|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : กัลยาณี เรืองไชย ถามเมื่อวันที่
13 ส.ค. 2547 |
บริกรรมพุทโธกับคำว่าหนอ
ปกติหลานใช้ "พุท-โธ" อยู่ประจำในการทำสมาธิ แต่ปรากฏว่าเวลา ยืน เดิน นั่น นอน ท่าปลีกย่อย หลานมักจะคิดฟุ้งซ่าน จำเป็นต้องใช้คำภาวนาลงท้ายว่า "หนอ" เป็นประจำ จึงจะสงบขึ้น ขอกราบนมัสการองค์หลวงตาได้โปรดสงเคราะห์หลานด้วยว่าการปฏิบัติธรรมดังกล่าวถูกหรือผิด หรือควรปรับปรุงประการใดเจ้าคะ
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2547 |
เรียนคุณกัลยาณี หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบปัญหาให้คุณ เมื่อเช้าวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
ผู้กำกับ : คนที่ ๒ ถาม ปรกติหลานใช้พุทโธอยู่ประจำในการทำสมาธิ แต่ปรากฏว่าเวลายืนเดินนั่งนอน หลานมักจะคิดฟุ้งซ่าน จำเป็นต้องใช้คำภาวนาลงท้ายด้วยคำว่า หนอ เป็นประจำจึงจะสงบขึ้น ขอกราบนมัสการองค์หลวงตาได้โปรดสงเคราะห์หลานด้วย ว่าการปฏิบัติธรรมดังกล่าวถูกหรือผิด หรือควรจะปรับปรุงประการใดเจ้าค่ะ
หลวงตา : ถูกต้องแล้วถ้าให้อยู่ในจุดเดียว จะเป็นหนอก็ได้ เป็นพุทธ เป็นธรรม เป็นสงฆ์อะไรก็ได้ เป็นธรรมเหมือนกัน ให้อยู่ในจุดเดียวจิตจะไม่ฟุ้งซ่าน จิตฟุ้งซ่านคือจิตเผลอไม่มีสติ มันปรุงของมันออกเต็มเหนี่ยวๆ นี่กิเลสออกไหลออกตลอด อย่างที่ว่าน้ำตาร่วงนั้นคืออำนาจของสติไม่มี ถูกมันตีเอาแหลกๆ มีแต่กระแสของกิเลสคือความคิดความปรุงออกตลอดเวลา สติระงับไม่ได้ๆ เรียกว่าหงายหมาเข้าใจไหม นี่เวลากระแสของกิเลสมันออกมารุนแรง สติไม่มีความหมาย เพราะฉะนั้นจึงเรียกว่าหงายหมา เข้าใจเหรอ ถ้าสติดีอันนี้ก็จะค่อยระงับลง สติมีขึ้นปิดปึ๊บไม่ให้ออกๆ เข้าใจ? เท่านั้นแหละ ________
คุณสามารถอ่านและรับฟังรับชมพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้ไดที่http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2952&CatID=0
|
|
|