กระทรวงพระพุทธเจ้า
วันที่ 15 ธันวาคม 2545 เวลา 8:30 น. ความยาว 28.05 นาที
สถานที่ : สวนแสงธรรม
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม

เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ [เช้า]

กระทรวงพระพุทธเจ้า

 

            เวลานี้โลกเขากำลังจ้องมองเรา เป็นยังไงเมืองไทยช่วยตัวเอง มันเป็นท่าเป็นทางอะไรหรือเปล่า นี่เขากำลังจ้องดู เราก็เอาทองคำขึ้นตีหน้าผากเขา ยกทองคำขึ้นเหลืองอร่าม เขาหงายเลยสู้เราไม่ได้

วันนี้เป็นวันว่าง เป็นวันเราทำบุญเสริมชาติของเรา ทั้งเสริมหัวใจของเราด้วยบุญด้วยกุศล ทั้งเสริมชาติของเราให้มีความสง่างามแก่ตาโลกทั้งหลาย วันนี้เป็นวันว่างพอสมควร วันเสาร์-วันอาทิตย์ โลกเขายอมรับว่าเป็นวันว่างทั่วหน้ากัน เราก็ให้มีเวลาบำเพ็ญความดีของเรา อย่าว่างแล้วปล่อยไปทุกอย่าง โกโรโกโสใช้ไม่ได้นะ ว่างอันหนึ่งให้จับอันหนึ่งซิ ให้จับบุญจับกุศล จับวันว่างนี้ให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง วันไม่ว่างก็ทำเพื่อโลก เพื่อครอบครัวของเรา พอว่างอย่างเปิดเผย อย่างวันเสาร์-วันอาทิตย์อย่างงี้ ควรจะให้เป็นบุญเป็นกุศลแก่เราด้วยการบำเพ็ญในวันว่างเช่นนี้

ศาสนาพระพุทธเจ้าเลิศเลอขนาดไหนให้ผ่านหัวใจเราบ้างซิ ให้ธรรมะผ่านหัวใจ มีแต่ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ทั้งผ่านทั้งเหยียบย่ำทำลายหัวใจตลอดเวลา ทั้งเขาทั้งเราทั่วโลกดินแดน ธรรมไม่ได้สัมผัสหัวใจ พอจะเป็นความสง่างามบ้างเลย  หมดคุณค่ามนุษย์เรานะ พากันจำให้ดี วันนี้เป็นวันมงคลของเรา เป็นวันว่างของเรา ให้ทุกท่านส่งเสริมจิตใจและชาติไทยของเราให้มีความสง่างามทั้งชาติ ทั้งจิตใจของคนในชาติ ไม่เช่นนั้นจะปล่อยตัวเลยเถิดๆ ให้พยายามยับยั้งตัวเองบ้าง การระมัดระวังตัวเองในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย ควรระวังทุกคน เพราะเราเป็นผู้รับผิดชอบเราตลอด ให้ตั้งอกตั้งใจ

ผู้จะดีต้องมีความระมัดระวังตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ กีดกันสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่ให้เข้ามาใกล้ชิดติดพันกับเรา แต่ขวนขวายสิ่งที่ดีงามทั้งหลายให้เข้าใกล้ชิดสนิทกับหัวใจของเราทุกคน ๆ ทุกเวลายิ่งดี อย่าปล่อยเลยตามเลย เลยตามเลยนะ เด็กเกิดมาก็เอาความเลยตามเลยจากพ่อแม่ เลยเหลวไหลไปหมด เราไม่มีหลัก ลูกหลานทั้งหลายก็โลเลไปหมด ขอให้พ่อแม่ตั้งรากตั้งฐานใส่หัวใจของเรา ตลอดมารยาทความประพฤติหน้าที่การงานให้เป็นประโยชน์แก่ตน อย่าเป็นความเสียหายแก่ผู้ใดจากงานของเราที่ทำไป เช่นงานโจร งานมาร งานฉก งานลัก ปล้นจี้ งานรีด งานไถ งานกินบ้านกินเมือง

