คำถาม 
โดย : zey_high เด็กมหา"ลัย ถามเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2549

ศรัทธาจะออกบวชแต่มารดาไม่อนุญาต

กราบเท้าหลวงตาที่เคารพ
     กระผมเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เรียนสาขาธุรกิจระหว่างประเทศ ปี 1 ตอนนี้อายุได้ 18 จะถึง 19 ปีเดือนหน้า ผมมีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคยได้บวชภาคฤดูร้อนตอนจบมอหกใหม่ๆ และได้เริ่มก้าวเข้าสู้เส้นทางสายวัดป่าปฏิบัติ โดยวัดแรกที่ผมอยู่ปฏิบัติคือ สำนักพุทธเกษตร อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ผมปฏิบัติอยู่ได้แค่สองเดือน เพราะเปิดเรียนพอดี ในตอนนั้นผมได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นั่งสมาธิ เดือนจงกรมไม่ได้ขาด พิจารณา ขน ผม เล็บ ฟัน หนัง ว่าร่างกายของเรานี้มันประกอบด้วยสิ่งปฏิกูล มีแต่สิ่งสกปรก ประชุมกันอยู่   ในตอนนั้นผมคิดอย่างเดียวก็คืออยากจะพ้นทุกข์ ผมติดที่วัดนั้นมาก ไม่อยากสิกขา ออกไป จนแม่ขอร้องให้ศึก  ตอนมาเรียนหนังสือที่มหา"ลัย เพื่อนๆ ได้ตั้งฉายา ให้ว่า มหา เพราะ พึ่งสิกใหม่ๆ ในการเรียนผมก็ไม่ย่อท้อ ถึงแม้ตอนเรียนจะเรียนเป็นภาษาอังกฤษหมดก็ตาม เทอมที่แล้วผมสอบได้เกรด 3.87 ได้สูงกว่าเพื่อนๆในห้องเดียวกัน มีเพื่อนถามผมว่าทำยังไง ถึงได้เรียนเก่งจัง ผมจึงตอบว่า เพราะผมมีสมาธิในการเรียนและจดจ่อกับที่อาจารย์สอน  ซึ่งแต่ก่อนผมเรียนไม่เก่ง จบมอหก ได้แค่ 2 กว่าๆ อันนี้เกิดขึ้นเพราะความมีสมาธิจากการบวชศึกษาปฏิบัติมา ระหว่างเรียนผมไม่ได้ปฏิบัติเลยเพราะไม่ค่อยมีเวลา และเพราะปัจจัยอะไรหลายๆ เช่น เพื่อน เป็นต้น ตอนนี้ผมเริ่มกลับมาปฏิบัติอีกครั้ง โดยเริ่มจากการถือศิล 8 และฟังธรรมะจากเวปไซค์ของหลวงตา ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการปฏิบัติด้วยตนเอง  ถ้าผมมีปัญหาเกี่ยวกับธรรมะ ปฏิบัติอะไร ผมก็จะ ถามผ่านเวปนี้ได้  โดยไม่ต้องมาหาหลวงตาที่วัด  ซึ่งเป็นประโยชน์มากเลยครับ ผมกลัวแต่หลวงตา จะไม่อยู่ให้ถาม ดังนั้นผมจึงรีบเร่งความเพียร  เพื่อหาคำถามมาถามหลวงตาครับ และขอให้หลวงตารอผมก่อนนะครับสักแค่ 4-5 ปีก็ได้นะครับ  ส่วนปัญหาของผมวันนี้ก็มีคือว่า แม่ของผมไม่ให้ผมบวชปฏิบัติตลอดชีวิต เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี  เพราะผมขอแม่ผมหลายต่อหลายครั้งแล้วก็เหมือนเดิม  เพราะผมมีสัทธาในการบวชอย่างเต็มเปี่ยม  ผมเคยบอกแม่ว่า ทรัพย์สิน เป็นของนอกกาย คนทุกคนตายไปก็เอาไม่ได้ แม่ก็ไม่ฟัง  แม่ผมคงจะคิดว่า ถ้าผมเรียนจบแล้ว แม่ก็จะได้สบาย และแม่ก็ลงทุนมาเยอะแล้ว  หลวงตาคิดว่าผมจะทำยังไงดีครับ ใช้ชีวิตทางโลก หรือว่าจะออกบวช ตามพระบรมศาสนา ดีครับ แล้วจะบวชต้องทำไงดีครับ เพราะมารดาไม่อนุญาติ  

คำตอบ
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2549

เรียนคุณผู้ถาม
หลวงตาท่านได้เมตตาตอบคำถามของคุณเพื่อเป็นแนวทางดำเนินชีวิตให้แล้ว เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

