ภาวนาพุทโธและกำหนดอสุภะแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ลูกภาวนาพุทโธมาตลอดจิตเป็นสมาธิดีบ้างไม่ดีบ้างและมีธรรมเกิดเป็นระยะๆ จนกระทั่งจิตสงบพอดีๆทำให้อยู่สบายไม่เดือดร้อนกับสิ่งต่างๆมากนักเป็นระยะเวลานานเป็นปีทำให้ลูกเกิดการพิจารณาว่านี่เป็นความว่างหรือ..ขณะพิจารณาความว่างจิตมีสติ สมาธิพอดีๆครั้งแรกถามและตอบเรื่องความว่างโดยการพิจารณาแต่สักครู่เหมือนกับธรรมไหลไปเองพิจารณาเองโดยลูกไม่ได้กำหนดเป็นแต่เพียงรู้เท่านั้นสภาวะอย่างนี้จะเร็วขึ้นเรื่อยๆจนจิตรองบอกว่าพอแล้ว..ธรรมนั้นหยุดกึ้กทีเดียวเวลานั้นลูกรู้สึกเหนื่อยมากเหมือนกับทำงานมาหนักจนหมดแรงจึงเอนตัวลงนอนมีสติตามมาแนบแน่นและมีอาการยิบแย้บจึงสงสัยว่าจิตเราพิจารณาเช่นนี้ทำไมเกิดเหตุนี้ได้จึงมองไปดูปรากฏว่าที่ปลายเท้าเหมือนเป็นพยับแดดแต่มีภาวะรู้ว่าเป็นสิ่งไม่ดีจึงกำหนดอสุภะที่ตัวลูกเองแต่อาการยิบไม่หายจึงกำหนดเป็นกระดูกทั้งเขาทั้งเราก็ไม่หายที่สุดจึงกำหนดเป็นดินทั้งเขาทั้งเราจึงยุติกันไปแล้วเกิดเหมือนฟ้าผ่าลงมาที่ต้นไม้เลยมาลงหลังคาแล้วเลยมาผ่าตัวลูกแฉลบจากหัวไหล่มาที่เอวตอนนั้นลูกว่าตัวเองตายแล้วเพราะมองมาเห็นตัวค่อยๆเลื่อนออกเสียงที่ตัวเลื่อนออกดังมากตัวค่อยๆฉีกออกจากกันแต่มีเหยื่อเหนียวๆสีดำเหมือนใยบัวยึดไว้ช่องท้องภาวะนั้นลูกกำหนดพุทโธอยู่และกำหนดพุทโธมากขึ้นสภาวะนั้นหายไปเป็นความสว่างเหมือนกลางวันจนถึงเช้าซึ่งช่วงนี้จะว่าหลับก็ยังรู้จะว่าตื่นก็เหมือนไม่รู้อะไรเลย นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงเวลานี้การภาวนาของลูกเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้า..กิเลสก็ยังหนาแน่นอยู่...ยังดีว่าจิตใจสงบตัวดีไม่เดือดร้อนวุ่นวายมากพออยู่พอไป...เวลานี้ลูกภาวนาพุทโธและกำหนดอสุภะไปเรื่อยๆ..แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น..กราบเรียนถามพระหลวงตาว่าจะต้องพิจารณาหรือกำหนดอย่างใดอีกเวลานี้ลูกเหมือนนอนรอตายอยู่อย่างนั้นเอง...โมโหตัวเองและเบื่อตัวเองในเวลานี้มาก
|