คำถาม 
โดย : นิด ถามเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2548

การภาวนาทำให้ความเมตตาละเอียดขึ้น

ลูกภาวนาโดยตั้งสติให้มั่นพร้อมคำบริกรรมไม่ให้ขาด ตามคำสอนของหลวงตาค่ะ และคอยสังเกตจิตตลอดมา ว่าได้ส่งผลหลายอย่าง นอกจากความสงบเย็นของจิต ความคิดอ่านรอบคอบมากกว่าเดิม และความเมตตาที่ดูจะละเอียดกว่าเดิม มองเห็นคนเห็นสัตว์ข้างถนน บางทีเดินไปซื้อข้าวมาวางไว้ให้มันกินกัน ซึ่งแต่ก่อนสงสารเฉยๆ แต่เดี๋ยวนี้หาอาหารให้มันกินได้ ถ้าเราสามารถทำได้ขณะนั้นทำเลยค่ะ คือจิตมันมุ่งให้ทาน ไม่มีอะไรให้คิดให้รอเลยค่ะ ลูกแน่ใจว่าเป็นผลของการภาวนา ใจที่ศรัทธาประกอบกัน ลูกขอกราบเรียนถามว่า การภาวนานี้ส่งให้จิตมีเมตตาละเอียดกว่าเดิมใช่หรือไม่เจ้าคะ

บูชาบารมีธรรมของหลวงตาสุดชีวิตเจ้าค่ะ หลวงตามีทุกรสของธรรม ลูกดูทางอินเตอร์เน็ต หลวงตาน้ำตาร่วงเพราะสลดความเลวร้ายของคน บางวันก็เห็นหลวงตาเล่นกับเจ้าปุ๊กกี้ ชมเจ้าหมี ซึ่งเป็นธรรมแฝงให้พวกเราได้น้อมจำและปฏิบัติตาม พวกเราจะไม่ยอมให้หลวงตาคอขาดเด็ดขาดค่ะ ต้องผ่านศิษย์ที่รักศาสนากันไปก่อนนะคะ (จาก สหายปุ๊กกี้)


คำตอบ
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2548

เรียนคุณสหายปุ๊กกี้
หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาให้คุณ
เมื่อวันที่ ๒๓ วันมาฆบูชา กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘  ดังนี้

ผู้กำกับ       :     คนที่ ๓ ครับ  ลูกภาวนาโดยตั้งสติให้มั่นพร้อมคำบริกรรมไม่ให้ขาด ตามคำสอนของหลวงตาค่ะ และคอยสังเกตจิตตลอดมา ว่าได้ส่งผลหลายอย่าง นอกจากความสงบเย็นของจิต ความคิดอ่านรอบคอบมากกว่าเดิม และความเมตตาที่ดูจะละเอียดกว่าเดิม มองเห็นคนเห็นสัตว์ข้างถนน บางทีเดินไปซื้อข้าวมาวางไว้ให้มันกินกัน ซึ่งแต่ก่อนสงสารเฉยๆ แต่เดี๋ยวนี้หาอาหารให้มันกินได้ ถ้าเราสามารถทำได้ขณะนั้นทำเลยค่ะ คือจิตมันมุ่งให้ทาน ไม่มีอะไรให้คิดให้รอเลยค่ะ ลูกแน่ใจว่าเป็นผลของการภาวนา ใจที่ศรัทธาประกอบกัน ลูกขอกราบเรียนถามว่า การภาวนานี้ส่งให้จิตมีเมตตาละเอียดกว่าเดิมใช่หรือไม่เจ้าคะ

หลวงตา     :     ใช่ จิตมีเมตตามากเท่าไรแล้วการขวนขวายหรือการพยายามที่จะนำออกสงเคราะห์โลกนี้มีมากเท่านั้น จนกระทั่งถึงว่าไม่มี แต่ความเมตตามี ไม่มีเครื่องสนองก็หยุดเสียก่อน หมดแล้วเหรอ หมดแล้วให้รอเสียก่อน มีมาอีกเอาอีก เข้าใจไหมล่ะ นั่นละเมตตาธรรม เราทำอยู่กับโลกเวลานี้เราทำอย่างนี้เราพูดจริงๆ จนไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว เพราะอำนาจแห่งความเมตตานี้กวาดตลอดๆ มีมาเท่าไรกวาดออกหมดเพื่อสงเคราะห์โลก ที่จะให้มีในตัวของเรามันไม่มี สำหรับเราเองนี้เราพูดเป็นกรณีพิเศษก็ได้นะ มีในตัวของเราไม่มี เพราะไม่มีอะไรจะรับ พอหมดแล้ว มีแต่ให้โดยถ่ายเดียว ผู้ที่ยังไม่พอก็แบ่งให้เขาบ้าง แบ่งให้ตนบ้าง แบ่งกินบ้าง แบ่งทานบ้าง พูดให้ชัดเจน สำหรับจิตของเราเราพูดจริงๆ อย่างนี้แหละ เราไม่มีเลย มีเท่าไรออกหมดๆ เพราะอิ่มแล้วเต็มที่แล้ว ในโลกสมมุติสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรเข้ามาติดใจ ปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง สิ่งเหล่านี้เป็นสมมุติ ได้มาเท่าไรก็ออกช่วยโลกๆ ไปเท่านั้นเอง