นี้เป็นงานที่เหลวแหลกแหวกแนว มีเท่าไรแหลกทั้งนั้น อย่านำมาใช้ วงราชการก็เหมือนกันให้รู้เนื้อรู้ตัวนะ วงราชการเป็นลูกของประชาชนออกมา อย่ากลับย้อนหลังไปกินตับกินปอดของชาติบ้านเมืองและพ่อแม่ของตัวเอง เป็นคนเนรคุณอย่างมากทีเดียว พากันจำเอาไว้ เมืองเราเป็นเมืองพุทธ ให้พากันระลึกถึงพุทธบ้าง อย่าระลึกถึงแต่เรื่องเปรตเรื่องผีกินบ้านกินเมือง กินโลกกินสงสารเขา ไม่คำนึงถึงความผิดถูกชั่วดีอะไรเลย ใช้ไม่ได้เหลว เลว วันนี้เป็นวันบำเพ็ญกุศลเพื่อชาติไทยของเรา ขอให้ได้มากน้อยทุกคน อย่าให้เสียเวล่ำเวลาที่มา ในหัวใจของเราก็ทราบว่าเป็นวันว่าง เราจะบำเพ็ญกุศล มีมากมีน้อยบำเพ็ญตามกำลังศรัทธาของเรา จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวของเราเอง

ไอ้เรื่องความชั่วมันติดอยู่กับทุกคน มันดึงอยู่ตลอดนะความชั่ว แต่ไม่มีใครมอง ไม่มีใครพูดถึงกัน ทั้ง ๆ ที่ต่างคนต่างพัวพันกันอยู่ ความชั่ว ความเหลวไหลโลเล ไม่มีหลักมีเกณฑ์นั้นแหละ มันทำให้คนเสีย เราก็เสีย ต้องให้มีหลักมีเกณฑ์ ไม่มีไม่ดีเลย เมืองเราเป็นเมืองพุทธ ควรจะยึดหลักของพุทธศาสนาไปเป็นข้อบังคับดัดแปลงตัวเองเพื่อความเป็นคนดีเป็นประจำ ๆ ให้ระลึกเสมอ ผิด ถูก ชั่ว ดี อยู่กับเรา ไม่ได้อยู่กับดินฟ้าอากาศ ให้พากันระมัดระวัง ถ้าผิดก็มาเป็นพิษต่อเรา ถูกก็เป็นคุณต่อตัวของเราเอง เราเป็นผู้รับผิดชอบตัวของเรา ต้องได้ระมัดระวังในสิ่งไม่ดีทั้งหลาย

ผู้ดีทั้งหลายไม่ว่าแต่กาลไหน ๆ มา ล้วนแล้วตั้งแต่ผู้เข้มงวดกวดขันระมัดระวังปรับปรุงตัว บำรุงตัวในทางที่ถูกที่ดีเสมอมา ไม่ใช่สร้างความชั่วช้าลามก เอาความเลิศเลอมาอวดโลก ไม่เคยมีอย่างนั้น อย่าพากันเสาะแสวงหาความชั่วช้าลามก เอามาประดับตัว จะเป็นมูตรเป็นคูถไปหมดทั้งตัว ทั้งครอบครัวเหย้าเรือน ทั้งประเทศไทยเรา ดูไม่ได้นะ ให้พากันระมัดระวัง อะไรไม่ดีรู้ทุกคน เด็กก็รู้ ผู้ใหญ่ก็รู้ ปัดออก ๆ เราปัดความชั่วไม่ดีออกจากตัวของตัวเองไม่ได้แล้ว ก็แสดงว่าเรานี่ชั่วทั้งตัวตลอดเวลา เพราะนอกจากไม่ปัดความชั่วแล้วยังเสาะแสวงหาความชั่วไปอีกนะ ให้พากันระมัดระวังบ้างพี่น้องทั้งหลาย

หลวงตาที่นำพี่น้องทั้งหลายอยู่เวลานี้ วัตถุเป็นอันดับสองนะ อันดับหนึ่ง คือนำหัวใจให้รู้ผิด ถูก ชั่ว ดี บาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน อันนี้เลิศเลอด้วย เลวสุดด้วย อยู่ทั้งสอง ฝ่ายนรก ฝ่ายต่ำคือความชั่วของเราสร้างขึ้นมาเผาตัวเอง นี้เรียกว่าฝ่ายชั่ว ชั่วมาก ชั่วน้อยเดือดร้อนทั้งนั้น ฝ่ายดีคือสร้างตัวให้เป็นคนดี ๆ แล้วดีมากเข้า ๆ ก็เลิศเลอ ดังพระพุทธเจ้าพระสาวกที่เราได้ปฏิญาณตนถึงท่านว่า พุทฺธํ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ นี้คือท่านผู้เลิศด้วยความสำรวมระวังตัว ไม่ใช่เลิศด้วยความปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้พากันระวัง ขอบิณฑบาตทุก ๆ ท่านนะ

