เทศน์อบรมพระก่อนปาฏิโมกข์ ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๑
พระนิสัยอย่างนี้จะหาความสะดวกสบายจากหมู่เพื่อนไม่ได้นะ นิสัยแบบนี้ไปไหนก็ต้องเป็น อวดดิบอวดดีอวดเก่ง สุดท้ายก็โหดร้ายทารุณยิ่งกว่าเปรตกว่าผีกว่ายักษ์ไป ทุเรศจริง ๆ นะเรา เลยไม่อยากจะพูดจะแนะนำสั่งสอนใคร ๆ อีกแล้วไม่เกิดประโยชน์ ไม่มีคุณค่าอะไร สู้กิเลสออกมาเพ่นพ่าน ๆ เหยียบหัวพระหัวเณรนี้ไม่ได้ ของพระผู้โหดร้าย มีในวัดนี่ เราบอกแล้วนี่นะ อยู่ทำไมมันหนัก ยังอวดยังหยิ่งเจ้าของอยู่หรือว่าไม่มีอะไรผิดน่ะ จะให้วัดแตกหรือถึงจะว่าผิด หรือยังไม่รู้อีกว่าวัดแตก ว่าเรามีอำนาจมากถึงขนาดวัดแตกได้ทีเดียว ไปอย่างนั้นอีก มันไม่ลงง่าย ๆ นะมนุษย์มีกิเลส
เราเทศน์สอนหมู่เพื่อนมาพอแล้ว แล้วก็มาเห็นต่อหน้าต่อตา พูดแล้วสลดสังเวชจริง ๆ นะ มันคล้ายกับถ้าเราจะเทียบลักษณะมันนะ ไม่ได้เทียบสูงต่ำอะไร เทียบลักษณะมัน ก็เหมือนพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่สงฆ์หมดทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรเหลือ แล้วก็มากัดกันต่อพระพักตร์ พระองค์จึงได้เสด็จไปอยู่วัดป่าเลไลยก์ อันนี้ก็มีลักษณะคล้ายกัน ลักษณะเดียวกันผิดอะไร เราทุเรศจริง ๆ นะเลยไม่อยากพูด ไม่อยากอะไรทั้งหมด การแสดงอรรถแสดงธรรมเพื่อหมู่เพื่อคณะ แสดงมาเต็มภูมิเต็มความสามารถ ความเมตตาสงสารหมู่เพื่อน มีเท่าไรทุ่มลง ๆ ผลแสดงออกมาเป็นผีเป็นยักษ์ออกมา แล้วมากัดกันต่อหน้าต่อตาให้เห็น แหม..มันทุเรศจริง ๆ
จึงบอกว่าไม่ควรอยู่ ให้ไป ยังฝืนอยู่ทำไมหนักหมู่หนักเพื่อน แม้แต่เด็กมันก็รู้ไอ้ของหยาบ ๆ อย่างนี้ เราไม่คิดไม่คาดว่าผู้ปฏิบัติจะมาแสดงอาการอย่างนั้น เอากิเลสซึ่งก็เหมือนกองขี้มาตีตลาดแห่งอรรถแห่งธรรม ซึ่งเป็นของเลิศประเสริฐทั้งหลายต่อหน้าต่อตา พูดว่าต่อหน้าต่อตาพระพุทธเจ้าผิดอะไร ศาสนาคือพระพุทธเจ้านี่เอง