|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : สุชีพ ฉิพิมาย ถามเมื่อวันที่
2 พ.ค. 2548 |
จิตละจากร่างกาย
กราบนมัสการองค์หลวงตาที่เคารพอย่างสูง หลานมีข้อข้องใจอยากถามว่า หลานปฏิบัติโดยกำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมบริกรรม พุทโธ และเดินจงกรมบ้างสลับกันไป หลังจากเดินจงกรมเสร็จแล้วก้เข้านั่งสมาธิต่อเลย จิตใจก็มีความสงบดี หลังจากออกจากสมาธิแล้ว หลานเอนตัวลงนอนเพื่อพักผ่อนพอหลับตากำหนด พุทโธได้ไม่นาน มีความรู้สึกว่าจิตใจของหลานอ่อนเพลียมากและความรู้สึกค่อยๆหายไป กำหนดสติแทบไม่ได้เหมือนหลานหมุนเข้าไปในอีกมิติหนึ่งคล้ายมุดเข้าไปในโพลงที่แคบมากๆสติสัมปชัญญะเกือบจะหมดไปแล้ว แล้วตัวจิตก็ฉุกคิดขึ้นว่า นี่แหละอาการของคนจะตาย หลังจากความคิดนี้เกิดขึ้น หลานก็พูดกับตัวเองว่า ถ้าจะตายจริงๆก็ อยากลองดูว่าจะเป็นยังไง แล้วอีกจิตหนึ่งก็คิดสวนมาทันควันว่าอย่าพึ่งดีกว่าเราทำบุญมากพอแล้วหรือที่จะตาย ถ้าตายไปจิงๆจะไปอยู่ยังไง พอคิดได้ดังนี้ หลานเองก็พยายามฝืนไห้สติกลับมาดังเดิม โดยบริกรรม พุทโธไห้ถี่ขึ้น จนสามารถ ดึงควาวมรู้สึกและสติกลับมาดังเดิม แต่ขณะที่สู้กันอยู่นั้น เหมือนร่างกายถูงดูดดึงอยู่ตลอดเวลาให้เข้าไปในช่องแคบๆอันนั้น สู้กันอยู่พักใหญ่ทีเดียวกว่าจะรั้งสติกับกายที่จะหลุดเข้าไปในช่องแคบๆนั้นออกมาได้หลานอยากกราบเรียนถามว่าเป็นอาการที่จิตกับกายจะแยกออกจากกันหรือป่าวครับ หรือขาดสติไปในขณะนั้น ขอหลวงตาได้ช่วยตอบด้วยครับ ท้ายนี้ขอไห้องค์หลวงปู่ดำรงธาตุขันธ์ไห้อยู่ไปนานๆจนกว่าจะถึงวาระของมันนะครับ
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2548 |
เรียนคุณผู้ถาม หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาให้คุณ เมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี
หลวงตา : ขี้เกียจตอบ มันเป็นกิริยาของการภาวนา แล้วแต่มันจะพลิกแพลงเปลี่ยนแปลง จะตามไปบอกไปสอนทุกแง่ทุกมุมไม่ถูก ให้มันเป็นของมันไป เรียนรู้กันไปๆ กับกิริยาของตนเองที่แสดงออกนั้นแหละเหมาะ อันนี้ยังไม่ใช่วิสัยที่จะถามครูบาอาจารย์ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ตอบให้ มันเป็นอาการของจิต เหมือนนักมวยเขาต่อยกัน ลวดลายเป็นยังไงๆ เขาไม่คำนึงเวลานั้น อันนี้ก็เหมือนกันเวลาเข้าพิจารณามันจะมีอาการแปลกๆ ต่างๆ เราจะเอามาถามครูบาอาจารย์ไม่ถูก มันหากเป็นเครื่องสอนในตัวนั้นแหละ อันนี้ไม่ตอบให้ ผ่านไป ให้พิจารณาตามที่เคยพิจารณา เขาภาวนาพุทโธหรือลมหายใจ (บริกรรมพุทโธครับ) เออ อย่าปล่อยอันนี้ก็แล้วกัน ให้อยู่กับความรู้นะ ใจเป็นนักรู้ เอาพุทโธมาติดปั๊บ ความรู้ก็อยู่กับที่นั่น ตั้งตัวได้ เอาตรงนี้อย่าปล่อยตรงนี้ อาการแสดงเหล่านั้นมันไม่แน่ละ มันจะเปลี่ยนของมันไปเรื่อยๆ พิจารณาเท่าไรยิ่งละเอียดมันยิ่งเปลี่ยนของมันพรรณนาไม่จบ หลักใหญ่อยู่ตรงนี้ __________
(คุณสามารถอ่านและรับฟังรับชมพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้เต็มกัณฑ์ได้ที่ http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3379&CatID=2
|
|
|