|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คนอย่างนี้ก็มี ดูเอา |
|
วันที่ 5 มกราคม 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
| |
ค้นหา :
คนอย่างนี้ก็มี ดูเอา
วัดป่าภูสังโฆ ทองคำ ๑ กิโล ๔ บาท ๙๘ สตางค์ ดอลลาร์ ๑๑๓ ดอลล์ เงินไทย ๓ หมื่นบาท กรุณาพี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันว่า ผลแห่งการที่เราช่วยชาติคราวนี้ รู้สึกว่าเด่นผิดปรกติอยู่นะ ที่เราจะได้ทราบชัดเจนก็คือ ผู้ว่าการธนาคารชาติมาเยี่ยมที่สวนแสงธรรม มาชี้แจงอะไร ๆ เรื่องการเงินการทองที่พี่น้องทั้งหลายได้รวมเข้าไปสู่คลังหลวงคราวนี้นั้น รู้สึกว่าเป็นเครื่องหนุนได้เป็นอย่างดี แล้วเด่นเสียด้วยจนผิดหูผิดตา เช่น เราติดหนี้เขาจนถึงขนาดที่ว่าเมืองไทยเราจะจม ๆ ในปี ๔๐ เป็นปีที่ร้อนมากที่สุดสำหรับเมืองไทยเรา ร้อนเข้าไปถึงศาสนา ร้อนเข้ามาหาหลวงตาถึงขนาดร้องโก้กเลย หลวงตาบวชมาก็ไม่เคยร้องโก้กแบบสะเทือนมากทั่วประเทศไทยนี้ มาคราวนี้ถึงกับร้องโก้กเชียว
สิ่งที่จะร้องก็คือ ๑) เราติดหนี้เขาเวลานี้ เรียกว่าเราอยู่ใต้อุ้งเล็บเขา เขาจะกำเราเมื่อไรก็ได้ จ่ออยู่ฝั่งทะเลหลวงที่จะจม ปี ๔๐ ติดหนี้เขาจนกระทั่งเขากำเมื่อไรหมดเลย จนถึงขนาดได้พูดว่า นี่สงครามเศรษฐกิจ ให้ดูเอานะเวลานี้ ครอบเมืองไทยเรา พี่น้องชาวไทยเราเป็นยังไง อยู่ใต้อุ้งเล็บเขายังนอนหลักครอก ๆ แครก ๆ อยู่เหรอ นี้อันหนึ่ง อันดับที่สอง ดอลลาร์เขาดอลล์เดียวฟาดเงินไทยเราไป ๕๖ บาท นี้อันหนึ่ง แล้วคนไทยเราคิดเฉลี่ยติดหนี้เขา ๖๒ ล้านคนนี้ติดหนี้เขาคนละ ๕ หมื่นบาท ๆ ฟังซิ ให้ลูกศิษย์ไปค้นเอาต้นมูลต้นเหตุมาจากข้างในโน้น ให้เราดูเรื่องราวมันก่อนที่เราจะขึ้นเวทีช่วยพี่น้องทั้งหลายนะ ไปค้นคว้าเอามา อะไรที่เป็นความจำเป็นมากที่สุด ที่ล่อแหลมต่อความล่มจมของชาติไทยเรา มีอะไร ๆ บ้าง ให้ไปสืบไปเสาะเอามาจากวงใหญ่ภายใน
ก็ได้ความว่าติดหนี้ไอเอ็มเอฟ โห ติดหนี้พวกนี้ไม่ใช่ของเล่น เรียกว่าหนูตัวหนึ่งอยู่ใต้อุ้งเล็บของเสือโคร่งใช่เล่นเมื่อไร ร้องโก้กเลยเทียวเรา ก็มองหน้ามองหลังจะทำไง เวลานั้นกำลังโรคท้องนะกำลังรุนแรง แล้วมันก็จวนระยะเดียวกันเสียด้วย ก็เหมือนว่ายาเทวดา เราไม่อยากว่ายาธรรมดานะ อยากว่ายาเทวดา ยาวาสนาของชาติไทยเราช่วยหนุน อยู่ ๆ ก็หมอ เดี๋ยวนี้ก็ยังอยู่นี่ หมอนี้ก็เป็นคู่กรรมคู่เวรหรือว่าคู่บารมี หรือคู่อะไรก็ไม่ทราบแหละ หมอนี้ละที่เอาหลวงตาขึ้นได้ มาใส่ยานี้ จนกระทั่งเราทอดธุระแล้วจะไปแล้ว พอดีลูกศิษย์ทางอุดรนี้เขาไปรักษาหมอนี้มา เป็นโรคชนิดเดียวกันเลย ไม่ผิดกันแม้กระเบียดเดียวนะ เขามาเล่าเรื่องราวโรคภัยของเขาให้ฟัง แต่เขาไม่ได้เป็นมากเหมือนเรา เรานี้เป็นมากเป็นมานานด้วย มาเล่าให้ฟัง เข้ากันได้ทุกกระเบียดเลย เลยปลงใจลง เอ้า ถ้าอย่างนั้นรักษา ถ้าหากว่าไม่หายเป็นอันว่าปัดหมดเรื่องหยูกเรื่องยาอย่ามายุ่ง บอกอย่างนั้นเลย
หมอนี้รักษา พอใส่ยาเข้าไปนี้ผึง ๆ ขึ้นเลยทันที มันอัศจรรย์ตอนนี้ จนกระทั่งเราเองผู้ป่วยนี้งงเลย โรคอันนี้มันโรคมหาโจรมหาภัยอย่างร้ายแรงมากที่สุด แล้วจะมาหายเอาเฉย ๆ อย่างนี้ไม่น่าจะเชื่อ ว่าอย่างนั้นนะ ทำไมหายวูบ ๆ ธรรมดามันจะต้องต่อสู้เต็มเหนี่ยว นี้หายวันหายคืน เอาหมอมาถาม มันจะหายจริง ๆ หรือหมอ ทำไมมันหายลงวูบ ๆ อย่างนี้ หาย เพราะเหตุไรเอาว่ามา โรคชนิดนี้ผมรักษามาเป็นร้อย ๆ คน หายแล้วเป็นร้อย ๆ คนว่างั้น โรคเรานี้มันเป็นโรคเทวทัตมาจากไหน มันก็เลยสยบลง แต่ยังไม่ถอย มีแต่สังเกตตลอด แล้วก็ดีดผึง ๆ ขึ้นเลย
พอมีทางจะหาย เชื่อแน่ในหมอด้วย แล้วยากับโรคของเรานี้มันรับกันอย่างวูบ ๆ เลยเทียว เราก็โดดขึ้นเวที บรรดาพี่น้องทั้งหลายจึงได้เห็นเวลาหลวงตาขึ้นเวที ผอมโซจนมองเห็นแต่กระดูก หนังห่อกระดูกยังขึ้นเวที นั่นละพอเริ่มหายก็ขึ้น เพราะมันร้องโก้ก ๆ อยู่แล้ว มองหน้ามองหลังหาที่ยึดที่เกาะที่จะช่วยเมืองไทยเราจะช่วยได้ยังไง อยู่ ๆ ยาเทวดาก็มา พอพร้อมแล้วก็ขึ้นทันที เพราะฉะนั้นไปที่ไหน ออกทางทีวีที่ไหนผอม ผู้ใดมาดู โอ๊ย ไม่เหมือนเก่า เดี๋ยวนี้อ้วนขึ้น แต่ก่อนผอมโซ ก็ผอมโซซิ คนจะตายก็เป็นอย่างนั้น
นี่ละมันถึงใจจริง ๆ นะเรื่องยาหมอนี่ แหม ไม่ลืมเลย มันดีดขึ้นยังไงก็ไม่ทราบ จนเจ้าของเองไม่เชื่อเลย มันก็ดีดผึง ๆ ขึ้นเลย หายเลยนะ เวลานี้หายมาได้ ๒ ปีแล้ว เพราะฉะนั้นการขบการฉันจนถึงกับจะได้หามออกจากศาลา จะไม่มีที่นั่ง..คน ฉันจังหันไม่ถอย เมื่อเช้านี้ก็ฟาดเสียเกือบหมดบาตรของเล่นเมื่อไร นี่เรียกว่าหายเป็นปรกติ นี่ละที่ได้ออกช่วยพี่น้องชาวไทยเรา เพราะความกระเทือนใจมาก โรคบีบเข้า ๆ รวมความกระเทือนเกี่ยวกับเราอยู่ในอุ้งเล็บของเขา สำคัญมากตรงนี้ ถึงขนาดเราร้องโก้ก ๆ ทีเดียวไม่ใช่ธรรมดา ร้องจริง ๆ โถ ขนาดนี้จะอยู่ได้เหรอเมืองไทยเรา ทำยังไง ๆ พอดีเทวดาช่วย ขึ้นมาจึงได้ช่วยโลกตามกำลังความสามารถ พร้อมด้วยพี่น้องชาวไทยเรารักชาติ และความสามัคคี ความเสียสละ
