|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : ลูกศิษย์พระป่า ถามเมื่อวันที่
2 ส.ค. 2547 |
ให้พระสายท่านอาจารย์ชาห่มจีวรสีพระราชทาน
เจ้าคณะภาคให้พระในสายหลวงพ่อชา สุภัทโท นุ่งห่มจีวรสีพระราชทานและใช้ผ้ารัดอกด้วย เมื่อเข้าร่วมประชุม หรือทำกิจอื่นๆ ที่จังหวัดกำหนด ได้ปรึกษากับเจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง แต่ได้รับการแนะนำว่าให้อยู่ในดุลยพินิจของพระแต่ละสาขาเอง จึงนมัสการเรียนถาม พ่อแม่ ครู อาจารย์ เพื่อรับคำแนะนำในการปฏิบัติ
|
คำตอบ |
|
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2547 |
เรียนคุณผู้ถาม หลวงตาเมตตาแสดงธรรมตอบให้คุณ เมื่อเช้าวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๔๗ ณ วัดป่าบ้านตาด ดังนี้
ท่านก็แนะนำแล้วให้อยู่ในดุลยพินิจ การพินิจพิจารณา นิสมฺม กรณํ เสยฺโย บอกแล้วใช่ไหมล่ะ ให้พินิจพิจารณา ท่านพูดก็ถูกต้องแล้ว สาขาใดก็เป็นสาขาที่เป็นพระมีศีลมีธรรม ท่านจะต้องปฏิบัติตามหลักของศีลธรรมของท่าน ที่บอกไปว่าให้เป็นดุลยพินิจของแต่ละวัดแต่ละสาขา ก็ดุลยพินิจของท่าน ท่านก็ปฏิบัติอยู่แล้วในทางศีลธรรมก็ไม่ทราบจะว่าอะไร ถามมาหาอะไร ไอ้ผู้ถามนี่มันซอกแซก ปากเปราะไม่เกิดประโยชน์
สำนักอาจารย์ชานี่ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นนี่นะ ตั้งแต่เริ่มนู้น อาจารย์มี โคราช อาจารย์กินรี อาจารย์ทางสามผง สามสี่ห้าอาจารย์นี่เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์มั่น ให้ฟังเสียใครยังไม่เคยฟัง มาศึกษาอบรมกับท่านอาจารย์มั่นเกิดความเชื่อความเลื่อมใส อยากญัตติ ท่านบอกว่าอย่าญัตติเลย เห็นไหมท่านพูดเป็นธรรม คือธรรมดาโลกเขาถือกันเป็นฝักเป็นฝ่าย ถ้าท่านทั้งหลายมีความเคารพเลื่อมใสแล้วมาขอญัตติใหม่เสีย ท่านก็เลยจะเป็นฝ่ายหนึ่งไป แล้วพรรคพวกของท่านมีจำนวนมากเสียด้วยแล้วจะเข้าพวกท่านไม่ติด ให้ศึกษาอบรมเถอะด้วยศีลด้วยธรรม
สมณเพศพระเรานี้ไม่ห้ามมรรคผลนิพพานด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าธรรมยุตมหานิกาย มีชื่อมีนามตั้งไว้ แม้แต่ไก่เขาก็มี สำคัญที่การประพฤติปฏิบัติตัวของเราให้ดี จะเป็นนิกายใดก็ตาม ถ้าพูดถึงทางโลกสังคมเขายอมรับกันไว้แล้ว นี่มรรคผลนิพพานก็เปิดอ้าไว้แล้วสำหรับผู้ปฏิบัติดีโดยไม่นิยมนิกายนั้นนิกายนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ให้ท่านทั้งหลายญัตติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมส่วนใหญ่ ท่านทั้งหลายออกไปแล้วเมื่อไม่ญัตติ พระทั้งหลายที่เป็นคณะ เป็นพรรคพวกของท่านก็จะเข้าท่านติดๆ แล้วศึกษาอรรถธรรมก็จะกว้างขวางออกไป นี่ฟังซิคำพูดหลวงปู่มั่นนะ ท่านพูดเอง เราฟังได้ถนัด
เพราะฉะนั้นท่านอาจารย์เหล่านี้จึงไม่ได้ญัตติ แล้วกระจายออกมา อาจารย์ชานี่ก็เคยเข้าไปวัดหนองผือ ตั้งแต่พ่อแม่ครูจารย์มั่นอยู่วัดหนองผือ อาจารย์ชานี่เข้าไปศึกษาอบรมอยู่ที่วัดหนองผือ ออกมาก็เป็นสายพ่อแม่ครูจารย์มั่นเดียวกัน เป็นลูกศิษย์เดียวกัน เป็นแขนซ้ายแขนขวาในอวัยวะเดียวกันนี่เท่านั้น เข้าใจไหมล่ะ เพราะฉะนั้นท่านเหล่านี้พูดเราคอยฟังเสมอ คอยพินิจพิจารณาเสมอ เราเองไม่เคยรังเกียจผู้หนึ่งผู้ใด นิกายใดนะ ขอให้ปฏิบัติดี เข้ากันได้สนิททันทีๆ นี่ธรรมเป็นอย่างนั้นนะ ไม่ได้แยกได้แยะอะไร
อย่างที่พ่อแม่ครูจารย์มั่นไม่ให้ญัตติถูกต้องแล้ว ตั้งแต่ไก่มันก็มีชื่อ ท่านว่า ไปสนใจกับมันอะไร ขอให้ตั้งใจปฏิบัติ ท่านเหล่านี้จึงได้ตั้งใจปฏิบัติแล้วก็มีลูกศิษย์เป็นกิ่งก้านสาขาออกมา เดี๋ยวนี้เขาเรียกสายท่านอาจารย์ชา ท่านอาจารย์ชาก็เป็นสายของครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้ เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์กินรี เรื่องราวเป็นอย่างนี้ ก็มีเท่านั้น ไปไหนเราไปได้ ลูกศิษย์ท่านอาจารย์ชาอยู่สำนักไหนเราไปได้หมดเลย เราเข้าสนิททันทีๆ เลย เราไม่ถือนิกายนั้นนิกายนี้ ถือสมณะที่เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มรรคผลนิพพานเปิดอ้าอยู่เหมือนกันหมดแล้ว เอ้าว่าไป __________
(คุณสามารถอ่าน และรับชมพระธรรมเทศนากัณฑ์นี้เต็มกัณฑ์ได้ที่ http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=2930&CatID=2)
|
|
|