใหญ่ ๆ หายเดี๋ยวนั้นเลย ไปเงียบ บอกว่าพญานาคมันมาแกล้งเฉย ๆ ภาวนาเมตตามันไม่ดี นั่นเห็นไหมล่ะ ภาวนามันไม่คอยแผ่เมตตา พญานาคก็มาแกล้งเอาบ้าง นี่หลวงพ่อผาง ตัวใหญ่จริง ๆ ท่านบุกเข้าไปเลยนะ ที่มันอยู่นั้น ท่านเดินไปหาเลย ท่านไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลยกินเรา เดินเข้าไปหาตรงนั้น หายวูบไปเลย เงียบเลย ไม่มี หายหมดทั้งตัว มันไปไหนไม่รู้ เวลาออกมาพูดว่ามาแกล้งหลวงพ่อ หลวงพ่อใจดำไม่มีเมตตาจิต มันมาแกล้งเอา 

         อันนี้ก็เข้ากันได้ ก็เรียนหนังสือเหมือนกันไม่ใช่หรือ ที่พวกพาไปภาวนาไม่แผ่เมตตา พวกเทวดาทั้งหลายเกิดความเดือดร้อน มาแสดงอาการทั้งหลายให้เห็น เป็นกะโหลกหัวผีบ้างอะไรบ้าง และทำพระให้ทั้งจามทั้งไอ เป็นไข้เป็นหนาว วิ่งไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่ง เวลาไปไม่สบาย “ไม่สบายซิพวกเธอใจดำ พวกเทพทั้งหลายเขาอยู่ที่นั่น เขาได้รับความลำบากลำบน เขาก็แกล้งเอาบ้าง ไม่มีเมตตาจิต ไป ไปเจริญเมตตาจิต ไปอยู่ที่นั่น” ไล่กลับมาที่เก่า ไปคราวนี้เจริญเมตตาจิตชุ่มเย็นหมดเลย อำนาจเมตตาธรรมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นธรรมชนะโลก สุดยอดอยู่กับเมตตาธรรม ให้พากันจำไว้นะ 

         เมตตาธรรมคือความอ่อนนิ่ม ถ้าพวกเราพูดออกมา และมาเป็นสมมุติอย่างนี้  เรียกว่าความอ่อนนิ่มทุกตัวสัตว์ไม่เป็นภัยต่อผู้ใดเลย เพราะฉะนั้นจึงเข้าได้หมดเมตตาธรรม จะเป็นโหดร้ายมา ทารุณขนาดไหนก็ตาม อำนาจเมตตาธรรมนี้นิ่มไปหมด ลบล้างได้หมดเลย พระเหล่านั้นเลยเจริญสมณธรรมได้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน เยอะนะ อยู่ในนั้น พวกเทพ พวกเทวดา รุกขเทวดาอยู่บนต้นไม้เขาเคารพเขาก็ลงมาอยู่ข้างล่าง ลำบากลำบน เพราะพวกนี้เคยอยู่ต้นไม้ใช่ไหมล่ะ พระก็เป็นพระใจดำน้ำขุ่น อยู่นานไปเห็นท่าจะไม่ได้การณ์เขาก็เลยกลั่นแกล้งเอาบ้าง พระเหล่านี้เป็นหวัด เป็นไอ เป็นอะไรเป็นไข้บ้าง บางทีเป็นกะโหลกหัวผีมาอยู่ทางจงกรมบ้าง อะไรบ้าง เขาแกล้งทำต่าง ๆ พอไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งไล่กลับมาที่เก่าเลย ให้เจริญเมตตาอย่างนั้น ๆ เหตุการณ์ทั้งหลายจะเปลี่ยนไปหมด มาก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

         พูดถึงเรื่องหลวงพ่อผางที่ว่างูใหญ่นั่นก็เห็นประจักษ์อย่างนั้นแล้ว พรึบหายเงียบ ไม่ทราบไปไหน ทั้ง ๆ ที่ท่านเดินบุกเข้าไปหาเลยนะ ไม่มีสะทกสะท้าน เอาเลย ต้องการอันไหนเอาเลย เดินเข้าไปหามันพรึบเดียวหมดเลย ไปไหนไม่รู้ จึงได้มาสอนหลวงพ่อ ที่ถ้ำนั้นอีกเหมือนกันนั่นแหละพระไปอยู่ก็เป็นพระขลัง ๆ ไปอยู่แทนที่จะเจริญเมตตาภาวนาชำระจิตใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า กลับไปทำแต่ของขลัง ทำนั้นทำนี้มีแต่ของขลัง ๆ แบบโลกแบบกิเลสตัณหาไปหมด พวกเทวดาทั้งหลายเขาก็รำคาญ แทนที่จะเป็นศีลเป็นธรรมให้ได้รับความร่มเย็นยิบ ๆ แย็บ ๆ ก็ไม่มี ดีไม่ดีมีพระสองสามองค์ไปก็ไปทะเลาะกัน สร้างความรำคาญให้เขาอีก เขาก็มาดลบันดาลให้พระเหล่านี้หนีจากนั้นเลย

         พระองค์ไหนมาถ้าไม่เป็นศีลเป็นธรรม พวกรุกขเทพเหล่านั้นเขาหาอุบายขับไล่ อยู่ไม่ได้ จนร่ำลือสถานที่นั่น นี่ก็ทางน้ำหนาวเหมือนกัน นี่ก็หลวงพ่อผางไปอยู่ พอมันนานมาจนร่ำลือว่าที่นี่มันแข็งอะไรต่ออะไร ทางภาษาภาคอีสานเขาเรียกมันเข็ดมันขวาง ทางนี้เรียกว่ามันแข็งมันแรง เวลาท่านไปอยู่ที่นั่นเขาก็บอกเลยอยู่ที่นี่อยู่ไม่ได้นะ เป็นอย่างงั้นอย่างงี้ เป็นก็เป็นเถอะ ท่านไม่สนใจแหละ จะพักที่นี่ เวลาพักแล้วท่านไม่ใช่พระขลังแบบนั้นซิ ท่านเป็นอรรถเป็นธรรม ไปอยู่นั้นพวกเทพทั้งหลายเข้ามาหา เขามาเล่าเรื่องถึงพระองค์นั้นให้ฟัง เล่าเรื่องพระที่มาอยู่ที่นี่ให้ฟัง เป็นอย่างงั้นเป็นอย่างนี้ เขาเล่าให้ฟัง

         ตกลงเรียกว่าเทวดาเล่าให้ฟังเสียเอง ประชาชนสู้เทวดาเล่าให้ฟังไม่ได้ ประชาชนว่ามานี่ทะเลาะกันเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้าง แตกกันไป องค์ไหนมาก็มาทะเลาะกัน มาหาแต่ของขลัง ๆ ทำตระกุดบ้าง ทำอะไรทุกอย่างอะไรที่มันขลัง ๆ แล้วก็แตกกันไป มามีหลายพวกแล้วนะพระ อยู่ที่นี่ไม่ได้ เขาว่างั้นประชาชน แต่เวลาเทวดามาพูด เทวดานี่ละทำเอา มาแล้วมาทำตั้งแต่ของอย่างนั้น ของสกปรก เทวดาเขายังรู้ของสกปรก พระทำไมไม่รู้ เขากลั่นแกล้งเอาบ้าง เลยแตกหนี ทีนี้เวลาท่านมาอยู่ที่นั่น ขอนิมนต์ไม่ยอมให้ท่านหนีไปไหน อยู่ที่นั่น ที่นี่มีความชุ่มเย็นไปหมดทุกแห่งทุกหน ท่านก็อยู่นาน อยู่สถานที่นั่น และต่อไปก็ดูเหมือนเป็นวัดขึ้น เราก็ลืม ๆ ตอนนั้น หากทราบตั้งแต่ไปอยู่ทีแรกอยู่ไม่ได้ แต่ท่านไปอยู่ได้จนกระทั่งพวกเทพทั้งหลายเขาอาราธนานิมนต์ท่าน ไม่อยากให้ท่านหนี เขามีความชุ่มเย็นเป็นสุข ทุกสิ่งทุกอย่างราบรื่นดีงามไปหมด ท่านมาพักอยู่ที่นี่ร่มเย็นมาก ว่างั้น ไม่อยากให้ท่านไปไหน ท่านก็รู้สึกว่าพักอยู่นานอยู่นะ ก็เห็นใจเทวดาเหมือนกัน เรื่องพญานาค ฟังรึยัง ตอบกันเดี๋ยวนี้

       จากกัณฑ์เทศน์ "พญานาคมีหรือไม่มี"
     วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2546


<< BACK

 


หน้าแรก