จตุปัจจัยที่ได้มานี้ก็ไปติดไปพันกันอยู่ที่ อันนั้นก็ฟัดกันอยู่ตรงนั้น พอเข้าได้ ทีนี้เห็นชัดเจนนะ พออันนี้เข้าผึงเท่านั้น เรื่องที่ว่าเราติดหนี้ติดสินเขาพะรุงพะรัง เวลานี้พอใจแล้ว ผู้ว่าการธนาคารชาติมาเล่าให้ฟังอย่างเปิดเผยชัดเจน พี่น้องทั้งหลายได้ยินทั่วถึงกันเลยว่า เงินที่เขาจะบีบเราอยู่นั้น เวลานี้ในปีนี้เราท่วมแล้วเราเหนือแล้ว แล้วปีหน้าเรายังเอาเงินจำนวนที่เหลืออยู่นี้ใช้ได้อีกเป็น ๒ ปีไปเลยว่างั้น เห็นไหมล่ะ พอพวกเราพร้อมกันเข้าแล้ว พอเงินในคลังหลวงเข้า ทองคำเข้า ดอลลาร์เข้าแล้ว ทางไหน ๆ ก็ช่วยกันโดยลำดับลำดา เพราะความรักชาติ ความสามัคคี พี่น้องชาวไทยเราเห็นได้อย่างชัดเจน
ทั้ง ๆ ที่จะจมอยู่แล้ว เวลานี้ธนาคารบอกว่าพอใจภูมิใจว่างั้นเลย ไม่วิตกวิจารณ์อะไรแล้วเวลานี้ ถึงขนาดนั้นละผู้ว่าการธนาคารชาติ เพราะเป็นผู้กุมอำนาจกุมบังเหียนในเงินหมดทั่วประเทศเข้าสู่คลังหลวง ผู้ว่าการธนาคารเป็นผู้รับผิดชอบในหน้าที่นี้แต่ผู้เดียวที่เป็นผู้ใหญ่นะ มาเปิดเผยให้ฟังอย่างชัดเจนว่า เวลานี้อบอุ่นแล้ว การติดหนี้ติดสินไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เงินใช้หนี้ปีนี้ก็ท่วมไปแล้ว จะใช้ปีหน้าอีกก็ยังได้ แต่ไม่ใช้ เราจะให้ไปตามสัญญาว่างั้น เรียกว่าอบอุ่น
ทีนี้ดอลลาร์ไหลเข้ามา ๆ ถึงขนาดที่ว่าได้ลดดอกเบี้ยลงว่างั้น ถ้าไม่อย่างนั้นมันจะไหลเข้ามามาก ทีนี้ไหลเข้ามาทางหนึ่งมันก็จะมีเสียทางหนึ่ง ทางนี้จึงลดดอกเบี้ยรับกันหนึ่งสลึงให้พอดีกัน นี่ผู้ว่าการธนาคารชาติพูด มันมายังไงก็ไม่ทราบว่างั้น มาแปลกผิดปรกติ เขาก็พูดตรง ๆ เลย นี่ก็ธนาคารชาติมาพูดให้ฟัง ว่านักวิชาการทั้งหลายคาดไม่ถึงมันไหลเข้ามานี่ ก็ฟังซิว่านักวิชาการเขาคาดไม่ค่อยผิดนี่นะ แต่มาคาดเงินที่ไหลเข้ามาในเมืองไทยเราเข้าสู่คลังหลวงนี้ เขาบอกเขาคาดไม่ถึง มันมาด้วยเหตุผลกลไกอะไรก็ไม่ทราบ เราไม่มีทางตอบก็ว่าคาดไม่ถึงก็อย่าคาดว่างั้น จะให้ว่ายังไงใช่ไหม คาดไม่ถึงยังจะคาดก็เป็นบ้าละซิ บอกว่าคาดไม่ถึงก็อย่าคาดก็ว่างั้นแหละเรา
นี่อันหนึ่งที่เราภูมิใจเวลานี้นะ พี่น้องชาวไทยเราเรียกว่าอบอุ่น ด้วยอำนาจแห่งความรักชาติ ความสามัคคี ความเสียสละของพวกเราคนละเล็กละน้อยที่เข้าไปอยู่คลังหลวง ที่ธนาคารชาติพูดนี้เขาพูดอย่างย่อม ๆ นะ ถ้าธรรมดาโลก ๆ เขาก็จะชี้หน้าหลวงตาบัว แต่นี้เขาไม่ได้ชี้ เรียกว่าเขาพูดฐานยกยอ เขาเทียบกันกับว่า แม่น้ำมหาสมุทรกว้างขนาดไหนแห้งผากเลย แล้วจะตักน้ำใส่แก้ว ๆ ไปเทในแม่น้ำมหาสมุทร ให้แม่น้ำมหาสมุทรเต็มด้วยน้ำแก้วหนึ่งสองแก้ว เป็นไปได้เหรอ เทียบปั๊บเข้าไปก็ว่า คลังหลวงของเราเวลานี้แห้งผาก เทียบกับแม่น้ำมหาสมุทรแห้งผาก แล้วหลวงตาบัวหาเงินมาบาทสองบาทมาเข้าคลังหลวงที่แห้งผากเหมือนน้ำมหาสมุทรแห้งด้วยน้ำ แล้วจะเป็นไปได้ยังไง เหมือนเขาชี้หน้าพูดง่าย ๆ