ผู้กำกับ       :     ต่อครับ...บูชาบารมีธรรมของหลวงตาสุดชีวิตเจ้าค่ะ หลวงตามีทุกรสของธรรม ลูกดูทางอินเตอร์เน็ต หลวงตาน้ำตาร่วงเพราะสลดความเลวร้ายของคน บางวันก็เห็นหลวงตาเล่นกับเจ้าปุ๊กกี้ ชมเจ้าหมี ซึ่งเป็นธรรมแฝงให้พวกเราได้น้อมจำและปฏิบัติตาม พวกเราจะไม่ยอมให้หลวงตาคอขาดเด็ดขาดค่ะ ต้องผ่านศิษย์ที่รักศาสนากันไปก่อนนะคะ  (จาก สหายปุ๊กกี้)

หลวงตา     :     ที่น้ำตาร่วงวันนั้นมีอยู่สองประเภท ใครยังไม่เข้าใจให้เข้าใจเสียนะ ทั้งๆ ที่เราตัวเท่าหนูก็เหมือนอย่างลูกสงสารพ่อแม่นั่นแหละ ลูกตัวเท่าหนู พ่อแม่ตัวเท่าช้าง ลูกยังสงสารพ่อแม่ได้ เข้าใจเหรอ อันนี้เราก็สงสารพระพุทธเจ้าที่อุตส่าห์พยายามบำเพ็ญบารมีมา เฉพาะองค์ศาสดาของเรานี้ ๔ อสงไขย แสนมหากัป กว่าจะได้สำเร็จประโยชน์ขึ้นมาเป็นศาสดาของโลก แล้วสั่งสอนสัตว์โลกให้ได้รับความร่มเย็นไปหมดทั้งสามโลก กามโลก รูปโลก อรูปโลก พระพุทธเจ้าแนะนำสั่งสอนด้วยพระเมตตาล้วนๆ ตลอดมาเลย

ทีนี้ก็ย้อนมาถึงตัวของเราเอง ตัวของเราเองที่กำลังน้ำตาร่วงนี้ จิตได้เคลื่อนที่เมื่อไร สว่างจ้าอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มี อกาลิโก คือไม่มีกาลสถานที่เวล่ำเวลา จ้าตลอดเวลา นี่เราได้มาจากไหน นั่นน่ะเข้าใจไหม คือองค์ศาสดานั้นเองประทานพระธรรมประเภทนี้ให้เรา เราจึงสงสารพระพุทธเจ้าที่อุตส่าห์สอนโลก ไม่มีอะไรที่ติดพระทัยเลย ที่จะเป็นเสี้ยนเป็นหนามไม่มี มีแต่พระเมตตาด้วยพระทัยที่บริสุทธิ์ล้วนๆ แล้วก็มาเห็นโลกที่สกปรก ที่นี่ย้อนเข้ามาสงสารพระพุทธเจ้า แล้วก็มาพิจารณาสลดสังเวชกับความเลวร้ายของมนุษย์ที่หยาบโลนที่สุด ที่จะทำลายทั้งองค์ศาสดา ศาสนาของพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งผู้มีศีลมีธรรมทั้งหลาย ให้ล่มจมลงจากศาสนธรรมจากศาสนา ก็เป็นอันว่าจมหมดทั้งเมืองไทย เหลือแต่สัตว์เดรัจฉานอยู่ในสัตว์บุคคลเท่านั้นเอง นี่เราสงสารเราสลดสังเวชผู้ที่ทำความชั่วช้าลามกขนาดนี้ เข้าใจเหรอ

น้ำตาเราร่วงออก ๒ ประเภท ประเภทหนึ่งสงสารพระพุทธเจ้า ประเภทหนึ่งเกิดความสลดสังเวชแก่ผู้ทำความชั่วช้าลามกโดยไม่รู้สึกตัวเลย แล้วก็ย้อนเข้าไปสงสาร เขาทำอย่างนั้นเขาก็เพื่อความสุขความเจริญของเขา แต่นี้มันเป็นไฟเผาเขา ไม่ใช่ความสุขความเจริญ อันนี้ก็สงสารอันหนึ่ง เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นน้ำตาถึงร่วงสองประเภทนี้ นี่ละน้ำตาที่เราร่วงวันนั้น ร่วงสองประเภท ไม่ใช่อยู่ๆ ก็มาร่วงเอาเลยๆ ไม่มี ไม่มีเหตุมีผล อันนี้เหตุผลเต็มตัวที่กระเทือนถึงธาตุถึงขันธ์ ใจอันนั้นไม่มีอะไร ทีนี้ธาตุขันธ์มันเกี่ยวกับสมมุติ มันก็แสดงสมมุติรับกัน
                                                  _______

(คุณสามารถอ่านและรับชมรับฟังพระธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์ได้ที่
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3272&CatID=2)

<< BACK

 


หน้าแรก