เอาธรรมพระพุทธเจ้าฝังไว้ในหัวใจของเรา เราจะเลวหรือไม่เลว ดูกันที่นั่น คนมีธรรมในใจ จะมีหิริโอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อสิ่งไม่ดีทั้งหลาย แล้วกระหยิ่มยิ้มย่องต่อความดีงามทั้งหลาย นี่เรียกว่าคนดี ให้พากันระมัดระวัง วันหนึ่ง ๆ เช่นอย่างวันเสาร์-วันอาทิตย์ วันนี้เป็นวันการกุศลของเราโดยแท้แล้ว เพราะเกี่ยวกับเรื่องช่วยชาติบ้านเมือง ปกติเราก็ต้องเสาะแสวงหาแต่ความดีงามทั้งนั้น นี่ยังมีเหตุอันใหญ่หลวงคืองานของชาติไทยของเรา ที่เราจะต้องช่วยกันทุกคน ๆ มีมากมีน้อยช่วยกัน อย่าเห็นแก่คนนั้นจะทำ คนนี้จะทำ เห็นว่าภาระไม่ใช่เรื่องของเรา ทั้งๆ ที่เราอยู่ในหัวอกแห่งชาติไทยนั่นแหละ อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ให้ถือเป็นภาระของเราทุกคน ๆ

เวลานี้ทองคำเราก็ได้ถึง ๕,๕๕๙ กิโลแล้ว เรียกว่าเข้าคลังหลวงโดยสมบูรณ์แล้ว ดอลลาร์ก็ได้ ๗ ล้าน ๒ แสนกว่า สำหรับเงินสดนั้นก็เคยได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบแล้วว่า ได้แยกออกมาซื้อทองคำ ๙๓๑ ล้าน ซื้อดอลลาร์อีก ๑๐ ล้าน เป็น ๙๔๑ ล้าน นี้เป็นจำนวนเงินสดที่แยกออกมาจากสาธารณประโยชน์ทั่วประเทศไทย เข้าสู่คลังหลวงให้เป็นหลักใหญ่แห่งชาติไทยของเรา นับจำนวนแล้วเงินสด ๙๔๑ ล้าน นอกจากนั้นก็เฉลี่ยทั่วประเทศไทย นี้ละสมบัติของพี่น้องทั้งหลายบริจาคขอให้ตายใจได้เลย ว่าหลวงตานี้ไม่มี ไอ้เรื่องที่จะมีงุบ ๆ งิบ ๆ มัว ๆ หมอง ๆ ภายในจิต จากสมบัติที่พี่น้องทั้งหลายนำมาบริจาคนี้ เราชี้นิ้วเลยว่าไม่มี ว่างั้นเลยนะ

เป็นยังไง บริสุทธิ์ขนาดไหน หลวงตาของพี่น้องทั้งหลาย ที่นำพี่น้องทั้งหลายป้าง ๆ อยู่เวลานี้ เราไม่ได้หวังอะไรสักสตางค์นะ หวังเพื่อจะอุ้มชาติไทยของเราให้ขึ้นสู่ความแน่นหนามั่นคงและร่มเย็นเป็นสุขทั่วหน้ากันเท่านั้น ที่อุตส่าห์พยายาม พอสิ่งเหล่านี้จบเรียบร้อยแล้วตามความมุ่งหมายของเรา เช่น ทองคำขอให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน ดอลลาร์ก็คงจะได้ไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านแล้ว นั้นละเป็นที่ปลงแห่งความมุ่งมั่นทุกสิ่งทุกอย่างต่อประเทศไทยของเราในหลวงตาบัวนี้จะขาดลงไปตรงนั้น พอขาดลงไปเราอยากไปไหนเราก็ไป