ครั้นอยู่ ๆ เวลามันเป็นมาแม่น้ำมหาสมุทรก็เต็มด้วยน้ำ เงินก็เต็มเข้าคลังหลวง เขาถึงมาพูดยกย่องเรา มันคงเป็นเพราะวาสนาบารมีของหลวงตา เราอยากฟาดปากมัน ตอนมันว่าให้เราไม่พูด ตอนนี้ถึงจะมายกเรา เราอยากฟาดปากมันเข้าใจไหม ผู้ว่าการนี่ก็ลูกศิษย์นะ บวชอยู่วัดนี้ พอดีไปเป็นผู้ว่าการ เพราะฉะนั้นถึงพูดได้ถนัด อยากจะฟาดปาก แต่ไม่ฟาดวันนั้น นี่ละผลแห่งความสามัคคี ความรักชาติของเรา ดังที่พี่น้องทั้งหลายทราบ ให้ต่างคนต่างอุตส่าห์พยายามนะ แล้วทีนี้เราก็จะภูมิใจไปเรื่อย ๆ แหละทุกสิ่งทุกอย่าง
ทางบ้านเมืองของเราพี่น้องทั้งหลายก็คงได้เห็น นายกคนปัจจุบันนี้เป็นยังไง ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่การงานเพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อคนจนแหละมากที่สุด ตั้งหน้าตั้งตาเพื่อสงเคราะห์คนทุกข์คนจน เฉลี่ยเผื่อแผ่ เงินขนออกไปเพื่อเฉลี่ยให้ทั่วถึงกันในแดนไทยของเรา นายกคนนี้ไม่ได้หยุดได้อยู่นะ หมุนติ้ว ๆ ใครจะว่าอะไรก็เฉย ๆ มีแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำประโยชน์ให้โลกได้รับความฟื้นฟูขึ้นมาโดยลำดับลำดาเท่านั้น ในหน้าที่การงานและความรู้สึกของนายกคนนี้ พร้อมทั้งบริษัทบริวาร ตั้งหน้าตั้งตาทำจริง ๆ ไม่ใช่ทำเล่น ๆ นะ ตาสีตาสาก็เห็นกัน จะมาว่าอะไร ต้องเรียนมาจากเมืองนอกจึงจะมาเป็นนักวิชาการแล้วมาวินิจฉัยนั้นวินิจฉัยนี้ เด็กอยู่ในท้องนาเขาก็รู้ คนดีเขารู้ คนชั่วเขารู้ นี่ก็กำลังก้าวเดินไปด้วยความราบรื่นดีงาม
เรื่องคนดีคนชั่วนั้นมีอยู่อย่างนั้นแหละ โลกอันนี้โลกผสมผเสปนเปกันทั้งคนดีคนชั่วคนโง่คนฉลาด สับปนกันไป คนหนึ่งตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่การงานเพื่อชาติบ้านเมือง คนหนึ่งไม่ได้การได้งานอะไร มีตั้งแต่หาขัดหาเตะหาถีบหายัน ความดีนิดหนึ่งที่จะมาให้โลกเมืองไทยเราดูไม่เห็น เห็นตั้งแต่ความชั่วช้าลามก แสดงออกมาแง่ไหนมีแต่การถีบการยันการเตะ ซึ่งเป็นการเตะคนทั้งชาติ ๆ นั้นแลจะเป็นอะไร เมื่อเตะหัวหน้าก็เท่ากับเตะหัวใจของชาติ ก็เตะคนทั้งชาตินั่นแหละ คนผู้เป็นอย่างนี้ก็มีให้เราดูเอาก็แล้วกัน ดูฝังลึก ๆ ลงในใจ ๆ ผู้ทำดีทำจนจะเป็นจะตาย จนจะไม่ได้หลับได้นอน คืนหนึ่ง ๆ ๓-๔ ทุ่มยังไม่ได้กลับมาบ้านเลย วิ่งโน่นวิ่งนี่ นั่นเห็นไหม เพื่อชาติบ้านเมือง