ผู้กำกับ       :     คนที่สามครับ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยสารคาม ขึ้นต้นว่า ผมได้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นั่งสมาธิ เดินจงกรมไม่ได้ขาด พิจารณาร่างกายของเรานี้มันประกอบด้วยสิ่งปฏิกูล ผมคิดอย่างเดียวก็คืออยากจะพ้นทุกข์ ผมฟังธรรมะจากเว็บไซต์ของหลวงตา ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการปฏิบัติด้วยตนเอง ถ้าผมมีปัญหาเกี่ยวกับธรรมะปฏิบัติอะไร ผมก็จะถามผ่านเว็บไซต์ของหลวงตานี้ได้ โดยไม่ต้องมาหาหลวงตาที่วัด ซึ่งเป็นประโยชน์มากเลยครับ ผมกลัวแต่หลวงตาจะไม่อยู่ให้ถามอีกแล้ว ดังนั้นผมจึงรีบเร่งความเพียร และขอให้หลวงตารอผมก่อนนะครับ

หลวงตา     :     คำว่าไม่อยู่ให้ถามก็คือหลวงตาจะตายว่างั้นใช่ไหม (ทำนองนั้นละครับ) ดูตั้งแต่หลวงตาจะตาย เจ้าของจะตายก็ให้ดูเจ้าของบ้างซิ เข้าใจไหม ให้เร่งภาวนาเจ้าของก็จะตายเหมือนกัน อย่าไปห่วงแต่หลวงตาให้ห่วงเจ้าของ เข้าใจหรือเปล่าล่ะ (ครับ นี่เขาก็รีบเร่งความเพียร แล้วเขาบอกให้หลวงตารอผมก่อนนะครับ) เอ้อ นี่รออยู่แล้ว มันนอนตายอยู่เหรอมันถึงไม่มา ผู้รอรอจนจะตายอยู่แล้ว ผู้มามันมายังไง มันถึงไม่เห็นกระทั่งป่านนี้ เอ้า ว่าไป

ผู้กำกับ       :     ปัญหาของผมคือ แม่ของผมไม่ให้ผมบวชปฏิบัติตลอดชีวิต เพราะฐานะทางบ้านไม่ค่อยดี ผมขอแม่หลายครั้งแล้วก็เหมือนเดิม เพราะผมมีศรัทธาในการบวชอย่างเต็มเปี่ยม ผมเคยบอกแม่ว่า ทรัพย์สินเป็นของนอกกาย คนทุกคนตายไปก็เอาไม่ได้ แม่ก็ไม่ฟัง ขอเมตตาหลวงตาแนะนำผมจะทำยังไงดีครับ ใช้ชีวิตทางโลก หรือว่าจะออกบวช ตามพระบรมศาสดาเพราะมารดาไม่อนุญาต

หลวงตา     :     เอาแบบพระยสกุลบุตรนะ พระยสกุลบุตรนั้น พ่อกับแม่มีลูกชายคนเดียวเป็นเศรษฐี แล้วพ่อกับแม่เอากองเงินกองทองมาอวดพระยสกุลบุตร ส่วนพระยส กุลบุตรวุ่นวายไม่อยากอยู่ สมบัติเงินทองอะไรไม่มีความหมายๆ เป็นเรื่องวุ่นทั้งหมด ไม่วุ่นก็ที่จะออกบวชออกปฏิบัติตามทางของศาสดาเท่านั้น สุดท้ายพระยสนั่นยังไม่บวชไปเลยทีเดียว ที่นี่วุ่นวาย ที่นี่ขัดข้องไปเรื่อย ไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงเดินจงกรมอยู่ เอ้อ มานี่ยส ที่นี่ไม่ขัดข้อง ที่นี่ไม่วุนวาย ไอ้สองเฒ่ามันจะเป็นจะตายช่างหัวมันเถอะ เอาตัวให้รอด ความหมายก็ว่าอย่างนั้นเข้าใจไหม แล้วพระยสกุลบุตรบรรลุธรรมปึ๋ง อันนี้ก็เอาแบบเดียวกันมาใช้นะ พ่อกับแม่ก็เลี้ยงเรามาแล้ว โตพอสมควรแล้ว ทีนี้ให้เราไปเลี้ยงเรา เข้าใจหรือ ด้วยอรรถด้วยธรรมเท่านั้น พ่อกับแม่ก็เจตนาดีไปทางหนึ่ง ลูกก็เจตนาดีไปทางหนึ่ง ต่างคนต่างดี เข้าใจไหม เอาละเราก็ดีไปทางเรา ก็มีเท่านั้น

พากันจำเอานะ ทุกอย่างที่ออกทางเว็บซ้งเว็บไซต์ที่เขามาถามปัญหานี้ ให้เอาเป็นคติเครื่องสอนตน เรามานี้มาเพื่ออบรมศึกษา จิตมันโง่มาก เอาธรรมสอดเข้าไปมันจะสว่างออกมาจะรู้เหตุรู้ผลดีชั่ว ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องดีงาม เข้าใจหรือเปล่าล่ะ ให้พร
                                                    ________

(คุณสามารถอ่านและรับชมรับฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้เต็มกัณฑ์ได้ที่หน้าเทศน์ประจำวัน http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3796&CatID=2 หรือที่หน้ารวมถาม-ตอบปัญหาธรรม)


<< BACK

 


หน้าแรก