หลวงตาบัวไปไหน ท่านทั้งหลายอย่านิมนต์พระมา กุสลา ธมฺมา นะ หลวงตาบัวจะตายไปอย่างสง่างาม ตายอย่างเปิดเผย หรือจะว่าพญาราชสีห์ก็ไม่ผิด พญาราชสีห์ยังมีกิเลส หัวใจหลวงตาบัวไม่มีกิเลส ฟังให้ชัดทุกคนๆ นี่ละผลแห่งการปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าได้ผลเลิศเลอขนาดไหน เป็นโมฆะแล้วเหรอ จึงให้แต่กิเลสเหยียบย่ำทำลาย ความโกรธเหยียบเข้ามา ความโลภ ราคะตัณหาเหยียบเข้ามา จนโงหัวไม่ขึ้นคนเรา มีแต่กิเลสเหยียบย่ำลง แล้วยังไม่เห็นโทษของมันอยู่เหรอ พอจะแก้ไขดัดแปลงหรือลดน้อยลงไปโดยลำดับ เพื่อทุกข์จะได้เบาบางลง ให้สั่งสมคุณงามความดีเป็นน้ำดับไฟ เราจะค่อยชุ่มเย็นเป็นลำดับนะ

วันนี้เปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟังชัด ๆ หัวใจเราไม่มี เรื่องสิ่งที่เป็นภัยทั้งหลายที่เคยเป็นมาทั้งเราและโลกทั้งหลายที่เป็นมาด้วยกัน ได้แก่ไฟของกิเลสเผาหัวใจ นอนก็ไม่หลับ ดีไม่ดีเป็นบ้าเลย อำนาจของกิเลสมันรุนแรงไหม อยู่ที่ไหนก็อยู่ด้วยความครุ่นความคิด บ่มสุมอยู่ภายในหัวอก ด้วยอำนาจแห่งฟืนแห่งไฟที่ตนนั้นแหละดื้อคะนอง ไปหาค้นมาคว้ามาแล้วก็มาเผาตัวเอง นี่หัวใจดวงนี้ไม่มี ฟัง นี่ละอำนาจแห่งธรรมพระพุทธเจ้าชะล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย สิ่งที่เป็นมหาภัย คือกิเลสเป็นมหาภัยอยู่ที่ใจของเรา

ธรรมะเป็นมหาคุณอยู่ที่ใจของเรา นำมาชำระซักฟอก กระจ่างขึ้น ๆ ใสสะอาดขึ้น ความสุขเพิ่มขึ้นๆ กิเลสขาดสะบั้นลงไปแล้ว ความสุข คือบรมสุข ไม่ต้องไปถามใคร พระพุทธเจ้าแสดงไว้แล้วว่า สนฺทิฏฺฐิโก จะเป็นผู้รู้เองเห็นเอง รับในคุณมหัศจรรย์ของตัวเองจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของตนตลอดมา จนถึงขั้นสมบูรณ์ นี่จะได้รับด้วยกันทุกคน นี่ละธรรมเป็นธรรม โลกเป็นโลก คือกิเลสเป็นกิเลส เป็นภัยมาตลอด ธรรมเป็นธรรม เป็นคุณ มหาคุณมาตลอด ขอให้ยึดหลักธรรมเข้ามาเป็นเครื่องป้องกันตัวเอง ความชั่วช้าลามกทั้งหลายจะไม่ได้ไหลเข้ามาเผาเราตลอดเวลา ๆ ดังที่เคยเป็นมา

ขอให้มีธรรมในใจนะพี่น้องทั้งหลาย นี่หลวงตาบัวเอาธรรมมาเป็นเครื่องประกาศให้พี่น้องทั้งหลายว่า จริงขนาดไหน เป็นยังไงเป็นการพูดโอ้อวดหรือที่พูดเวลานี้ นี่คือผลแห่งการปฏิบัติตามศาสนธรรม หรือตามศาสนาของพระพุทธเจ้าของเรา ได้ผลเป็นยังไงบ้าง ได้มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ตั้งแต่ก่อนก็มีประกาศมาอยู่แล้วตั้งแต่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทีแรก ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเดือน ๖ เพ็ญ ปรากฏว่าเทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหมทั้งหลายแน่นโลกธาตุเข้ามากราบไหว้บูชาพระคุณอันล้นโลกของพระพุทธเจ้า นั่นเป็นผลแห่งการปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้า อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยถึงขั้นศาสดาเอก