คน ๆ หนึ่งพยายาม นอนหลับฝันมันก็ฝันไปด้วยการทำลายคนอื่นนั้นแหละ มันไม่มีความดีพอที่จะมาฝากพี่น้องชาวไทยเรา มีแต่ความชั่ว แสดงออกแง่ไหนก็มีแต่ความชั่ว แม้ที่สุดในการ์ตูนก็ดูเอาพี่น้องทั้งหลาย คนหนึ่งแบกคนหนึ่งหามชาติบ้านเมือง คนหนึ่งก็เข้าไปขัดแข้งขัดขาอยู่งั้น ไปดูเอาซิการ์ตูนนั่นน่ะ นั่นเขาก็เห็น เขาไม่เห็นเขาจะมาลงการ์ตูนเตือนเหรอ นั่นเขามาลงการ์ตูนเตือนทั้งคนชั่ว เตือนทั้งคนดี ให้มีความรู้สึกนึกคิดในสิ่งชั่วทั้งหลายเหล่านี้ เตือนทั้งคนชั่วให้รู้สึกตัว ควรจะแก้ไขดัดแปลงอะไร เราอยู่กับมนุษย์ด้วยกัน เราเป็นเทวดาหรือเป็นเทวทัตมาจากไหนถึงจะมาขวางบ้านขวางเมืองเขา คนทั้งประเทศเขาอุ้มชาติบ้านเมืองกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วเราทำไมจึงมากีดมาขวางมาถีบมายันบ้านเมือง มันเลวขนาดไหน โลกเขาก็จะได้เห็นทั้งสองภาค
ภาคคนชั่วก็ควรจะรู้ตัวเองบ้างถ้าจะอยู่กับมนุษย์ต่อไป ไปอยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้แหละมนุษย์ประเภทนี้ ไปอยู่ที่ไหนแตก ๆ ไปหาทำลายไม่ได้หาส่งเสริม มีแต่การทำลาย ดูได้ที่ไหน พิจารณาซิพี่น้องทั้งหลาย การ์ตูนเขาก็ออก หนังสือพิมพ์เขาก็ออก ที่ไหนก็ออก อยู่ตามความรู้สึกของประชาชนทั่วประเทศออกในหัวใจกันทั้งนั้นแหละ อย่าว่าแต่ออกหนังสือพิมพ์เลย นี่ให้เราพิจารณาเอง
ทีนี้พวกเราที่เป็นผู้รักชาติบ้านเมือง ให้ตั้งหน้าตั้งตาต่างคนต่างพร้อมเพรียงสามัคคีกัน และมีความเสียสละตั้งแต่เล็กแต่น้อยนี้แหละ น้ำทีละหยดละหยาดนั่นแหละทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็มได้ด้วยน้ำ ไม่ใช่น้ำที่ตกมาทีหนึ่งก้อนเท่าศาลานี่ ไม่เคยมี มันก็ตกทีละหยดละหยาดทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็มได้ นี้ความเสียสละซึ่งเกิดมาจากความรักชาติความสามัคคีของเรา ก็สามารถที่จะทำเมืองไทยของเราให้เต็มตื้นขึ้นมาด้วยความชุ่มเย็นแน่นหนามั่นคงได้ ให้ท่านทั้งหลายได้นำไปพินิจพิจารณาทุกคน ๆ
