คำถาม 
โดย : ราชาวดี ถามเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2548

พิจารณาทุกขเวทนา

กราบนมัสการหลวงตาที่เคารพอย่างสูง
        ตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนกระทั่งวันออกพรรษา ลูกได้ตั้งสัจจะนั่งสมาธิภาวนา คืนละ 3 ชั่วโมง ไม่ให้ต่ำกว่านี้ ลูกพยายามนั่งโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมระลึกพุทโธ ๆ แต่บางครั้งจิตออกไปคิดเรื่องอื่นๆ เลยเร่งคำบริกรรมพุทโธ เร็วๆแบบหลวงปู่เจี๊ยะ โดยไม่กำหนดลม รู้สึกว่าจิตสงบดีขึ้น ไม่คิดฟุ้งซ่าน ลูกขอกราบเรียนถามดังนี้
1.มีคืนหนึ่งหลังจากนั่งไปนานพอสมควรรู้สึกเย็นเยือกตามลำตัวและขึ้นไปบนศรีษะ ขนลุก จิตนิ่งสบายดีแบบนี้ถือว่าจิตรวมหรือไม่
2.เวลาเกิดทุกขเวทนาปวดขามากๆ ลูกก็พิจารณาแยกเวทนา ไม่ไปยึดว่าเป็นขาของเรา ให้รู้สึกว่าเป็นเวทนาเท่านั้น ทำให้ทนต่อทุกเวทนาได้นานขึ้น เพราะไม่ยึด การพิจารณาเช่นนี้จะเป็นการพิจารณาที่ถูกตามขั้นตอนหรือไม่เพราะจิตยังไม่รวมไปใช้ปัญญาก่อน จะเป็นการใช้สัญญาแทนปัญญาหรือไม่

คำตอบ
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2548

เรียนคุณผู้ถาม
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาให้คุณ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๘ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้

ผู้กำกับ       :     ลูกพยายามนั่งโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมระลึกพุทโธๆ แต่บางครั้งจิตออกไปคิดเรื่องอื่นๆ เลยเร่งคำบริกรรมพุทโธ เร็วๆ แบบหลวงปู่เจี๊ยะ โดยไม่กำหนดลม รู้สึกว่าจิตสงบดีขึ้น ไม่คิดฟุ้งซ่าน ลูกขอกราบเรียนถามดังนี้

1.มีคืนหนึ่งหลังจากนั่งไปนานพอสมควร รู้สึกเย็นเยือกตามลำตัวและขึ้นไปบนศีรษะ ขนลุก จิตนิ่งสบายดี แบบนี้ถือว่าจิตรวมหรือไม่

หลวงตา     :    ไม่ถือละ ให้รู้เอาเอง ไม่ต้องไปตั้งบัญญัติใส่มัน อันนั้นชื่อนั้น อันนี้ชื่อนี้ ให้รู้อยู่กับใจ ใจเป็นนักรู้ ที่พิจารณานั้นถูกต้องแล้ว ถูกต้องตามขั้นของผู้พิจารณา

ผู้กำกับ       :     ข้อ 2.เวลาเกิดทุกขเวทนาปวดขามากๆ ลูกก็พิจารณาแยกเวทนา ไม่ไปยึดว่าเป็นขาของเรา ให้รู้สึกว่าเป็นเวทนาเท่านั้น ทำให้ทนต่อทุกขเวทนาได้นานขึ้น เพราะไม่ยึด การพิจารณาเช่นนี้จะเป็นการพิจารณาที่ถูกตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะจิตยังไม่รวมไปใช้ปัญญาก่อน จะเป็นการใช้สัญญาแทนปัญญาหรือไม่ (จาก ราชาวดี)

หลวงตา     :     ใช่แล้ว ทุกขเวทนาจะสาหัสขนาดไหนก็ตาม จะหนีสติปัญญาไปไม่ได้ เวลามันเกิดขึ้นมากๆ นี้ ถ้าข้อเปรียบเทียบนะ เหมือนตัวของเรานี้เป็นหัวตอ ทุกขเวทนาทั้งหลายเป็นเหมือนกับไฟไหม้หัวตอ ขนาดนั้นละมันเอา ทีนี้สติปัญญาอยู่ภายในมันหมุนติ้วๆ ของมัน แล้วมันลบลงได้หมด หัวตอก็ลบ ไฟไหม้หัวตอก็ลบ สิ่งที่ไม่ลบสว่างจ้าอยู่ภายใน เข้าใจไหม นี่ละผลของการพิจารณา มันทุกข์มากเท่าไรสติปัญญาจะอยู่ไม่ได้ ทนเฉยๆ ใช้ไม่ได้ ต้องทนด้วยการพิจารณาให้มันรู้รอบขอบชิดกับเรื่องทุกขเวทนา อะไรเป็นทุกข์ๆ ไล่เบี้ยมันเข้าไป ถ้าว่ากายเป็นทุกข์หรือว่าหนังเป็นทุกข์ เนื้อเป็นทุกข์อะไร คนตายเผาไฟเขาว่าไง เขาไม่เห็นว่าไง เดี๋ยวนี้มันเป็นกับอะไรเป็นผู้พาให้เป็นทุกข์ๆ ไล่กันเข้าไปๆ พอไปถึงจุดสุดยอดแล้วดับพรึบหมดเลย นี่เคยเป็นมาแล้ว ที่พูดมานี้เราผ่านมาหมดแล้ว พอพูดแย็บรู้ทันทีๆ นี่เราสรุปความย่อๆ นะ ให้พากันพิจารณา ถูกต้องแล้วแหละ เอาพิจารณา เร่งเข้าให้หนัก 
                                                     _________

(คุณสามารถอ่านและรับชมรับฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้เต็มกัณฑ์
ได้ที่http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3648&CatID=0 หรือที่หน้ารวมถาม-ตอบปัญหาธรรม)
 

<< BACK

 


หน้าแรก