อันดับที่สองต่อมาก็คือ ประกาศธรรมที่เลิศเลอในพระทัยนั้นออกให้แก่บรรดาสัตว์ทั้งหลาย ท่านผู้มีความสนใจใคร่ที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ สลัดปัดทุกข์ออกจากหัวใจอยู่แล้วก็เสาะแสวงหาธรรม พระพุทธเจ้ามาประกาศธรรมสอนโลก เริ่มต้นมา องค์นั้นสำเร็จโสดา องค์นี้สำเร็จสกิทา องค์นั้นสำเร็จพระอนาคา องค์นี้สำเร็จพระอรหันต์ ส่วนมากอยู่ในป่าล้วน ๆ บำเพ็ญธรรมอยู่ในป่า ไม่ได้มาบำเพ็ญอยู่ในตลาดตเล กระดูกหมู กระดูกวัว เหมือนพวกเราปัจจุบันนี่นะ

ปัจจุบันนี้พระชอบไปเที่ยวรุกขมูล อยู่ในกระดูกหมูกระดูกวัว ตามตลาดตเล กระทรวงนั้นกระทรวงนี้นะ จะตั้งกระทรวงนั้นจะตั้งกระทรวงนี้ขึ้นมา เพื่อจะเอาไฟมาเผาชาติบ้านเมืองและชาติ ศาสนานั้นแหละ พระพุทธเจ้าไม่ได้มีกระทรวงไหน มีกระทรวงหัวอกนี่เท่านั้น ปฏิบัติตามหลักธรรม ได้เป็นศาสดาขึ้นมาจากกระทรวงนี้  งานของกระทรวงนี้ที่ใหญ่โตที่สุด สามารถที่จะรื้อถอนทุกข์ออกจากจิตใจได้โดยสิ้นเชิงก็คือ กระทรวงที่ ๑ ทุกขสัจ  กระทรวงที่ ๒ สมุทัยสัจ กระทรวงที่ ๓ นิโรธสัจ กระทรวงที่ ๔ มรรคสัจ รวมแล้วเป็นอริยสัจ ๔ นี่ที่พระพุทธเจ้าได้พาสาวกทั้งหลาย ท่านขวนขวายท่านอุตส่าห์พยายามมา จนได้เป็น พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ แก่พวกเรา ท่านเป็นมาด้วยวิธีนี้

วิธีการเสาะแสวงหาของพระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลาย หาแต่ที่เหมาะสมซึ่งจะได้อรรถได้ธรรมขึ้นมาครองใจและเป็นประโยชน์แก่โลก โดยท่านไปอยู่สถานที่ในป่าในเขา ดังเวลาบวชแล้ว ท่านประทานพระโอวาทให้พระสงฆ์ตลอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ว่า รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา ตตฺถโว ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย “บรรพชาอุปสมบทแล้ว ให้เธอทั้งหลายได้อุตส่าห์พยายามไปอยู่ตามรุกขมูลร่มไม้ ในป่าในเขา ตามถ้ำ เงื้อมผา ที่เป็นสถานที่สงบสงัด กำจัดกิเลสได้ด้วยความเพียรในป่าในเขาเช่นนี้ และจงพากันทำความอุตส่าห์พยายามอย่างนี้ตลอดชีวิตเถิด” นี่คือพระโอวาทของพระพุทธเจ้าสอนพระสงฆ์มาตลอดทุกวันนี้ ไม่มีเว้นองค์ใดที่ไม่ได้รับพระโอวาทข้อนี้บรรดาพระในพุทธศาสนา

จะมีก็แต่พระแหวกแนวไม่สนใจกับศาสดา แล้วยังถือศาสดาเป็นข้าศึก และเป็นคู่แข่งต่อศาสดา ศาสดาไล่เข้าป่ามันวิ่งเข้าบ้าน วิ่งเข้ากระทรวงนั้นกระทรวงนี้ โดดเข้ากระทรวงนั้น โดดเข้ากระทรวงนี้ เพื่อจะเอาหน้าเอาตา เอาชื่อเอาเสียง เอายศถาบรรดาศักดิ์ขี้หมูขี้หมาที่ศาสดาปัดออกหมดแล้วเข้ามาเทิดทูนในหัวใจ จิตใจต่ำทรามไหม จิตใจประเภทนี้น่ะ จิตใจของพระพุทธเจ้าไม่ได้ยุ่งกวนกับใคร ดำเนินตามหลักธรรมล้วน ๆ พระสงฆ์สาวกก็ดำเนินตามหลักธรรมหลักวินัยให้เคร่งครัด ไม่ยุ่งกับกระทรวงไหน ๆ ไม่มีในคัมภีร์เรายันได้เลย เราก็เรียนมาเหมือนกัน คัมภีร์ไหนเป็นกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ มีที่ไหน