เวลานี้หลวงตาก็อ่อนมากแล้ว เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายกมาเยี่ยมที่สวนแสงธรรม เราก็ได้พูดให้นายกฟังว่า การแนะนำสั่งสอนหรือการนำพี่น้องชาวไทยเราเวลานี้ธาตุขันธ์อ่อนมากแล้ว แต่ส่วนบัญชีที่เปิดบริจาคสำหรับท่านผู้ใดที่จะโอนเงินมาเข้าบัญชีหรือมาด้วยส่วนตัว ก็มาได้ตามปรกติ เพราะไม่ได้ปิด เปิดไว้เป็นธรรมดา เป็นแต่เพียงว่าธาตุขันธ์ของเราอ่อน การแนะนำสั่งสอนหรือรับนิมนต์ไปเทศน์ในที่ต่าง ๆ นี้จะไม่ได้อย่างแต่ก่อน คือเราจะรับให้เฉพาะที่จำเป็น ๆ ไปเทศนาว่าการให้ ไม่ได้ไปทั่วถึงกันหมดเหมือนอย่างแต่ก่อน นี่เราก็ได้พูดให้นายก ท่านก็ไม่มีอะไรขัดข้องเรา ก็เห็นตามสภาพแห่งธาตุขันธ์ของท่าน ก็พูดถูกต้องดีงาม
เราจึงได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า สิ่งที่เราอ่อนลงเวลานี้ก็คือการแนะนำสั่งสอน การไปรับนิมนต์ที่นั่นที่นี่จะไม่ได้เป็นเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะธาตุขันธ์อ่อนลง ๆ แล้วในขณะเดียวกันพอเราประกาศออกอย่างนั้นแล้ว เรื่องการนิมนต์นี้แหม มาทุกทิศทุกทางไม่ได้หยุด ยิ่งมากขึ้นนะการนิมนต์ หลังจากเราประกาศออกมาอย่างนั้นแล้ว การนิมนต์นี้ยิ่งมากขึ้น วันที่ ๑๙ นี้ก็จะออกเดินทาง ทีแรกก็ว่าจะไปอยุธยาเพียง ๓ คืนจะกลับมา ทีนี้ต่อมาจากทางภาคเหนือภาคไหนเข้ามา เป็นสายยาวเหยียดต่อจากอยุธยานี้เข้าภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ ๑๙ มกรา จนกระทั่งวันที่ ๕ กุมภา ถึงจะได้กลับมาวัด เป็นเวลา ๑๔ - ๑๕ วัน นี่แหละว่าจะลดลงเป็นยังไงฟังซิ มันลดลงหรือมันเพิ่มขึ้น จากนั้นมาก็ติดกันเป็นพืดอีก ยังมีอยู่เยอะเวลานี้ หลังจากที่เราประกาศว่าจะลดลงในการเทศนาว่าการ แล้วการนิมนต์ไปเทศน์ยิ่งมากขึ้น ๆ
เราก็ยินดีกับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย แต่เรามาเสียใจตั้งแต่ธาตุขันธ์ของเราไม่อำนวยเท่านั้นแหละ วันนี้ก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบที่มาจากที่ต่าง ๆ มาวัดป่าบ้านตาดได้มาเห็นหลวงตาบัว ได้ยินได้ฟังก็ได้ยิน เห็นฝ่ามือเงื้อขึ้นจะฟาดคนอย่างนี้ก็ได้เห็นแล้วนะ กับดูทางทีวีมันเข้ากันได้ไหม ดูเวลานี้กับดูทางทีวี ทางไหนผาดโผนโจนทะยานกว่ากัน ดุเดือดกว่ากันก็ให้ดูเอา
พอพูดอย่างนี้แล้วก็ทำให้ระลึกถึงชาวอยุธยา มานี้เต็มศาลาเลย รถบัสไม่รู้กี่คัน มานี้ก็ถามถึงเหตุผลกลไกมาธุระอะไร ๆ ตั้งใจอยากมาดูอาจารย์ อยากมาเยี่ยมหลวงตาเห็นแต่ในทีวีว่างั้นนะ แล้วเขาก็มานั่งเรียบร้อยอยู่นี่ พอมานั่งแล้ว ก็เรายังไม่ขึ้นเวทีนี่วะ ก็อยู่ธรรมดา แล้วเห็นในทีวีกับเห็นตัวจริงต่างกันยังไงบ้าง โอ๊ย ต่างกันมาก ต่างกันยังไงว่าซิ ดูในทีวีรู้สึกผาดโผนโจนทะยานดุเดือดทุกอย่าง แต่มาอยู่ที่นี่เรียบ ๆ เราก็ฟัง ทางนี้ก็ตอบภายในใจ เออ เรียบ ๆ แหละคอยดูเอา (หัวเราะ) สักเดี๋ยวก็เริ่มยกครูแล้วก็เริ่มขึ้น ๆๆ ซัดเต็มเหนี่ยวแล้ว เป็นยังไงทีนี้ดูทีวีกับมาดูตัวจริง อู๊ย ตัวจริงดุเดือดมากกว่าทีวี ทีนี้คนนี้ก็นั่งคนนั้นคุกเข่า คนนั้นคุกเข่าคนนั้นลุกยืน สุดท้ายยืนหมดเลยดูทั่วหน้า ดูตอนดุเดือดของผู้ที่ว่านั่งเรียบ ๆ เข้าใจไหม เอาละทีนี้จะให้พร เอาละพอ
ทีนี้จะอ่านรายการที่บริจาคให้ฟังนะ ตั้งแต่ต้นมาจนกระทั้งถึงปัจจุบันนี้ สรุปทองคำและดอลลาร์ วันที่ ๔ ม.ค เมื่อวานนี้ ได้ทองคำ ๒ บาท ๒๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๔๗ ดอลล์ ได้ไปโดยลำดับอย่างนี้เรียกว่าทุกวัน ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงเวลานี้ ซึ่งได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นแล้วนั้น ๔ พันกิโล มอบเข้าคลังหลวงแล้ว ๒,๕๕๐ กิโล ยังขาดทองคำอยู่อีก ๑,๔๕๐ กิโล จะครบจำนวน ๔ พันกิโล ทองคำที่ได้หลังจากการมอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๑๕๕ กิโล ๔ บาท ๔๕ สตางค์ นี่หมายถึงว่าเราได้หลังจากการมอบเข้าคลังหลวงแล้ว ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ ๒๖ กันยา หลังจากนั้นเราได้เพิ่มเข้ามาอีก ๑๕๕ กิโล ๔ บาท ๔๕ สตางค์
ทองคำต่อยอดจากเงินโครงการช่วยชาติ ๘๐๐ ล้านบาทนั้น ซื้อทองคำได้ ๒,๐๑๒ กิโลครึ่ง เรียกว่า ได้ ๒ ตันกว่า เท่ากับ ๑๖๑ แท่ง มอบเข้าคลังหลวงไปเรียบร้อยแล้วจำนวนนี้นะ ทีนี้รวมยอดทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้วนั้นเวลานี้ ๔,๕๖๒ กิโลครึ่ง เท่ากับ ๓๖๕ แท่ง รวมยอดทองคำทั้งหมด ทั้งที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบ รวมทองคำทั้งหมดที่เราได้รับบริจาคคราวนี้เป็น ๔,๗๑๗ กิโลครึ่ง จวนจะถึง ๕ ตันแล้ว เวลานี้ได้ ๔ ตัน กับ ๗๑๗ กิโลครึ่งแล้ว พอถึง ๑ พันกิโลแล้ว เราจะหลอมอีกทีหนึ่ง คือหลอมเป็นระยะ ๆ แล้วเก็บไว้ที่ตู้นิรภัยเป็นพัก ๆ ไป พอถึงจำนวนที่เราจะมอบแล้ว เช่น ๕๐๐ กิโล เราก็นำออกมอบที่คลังหลวงสักครั้งหนึ่ง ๆ แล้วก็ประกาศออกทางทีวีให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันทั้งประเทศไทยของเรา กรุณาทราบตามนี้ เอาละที่นี่พอ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet
www.luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|