คำถาม 
โดย : คนที่ทุกข์ ถามเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2548

การพิจารณาอารมณ์

กราบนมัสการหลวงตา
       ตามที่ผมได้กราบเรียนถาม หลวงตา ในการพิจารณาและคลายความยึดมั่นในอารมณ์    ผมได้พิจารณาอารมณ์ตลอดมา โดยผมได้เร่งการฝึกสติให้มีความต่อเนื่องให้มากขึ้น บางครั้งก็กำหนดพุท โธ  ไม่ให้จิต ออกไปข้างนอก ถ้าไม่ทัน ผมก็กำหนดเหลือคำว่า พุทธ  หรือ โธ คำเดียว ให้เร็วขึ้นเหมือนกับเสียงมอเตอร์ไซต์ที่ออกจากท่อไอเสีย ผลจึงปรากฎว่าสติมีความรวดเร็วขึ้นมาก ซึ่งในปัจจุบัน ถ้าเป็นความคิดที่หยาบๆ เมื่อขยับผมรู้ทันที แต่ที่ละเอียดมากๆ อย่างความจำ หรือจิตที่กระเพื่อมน้อยๆ ผมยังตามไม่ทัน เมื่อเขาเกิดจนสำเร็จแล้วจิตปรุงแต่งออกมาผมจึงรู้  ก็แก้ไข โดยเอาทิ้งลงใน สิ่งเหล่านี้ ไ่ม่ใช่ตัวตน บุคคลเราเขา จิตก็กลับมาที่เิดิม ก็ตั้งหลักวนเวียนอยู่อย่างนี้ วกไปวนมาในขันธ์ ทั้ง 5 แต่ที่ผมสังเกตุได้อย่างหนึ่งว่า เมื่อผมกำหนดพิจารณารูป เมือพิจารณาไปพักหนึ่ง จิตเริ่มจะทนไม่ได้ แล้วความปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวงจะบอกให้เปลี่ยนไปพิจารณาเรื่องอื่นๆ ไปอีก จะเป็นเช่นนี้เรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้ผมก็ลองฝืนการพิจารณาเรื่องเดียวนี้ว่าเมื่อถึงที่สุดแล้วเป็นอย่างไร ถ้าเป็นอารมณ์ที่หยาบ เมื่อพิจารณาสักพักหนึ่งก็สลายตัวไป บางครั้งก็มีความรู้สึกที่ใจไหวนิดๆ บางครังก็ซ่า ก็สลายตัวเหมือนฟองสบู่ก็มีครับ ในภาพรวมของจิตของผมขณะนี้ มีความสงบมากขึ้นกว่าเดิมมาก จิตอ่อนโยนลงกว่าเดิม การท่องเที่ยวของจิตก็ลดน้อยลง ส่วนมากก็เที่ยวอยู่ในกาย หรืออยู่ในอารมณ์ที่เกิดเป็นปัจจุุบัน  ในขณะนี้ผมก็รับรู้ว่าแม้แต่ความสงบของจิตก็ไหลนิ่ง ไหลไม่หยุดเคลื่อนตลอดเวลา   
       ขณะนี้ผมกำลังพิจารณาความยึดถือ ในตัวในตน  ซึ่งผมได้เงื่อนมานิดหนึ่ง ว่าความยึดถือนั้นเป็นเพียงอาการของจิตอย่างหนึ่ง ผมก็เห็นแต่ยังไม่ชัดเจนนัก ส่วนปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมกำหนดจิตถามหลวงตา สักพักก็มีวิธีปฏิบัติเกิดขึ้นรับรู้ในใจ ผมก็ปฏิบัติตามนั้น ถ้าไม่แน่ใจ ผมก็ตรวจสอบจากคำเทศนาของหลวงตาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีผิดพลาดเลย เพราะในจิตของผมนั้น หลวงตาก็นั่งอยู่ตรงหน้าผมตลอดเวลา 
       ผมจึงกราบนมัสการ  กราบเรียน ผลการปฏิบัติธรรมและกราบเรียนถามหลวงตา  ที่ผมปฏิบัติมานี้ ถูกต้องหรือผิดพลาดส่วนใด เพื่อผมจะได้แก้ไขให้ถูกต้องต่อไป 

                                                  กราบนมัสการหลวงตา

คำตอบ
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2548

เรียนคุณผู้ถาม
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบให้คุณ
เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๔๘ ดังนี้

หลวงตา     :      กำหนดกว้างเกินไป เคยกำหนดอะไรให้เอานั้นจ่อลงด้วยสติเสียก่อน จิตจะรวมตัวสงบ จะไม่ไหล ความสงบไหลมีที่ไหน มันฟังไม่ได้แหละความสงบไหล มีแต่จิตไม่สงบมันไหลของมันตลอด ถ้าจิตสงบจะไม่ไหล นี่บอกว่าจิตสงบแล้วยังไหล ออกจากไหลไปก็เป็นบ้าเท่านั้น คนมันหลับมันใหล ไหลไปไหลมาก็เป็นบ้าไปเลย ให้กำหนดจุดเดียวจุดใดจุดหนึ่ง เช่น พุทโธก็เอาเท่านี้เสียก่อน เมื่อจิตสงบแล้วจะไม่ไหล อันนี้มันไม่สงบมันไหลอย่างนั้น จิตสงบจะไม่ไหล ให้กำหนดลงจุดใดจุดหนึ่ง นี่ดูลักษณะจับๆ จดๆ ไม่แน่นอน เรียกว่ารวนเร พูดง่ายๆ ไม่มีหลักมีเกณฑ์การภาวนา จิตจึงไม่สงบ
                                  
จะเอาจุดไหน ตั้งสติลงปั๊บตรงนั้น นั่นละจะเป็นการเป็นงานขึ้นมา ถ้าไม่มีสติอันไหนก็เถอะ โลเลทั้งนั้น อธิบายยากอยู่นะ มันสับสนปนเปกันหมดการพิจารณาก็ดี เลยไม่ทราบว่าจุดไหนๆ ควรจะเป็นหลักเป็นเกณฑ์ยังไงบ้าง มันรวนเรไปหมด จึงบอกให้กำหนดสติลงในคำบริกรรมบทใดก็เอาให้ตั้งตรงนั้น แล้วจิตจะสงบ จิตสงบจะไม่ไหล จิตไม่สงบนั่นละมันไหล เพ้อ ไหล จากนั้นก็เป็นบ้าไปเลย เท่านั้นละ
                                   __________

(คุณสามารถอ่านและรับชมรับฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้เต็มกัณฑ์ได้ที่หน้าเทศน์ประจำวัน และที่URL:
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3521&CatID=2) และที่หน้ารวมถาม-ตอบปัญหาธรรม

<< BACK

 


หน้าแรก