ถ้าว่า คัมภีร์ มันมีอยู่ ๓ พระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก ปิฎก ๆ ปิฏกะ ๆ แปลว่า ภาชนะ เอาฟังนะวันนี้ มหาบัวจะแปล เรียนมาเป็นมหา แปลบ้างซิ ปิฏกะ ๆ เป็นภาษาบาลี มาแยกเป็นภาษาไทยเรียกว่า ปิฎก  “ปิฎก” แปลว่า ภาชนะสำหรับใส่พระวินัย บรรจุไว้นี้ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ปิฎกนี้แปลว่าภาชนะ เหมือนภาชนะนี่ แล้วบรรจุพระวินัย พระสูตร พระปรมัตถ์ นี่ปิฎกของพระพุทธเจ้า กระทรวงของพระพุทธเจ้ามีอยู่ตรงนี้ ให้ดูกระทรวงนี้ให้ดี อย่าไปหาเกาในที่ไม่คัน

พระที่ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายที่สุดในสมัยปัจจุบันนี้ คือเวลานี้ แต่ก่อนประชาชนหรือโลกทั่วๆ ไป เขาไม่มีแบบมีฉบับ เขาก่อเรื่องราวอะไรก็ไม่มีใครค่อยถือสีถือสา อันนี้พระสมัยปัจจุบันนี้เป็นพระที่ชอบก่อเรื่องก่อราว หาผลหาประโยชน์ไม่ได้ อ้างคัมภีร์ไหนก็ไม่มี กระทรวงนั้นกระทรวงนี้มีมาจากคัมภีร์ไหน พิจารณาซิ กระทรวงพระพุทธเจ้าอริยสัจ ๔ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก เอาเรียนตรงนี้ไม่มีความเดือดร้อน พระสงฆ์สาวกเป็นสรณะของโลกด้วยการเรียนและปฏิบัติตามพระปิฎกทั้งสามนี้ ไม่ได้ไปปฏิบัติตามกระทรวงนั้นกระทรวงนี้

กระทรวงพุทธศาสนา กระทรวงนั้นกระทรวงนี้ มันหาพูดโก้ ๆ โอ้อวดตัวเองเฉย ๆ ลม ๆ แล้ง ๆ หาหลักหาเกณฑ์ไม่ได้ นี้ละพวกก่อกวนชาติและศาสนาให้ล่มจม คือพวกนี้ ใครก็ตามเป็นอย่างนี้เรียกว่าพวกนี้ พวกที่เป็นข้าศึกต่อศาสนา ศาสนาพระพุทธเจ้าไม่มีอย่างนี้ เอาหลักเอาเกณฑ์พระพุทธเจ้ามาตั้งซิ เราเรียกว่าพุทธศาสนาคือตรงไหน เหล่านั้นไม่ใช่พุทธศาสนานะ เรื่องราวที่จะมาทำลายศาสนา อย่างน้อยกวนให้โลกหาความสงบไม่ได้ ในวงพระก็ระส่ำระสายเวลานี้ ไม่ทราบจะเชื่อใครต่อใคร หัวโล้นเหมือนกัน ผ้าเหลืองเหมือนกัน ออกท่านั้นท่านี้

ผู้ตั้งใจปฏิบัติดีก็ถูกความกระทบกระเทือนมาบีบบี้สีไฟอยู่เรื่อย ไอ้ผู้ที่หวังร้ายทั้งหลายก็ยิ่งภูมิใจ ๆ ไปหาก่อกวนและไปหาโฆษณาที่นั่นที่นี่ เอาพวกเอาพ้อง เอาเพื่อนเอาฝูงเข้ามา ยกจำนวนมามาก ๆ ยกคะแนนขึ้นมาทับของจริง ของจริงธนบัตรมีใบเดียวเท่านั้น ๑๐๐ บาทเท่านี้ เอาของปลอมเข้ามา ๑๐๐ บาท กี่หมื่นกี่แสนล้านกองเท่าภูเขาเป็นโมฆะทั้งนั้น เพราะเป็นของปลอม ของจริงมีอันเดียวเท่านี้พอแล้ว ธนบัตรใบละ ๑๐๐ บาทพอแล้ว นี่ศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า ธรรมและวินัยนั้นคือของจริงสุดส่วนที่เราทั้งหลายจะได้เทิดทูน

