|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : เก่ง ถามเมื่อวันที่
5 พ.ย. 2547 |
ปฏิบัติทางไหนดีที่สุด
กราบนมัสการหลวงพ่อ ผมมีเรื่องรบกวนถามในแนวทางการปฏิบัติสมาธิดังนี้ เมื่อตอนเด็กๆสมัยประถมผมฝึกการภาวนาด้วยการท่อง พุทธ-โธ ตามลมหายใจเข้าออก แต่พอโตขึ้นมาก็ลองเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นบ้า งแต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย ไม่เคยเกิดนิมิตร สิ่งใดเลย ปัจจุบันผมสับสนกับวิธีการปฏิบัติมาก ไม่ทราบว่าอย่างไหนถูกต้องกันแน่ วิธีที่1 ผมนั่งท่อง พุทธ-โธ พร้อมกับมองร่างกายภายนอกตั้งแต่ช่วงคอลงไปถึงขา (หลับตาอยู่) นั่งไปเรื่อยๆไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยรู้แต่ร่างกายเท่านั้น ถ้าเป็นวิธีนี้ผมจะรู้สึกว่าจับแต่ร่างกาย แล้วก็ไม่เคยพิจารณาให้เป็นซากศพอะไรเลย เพราะผมไม่ชอบความไม่สวยงามของร่างกายที่เป็นซากศพ ในบางวันก็จะจับอวัยวะบางส่วนไปเลยเช่นมือที่ซ้อนอยู่บนตัก หรือปลายจมูก(แต่ไม่เคยมองเห็นร่างกายเหมือนตาเนื้อเป็นแต่เพียงความรู้สึกเท่านั้น) วิธีที่2 ผมจับความรู้สึกตามลมหายใจพร้อมท่อง พุทธ-โธ เหมือนว่าผมบังคบลมให้มันละเอียดยังไงไม่ทราบบอกไม่ถูก คือมันละเอียดลงจริง แต่เหมือนผมบังคับมัน แล้วพอนานๆมันจะ หดสั้นมากเหมือนเข้าไปแค่ช่วงยอดอกหรือไหปลาร้า ลมหายใจก็สั้น ผมก็เลยทำอะไรไม่ถูก ส่วนวิธีที่สามผมจะใช้คล้ายจินตนาการว่าตัวเองอีกคนหนึ่งนั่งซ้อนอยู่ในกายนี้แล้วมองร่างกายทะลุออกมา เหมือนร่างกายเป็นถ้ำหรือถุงที่ครอบอยู่
ผมกราบนมัสการเรียนถามว่าผมควรฝึกทางใดดีที่สุดหรือว่าทั้งสามวิธีนั้นผิดหมด ถ้าผิดมีวิธีใดที่เหมาะสมครับ และผมอยากทราบว่า การที่ว่ามองภายในคือ ที่ส่วนไหนครับ ผมไม่เข้าใจคำว่า ฐานของพุทธ-โธ นั้นจะว่าอยู่ข้างในก็ไม่ใช่ จะว่าอยู่ข้างนอกก็ไม่ใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วผมควรจะมองที่ไหนดี ที่ร่างกายภายนอก หรือภายใน
กราบนมัสการ
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2547 |
เรียนคุณผู้ถาม หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบให้คุณ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
หลวงตา : เขาบอกเฉยๆ ว่าวิธีที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ความจริงก็เป็นอาการของจิตที่เที่ยวเดินอยู่ตามสรรพางค์ร่างกาย หรือตามวิธีการต่างๆ ที่เขาเล่ามานี้ มันเป็นอาการของจิตเท่านั้น แต่เรียกเป็นวิธีที่หนึ่ง ที่สอง ที่สามไปเฉยๆ เราอย่าเอามากำหนด เอามาเป็นอารมณ์ วิธีที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม เหล่านี้เป็นอาการของจิตอันเดียวกันที่พิจารณาไป แล้วแต่มันจะถนัดทางไหนเวลาใด มันก็ออกของมันไปอย่างนั้น ไม่ผิด แต่วิธีที่หนึ่ง ที่สอง ที่สาม ไม่จำเป็นจะต้องมาพูดแหละ มันวิ่งมันเกี่ยวโยงกันอยู่ __________
คุณสามารถอ่านและรับชมวิดีโอพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ ได้ที่ http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3111&CatID=2
|
|
|