อย่าไปหาเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามาก่อกวนบ้านเมือง โดยยกธนบัตรปลอมขึ้นเป็นของจริง เหยียบธนบัตรของจริง คือพุทธศาสนาที่ถูกต้องแม่นยำ สำหรับผู้ปฏิบัติดีทั้งหลายให้ได้รับความร่มเย็น ให้แหลกเหลวไปหมด ไม่ใช่ทาง อย่าอวดดีอวดเด่น มันจะเหยียบชาติ เหยียบศาสนาของตนเอง พวกหน้าด้านคือพวกนี้เอง ไม่มีธรรมวินัย มันเรียนธรรมวินัยมามากขนาดไหน มันทำไมไม่ดูธรรมวินัย แล้วทำไมดูตั้งแต่ฟืนแต่ไฟ เผาชาติ เผาศาสนา เวลานี้กระเทือนไปหมดแล้วนะ

พระนั่นแหละเป็นผู้ก่อกวน ยกพรรคยกพวกประชุมกันเป็นพวกนั้นพวกนี้เข้าไปหมดนะเวลานี้ มันมีที่ไหนในพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า แล้วมันอุตริเอามาจากไหน มาอวดอยู่เวลานี้ มันเลิศเลอที่ตรงไหน มีแต่พวก อย่างน้อยกาฝาก มากกว่านั้นกัดตับกัดปอดทั้งชาติทั้งศาสนาให้จม ถ้าใครเชื่อตามพวกนี้จมทั้งนั้นแหละ ถ้าผู้เป็นชาวพุทธแล้วให้ดูหลักธรรมหลักวินัยให้ดี ปฏิบัติตามนี้สงบร่มเย็น ไม่มีใครที่ไหนร่มเย็นยิ่งกว่าผู้ปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัย ในบรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายนะ และไม่มีใครที่จะก่อความเดือดร้อนขึ้นแก่ผู้ทำลายธรรมวินัย เช่นอย่างพระเทวทัตเป็นคู่แข่งพระพุทธเจ้า เป็นยังไงเป็นมหามงคลไหม พิจารณาซิ

นี่แหละคู่แข่งพระพุทธเจ้า นี้จะเหยียบหัวพระพุทธเจ้า หลักธรรมหลักวินัยเป็นศาสดาแทนพระพุทธเจ้าก็จะถูกเหยียบย่ำทำลาย จะเอาของปลอมขึ้นมาเหยียบ เอาชื่อเอาเสียง เอายศ เอาลาภเข้ามา เพื่อพระนี้จะได้ไปทำการทำงานในกระทรวงเขามีหน้ามีตา พระหัวโล้นๆ ไปทำหน้าที่การงานในกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ โถ พระพวกนี้มีอำนาจวาสนามากนะ แต่ศีลธรรมมันไม่เคยสนใจเลย มันสนใจตั้งแต่ขี้หมูราขี้หมาแห้ง ที่ไหนไม่คันมันหาเกา ที่ควรจะเกาคือที่คันๆ มันไม่ยอมเกา พวกหมาขี้เรื้อนเขาเกาที่คันนะ ไอ้พระขี้เรื้อนมันทำไมเกาดะ เห็นไหมดูเอาซิ พระขี้เรื้อนกับหมาขี้เรื้อนต่างกันนะ หมาขี้เรื้อนจะเกาสถานที่มันคัน ไอ้พระขี้เรื้อนนี้เกาดะ ที่ไหนจะให้ได้อย่างใจตัวเองเกามันดะไปเลย

ไม่ได้ดูบ้างเหรอ ศาสนายังมีอยู่เวลานี้ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบกับหลักธรรมหลักวินัยมีอยู่ และเอาความเลิศเลอมาจากไหนป่า ๆ เถื่อน ๆ มาเสกสรรปั้นยอว่าดิบว่าดี ว่าเลิศว่าเลอด้วยอำนาจบาตรหลวงป่า ๆ เถื่อน ๆ พูดแล้วมันน่าสลดสังเวชมากนะ พี่น้องทั้งหลายฟังทุกคน ธรรมที่พูดเหล่านี้ผิดไปเอาหลวงตาบัวไปติดคุกติดตะราง หลวงตาบัวเข้าทันที ไม่ต้องหาพยานอย่างนั้นอย่างนี้ละ เราจะเข้าทันที ถ้าพูดเหล่านี้ผิดไปนะ นี่พูดนี้เอาขึ้นได้เลย ออกทางไหนได้เลย เราจะเอาของจริงล้วน ๆ มาพูด เราไม่เอาคำเสกสรรปั้นยอหลอกลวงต้มตุ๋นและโจมตีคนนั้นคนนี้มาพูดละนะ นั่นของปลอม มันเอามาพูดอย่างนั้น เข้าสนามจริง ๆ มันไม่ยอม มันไม่เข้า มันหาอ้อม ๆ อย่างงั้น ธรรมของจริงนี้ขึ้นได้หมด พากันจำเอานะ

เวลานี้พวกพระของเรากำลังก่อกวนมากทีเดียวเต็มบ้านเต็มเมือง สุดท้ายทางวงรัฐบาลก็จะร้อนไปตามๆ กันหมด ผู้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์แห่งการปกครองของบ้านเมือง ก็อุตส่าห์พยายามเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไอ้ผู้ทำลายก็คอยจะทำลาย ทางศาสนาผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เฉพาะอย่างยิ่งท่านอยู่ตามป่าตามเขาที่ตั้งใจปฏิบัติดี ก็ถูกฟืนถูกไฟเผาลามป่าไป กระทบกระเทือนถึงท่าน จนท่านได้รับความลำบากลำบน นี้คือพวกก่อกวน พวกทำลายทั้งชาติทั้งศาสนา จำให้ดีทุกคนนะ

อย่าให้เป็น พวกเราอย่าก่อกวนเราเองนะ ก่อกวนเราให้ได้รับความทุกข์ความลำบาก เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลง และกวนบ้านกวนเมือง กวนนั้นกวนนี้ กวนกันไปเองในเพศฆราวาส เพศของพระก็กวนทั้งพระเอง กวนทั้งฆราวาส กวนชาติบ้านเมืองแหลกเหลวไปหมด ใช้ไม่ได้นะ พากันจำเอา วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน มันลืมแล้ว ไม่ทราบว่าขึ้นต้นยังไง ลงตรงไหนเราก็จำไม่ได้ ระลึกได้วันหลังเราจะมาพูดใหม่ มันขึ้นต้นแต่วันนั้นพึ่งจับได้เงื่อนได้ พึ่งจะขึ้นต่อวันนี้ จะว่างั้นนะ วันนี้จำไม่ได้ ไม่ขึ้นละหยุดเสียก่อน เอาละพอ

พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวจนท้อพระทัยมองดูสัตว์โลก เราตัวเท่าหนูมันก็เป็น พูดจริง ๆ อย่างนี้นะ ก็เคยพูดให้ฟังแล้ว มันเป็นขึ้นมาทีแรกท้อใจ จะสอนไปยังไง ธรรมชาตินี้ใครจะไปรู้ได้เห็นได้ สุดท้ายก็ว่าเราเป็นเทวดามาจากไหนเราถึงรู้ได้ มันก็ติดตรงนี้ อ๋อ ยอมรับ เพราะฉะนั้นจึงได้สอนโลก มิหนำซ้ำยังได้แบกทั่วประเทศไทยอีก เราถึงขนาดนั้นนะ ความเมตตา พูดจริงๆ  เพราะฉะนั้นการพูดนี้เราจึงไม่สนใจว่า ใครจะมาคัดค้านต้านทานโจมตีอะไร เราไม่เคยสนใจ ธรรมที่เป็นความถูกต้องดีงามมหามงคลนี้เหนือหมดแล้ว เกินกว่าสิ่งเหล่านี้จะมาเห่าว้อ ๆ มันเห่าฟ้า ถังขยะเห่าฟ้า เข้าใจไหม จวนจะตายแล้ว ให้ได้เห็นเสียบ้างซิ ศาสนาพระพุทธเจ้าเลิศขนาดไหน ให้เห็นกันบ้าง มันเห็นในหัวใจ มันจ้าไปหมดเลย จะว่าไง ยอมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เลย ไม่เห็นก็ลงในนี้หมดเลยเชียว นั่น มันถึงกันหมดเลย

 

อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.luangta.com

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก