ดังที่เคยเรียนให้ทราบแล้วว่า คราวนี้มันแปลกอยู่เป็นคราวฉุกละหุก วันที่ ๒๖ ก็จะมอบทองคำ วันที่ ๒๔ เราก็ไปถึงกรุงเทพตอนบ่าย ๆ เรียกว่าเย็นก็ได้ พอวันที่ ๒๕ ต้องได้ไปเมืองกาญจน์วัดเสือ เอาอาหารไปให้เสือเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปที่เขาถวายผ้าป่าซึ่งอยู่ในอำเภอไทรโยคเดียวกัน ทีนี้พอกลับมาก็หมดเวลาที่จะปรึกษาปรารภกับบรรดาพี่น้องทั้งหลายแล้วในวันที่ ๒๕ นี่ซิมันจนตรอก ทำให้เราไม่ผิดอะไรกันกับปิดประตูตีหมานะ ยังแต่ขี้ไม่ทะลักออกเท่านั้น มันคิดมากจริง ๆ เพราะเวล่ำเวลาอะไรที่เราจะหมุนดอลลาร์ให้เคียงข้างไปกับทองคำ ไม่มีเวลาที่จะพูดปรึกษาปรารภกับบรรดาลูกศิษย์เลยนี้ทำไง ๆ อยู่งั้นนะ
เราประกาศนี้บรรดาพี่น้องทางกรุงเทพทางไหนก็ดีนะ ให้พึงทราบ เหมือนหนึ่งว่านั่งอยู่ใต้ถุนศาลาวัดป่าบ้านตาด ได้รับคำประกาศก้องในเรื่องดอลลาร์ที่จะเข้าสู่คลังหลวงทั่วหน้ากันทั้งใกล้ทั้งไกลให้เสมอกันหมดนะ ให้บรรดาพี่น้องทางกรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ ให้ทราบไว้ตั้งแต่บัดนี้ไปว่า หลวงตาไปถึงวันนั้นแล้ว วันหลังต่อมาเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ ๒๖ เอาใหญ่เลยวันนั้น ใครมาให้รวบรวมมาตั้งแต่วันที่ ๒๕ เป็นที่เหมาะสมแล้ว คือวันที่ ๒๕ เป็นวันที่เราฉันจังหันอยู่ที่นั่น มีปรึกษาปรารภบ้างเล็กน้อยตอนหลังจังหันเรียบร้อยแล้ว บรรดาพี่น้องทั้งหลายจะได้มอบดอลลาร์ก็มอบในวันที่ ๒๕ หลังจากจังหันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นเป็นโอกาสที่เหมาะสม จากนั้นเราก็จะเดินทางไปเมืองกาญจน์จะไม่มีเวลา
ขากลับมาก็เอาอีกแหละ พอตื่นเช้าก็ออกเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพราะฉะนั้นบรรดาพี่น้องทั้งหลายทั้งใกล้ทั้งไกล ที่รับทราบจากทางวิทยุซึ่งประกาศอยู่เวลานี้ รับทราบทั่วถึงกันแล้วต่างคนต่างบริจาคเข้ามารอที่จังหวะนั้น เราจะไปสวรรค์ไม่มีปัญญาไปได้เหรอ นี้เราจะไปสวรรค์ไปนิพพานพ้นจากทุกข์ด้วยอำนาจแห่งการบริจาคทานของเรา เราต้องมีปัญญาเอาจนได้จะเป็นไรไป กิเลสมันเอาแหลก ๆ พอแล้ว ปัญญาของกิเลสเก่งมากนะ ในคนคนเดียวนั้นแหละถ้าเป็นเรื่องของกิเลสมันเอาไปเรียบ ๆ ความจริงเราไม่รู้ว่ากิเลสลากเราไป เราก็ว่าเราไป ๆ กิเลสลากไปแบบลึกลับแหลมคมของมัน ถ้าจะเอาไปทางดีทั้งหลายนี้มันอืดอาด ๆ ไม่คล่องแคล่วว่องไว สติปัญญาทางด้านธรรมะที่จะฟัดกับกิเลสไม่ทันมัน เพราะฉะนั้นจึงได้เตือนไว้ตั้งแต่บัดนี้
วันที่ ๒๖ นั้นเราไม่มีเวลาแล้วแหละ พอออกจากที่แล้วก็ไปเลย เพราะไปฉันจังหันที่ทำเนียบรัฐบาล มีการสวดมนต์พิธีใส่บาตร จากนั้นแล้วก็ฉัน ไม่มีเวลา มีเวลาวันที่ ๒๕ ตอนเช้าวันเดียวกันนั้น พอฉันเสร็จแล้วก็บริจาครวบรวมกันตรงนั้น ๆ ปัญญาของพวกเราทุกคนมีให้ใช้ทุกคนนะ เวลานี้ปัญญาจะเอาดอลลาร์เคียงข้างทองคำเข้าสู่คลังหลวงของเรา ให้พยายามทุกคน ๆ คราวนี้คือคราวจำเป็น หลวงตาเองก็จนตรอกเหมือนกัน เป็นหัวหน้าพี่น้องทั้งหลายนี้ต้องได้คิดมากเหมือนกัน แต่ก่อนก็ยังไม่ได้คิดเรื่องดอลลาร์ คิดตั้งแต่ทองคำ ๆ ทีนี้เวลาทองคำก็ได้พอสมควรแล้วจึงวกกลับมา เพราะทุกครั้งที่เรามอบทองคำเข้าสู่คลังหลวงนี้ มีดอลลาร์ติดตามทุก ๆ ครั้งเลย
ครั้งแรกดอลลาร์ก็ตั้ง ๓ ล้าน ครั้งที่สองก็ทยอยกันมาเรื่อย ครั้งที่สามที่สนามหลวงได้ตั้ง ๓ แสนดอลล์ อันนั้นเพียงทองคำ ๕๕ แท่ง แท่งหนึ่งน้ำหนัก ๑๒ กิโลครึ่ง ดอลลาร์ยังติดตามไปตั้ง ๓ แสน แล้วคราวนี้ทองคำเราจะเข้าตั้ง ๑,๘๑๒ กิโลครึ่ง ดอลลาร์เราเป็นยังไง เอา ฟัดให้เต็มเหนี่ยวนะ ตามจับหางทองคำ บอกว่าข้าจะแซงเดี๋ยวนี้ คว้ากระเป๋าโน้นกระเป๋านี้แซงเลย เอาให้ได้นะ เอาให้เด็ดคราวนี้ เป็นคราวสำคัญคราวหนึ่งเหมือนกันที่จะมอบทองคำในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นหัวใจแห่งชาติไทยของเรา เราเป็นคนไทยทุกคนหัวใจอยู่นั้นหมด ทุ่มลงไปในหัวใจของเราให้เบ่งบานขึ้นเต็มเหนี่ยวคราวนี้นะ ได้มากเท่าไรยิ่งดีดอลลาร์คราวนี้ เราตั้งไว้แล้วเป้าหมาย ๑ แสน
นี่เรายังคิดถึงเรื่องว่าจะไปถอน นี่ฟังดู มันจนตรอกจริง ๆ แล้วหลวงตายังจะเอาเงินในโครงการช่วยชาตินั้นมาซื้อดอลลาร์เข้ากับทองคำคราวนี้ ของเล่นเมื่อไร สู้ไม่ถอย นี้กำลังคิดอยู่ เงินของเรามีมากไม่มีมากก็ตามเรามุ่งแต่คลังหลวง มีเท่าไรก็จะทุ่มใส่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นจึงต้องพิจารณากันเรื่องเงินฝากโครงการนี้อีกทีหนึ่ง ส่วนใหญ่ไปหมดแล้วนะ คือส่วนใหญ่ ๘๐๐ ล้านนั้นไปหมดแล้ว เราได้ตกลงกับทางโรงหลอมเรียบร้อยแล้วให้ทองได้ตามที่เรากำหนดไว้นี้ ก็เท่ากับเรียบร้อยมาแล้วสำหรับทองคำ เป็นแต่เพียงว่าเงินของเราจะหยิบยื่นให้เขาเมื่อไรก็ได้
เพราะเงินเราอยู่ในธนาคาร จะไปโอนเอาวันที่ ๒๔ ตอนเช้านะ ตอนฉันจังหันนี่แหละเขาจะไปโอนเงิน พอเปิดธนาคารปั๊บเขาจะโอนปุ๊บปั๊บแล้วกลับมา มาก็ออกเดินทางพร้อมเราไป ตกลงกันไว้อย่างนั้นแล้ว นี่หมายถึงร้อยล้านสุดท้ายนะ ส่วนทองคำไปรออยู่แล้ว ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เงินนี้ไปตามหลัง ให้กันเมื่อไรก็ได้เราเป็นผู้รับประกันเอง คอเรายังมี ไม่มีอะไรหรือตัดคอขาดไปเลย ให้ถอยไม่ถอย
คราวนี้เป็นคราวยิ่งใหญ่ของเราคราวหนึ่งเหมือนกัน ซึ่งไม่เคยมีในประเทศไทยไม่ใช่เหรอ ก็น่าจะเป็นที่ระลึกของชาวไทยเราทั้งชาติ ขอให้สมเกียรติชาติไทยเราเถอะ เกียรติเป็นของสำคัญมากนะ ชื่อเสียงเกียรติยศทุกอย่างอันนี้เป็นของสำคัญ โลกถือกันมาเป็นประจำโลกนะ เพราะฉะนั้นอย่าได้ทำลายเกียรติของพวกเรา เราเป็นชาวไทยถือพุทธศาสนาซึ่งสงวนเกียรติแห่งความดีความงามอย่างยิ่งด้วย ให้เอาตรงนี้ เรานี้พยายามสุดขีดแล้ว ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยลำดับไปก็แล้วกัน การช่วยชาติคราวนี้เรียกว่าเราช่วยอย่างสุดขีดของเรา ในชีวิตของเราก็จวนเข้าไปแล้ว จึงต้องเร่ง ๆ นี่เรียกว่าเครื่องมือเอามาใช้ ๆ เวลานี้กำลังเร่งใช้เพื่อประโยชน์แก่โลกเมืองไทยของเรา จากนั้นแล้วมันก็จะพังของมัน เมื่ออันนี้พังแล้ว การช่วยเหลืออย่างกิริยาท่าทางอย่างนี้ก็จะไม่มี
ส่วนเราไม่ต้องถาม เราพูดแล้วทุกอย่าง เราไม่ได้สงสัยในตัวของเรา ช่วยพี่น้องชาวไทยของเราและทั่วโลกนี้ด้วยความอิ่มพอทุกอย่าง เราไม่หวังอะไรเลยแม้เม็ดหินเม็ดทรายไม่มี ในหัวใจของเราพอทุกอย่างแล้ว สิ่งที่ยังบกพร่องก็ดังประกาศก้องอยู่เวลานี้ ชาติไทยของเราเอนเอียงมากทีเดียวคราวนี้ ดีไม่ดีจะจม ล่อแหลมเอามากทีเดียว ก็เดชะต่างคนต่างรู้เนื้อรู้ตัวแล้วฟื้นขึ้นมา เวลานี้เรากำลังฟื้น เอา ฟื้นให้เต็มที่ทุกคนอย่าอ่อนแอ
ถ้าหากว่าธรรมหรือศาสนาเอาขึ้นไม่ได้แล้วจะขึ้นไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องทั้งหลายฟังเสียงธรรม พูดประกาศก้องไปตรงไหน ๆ คือเสียงธรรมล้วน ๆ จะไม่มีแง่งอนเลย เป็นเรื่องของธรรมล้วน ๆ ที่ประกาศ จะเผดียงหรือเตือนวิธีไหนก็ตาม หรือกระตุกแบบไหนก็ตาม ให้ทราบว่าเป็นธรรม ๆ มา มีน้ำหนักต่างกัน ถ้าเป็นเรื่องกระตุกแรง ๆ นี้ก็เรียกว่าธรรมมาสุดขีดเต็มเหนี่ยว ออกให้สะดุดใจอย่างเต็มที่เลย ให้ฟังเป็นลำดับลำดาไป ธรรมนี้ไม่เคยทำผู้ใดให้ล่มจม ไม่เคยมีในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์ใดเลย นี่ศาสนาพระพุทธเจ้าของเราก็ทำโลกให้มีความสงบร่มเย็นมามากต่อมากแล้ว ทำไมจะทำเมืองไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็นและฟื้นฟูความสงบสุข ความสมบูรณ์พูนผลทั้งด้านวัตถุและด้านจิตใจภายในของเราไม่ได้มีอย่างเหรอ ต้องได้
นี่ก็ศาสนากำลังเป็นผู้นำอยู่เวลานี้ ได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบทุกอย่าง ๆ ธรรมนี้จะออกอย่างตรงไปตรงมา ให้ฟังเสียงธรรมก็แล้วกัน อย่าฟังเสียงว่าจะกระทบอันนั้นจะกระทบอันนี้ กระทบอะไรก็ตาม ขี้หมูขี้หมาเตะมันไปเลย อันไหนสกปรกโสมมเป็นขวากเป็นหนามเตะมันออกเรื่อย ๆ เอาทางเดินของเราให้โล่ง เพื่อความสงบร่มเย็นสมบูรณ์พูนผลของชาติไทยเรานี้เป็นที่พอใจ ศาสนานำอย่างนั้นนะ คราวนี้แล้วทีนี้เราก็ค่อยก้าวเดินไปละ
เงินสดที่พี่น้องทั้งหลายโอนมา ๆ หรือบริจาคมาก็ดีจะหนุนไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ หนุนเข้าไปเรื่อย คัดเข้าไปทางทองคำ ๆ เรื่อย ๆ ส่วนช่วยโลกก็ถูไถกันไป เราเป็นคนดูเองทุกอย่าง ทั้งทางด้านทองคำคลังหลวง ทั้งทางด้านประชาชนทั่วไปในประเทศไทยเรา ที่จะช่วยเหลือด้วยวิธีการต่าง ๆ เราจะเป็นผู้พิจารณาเอง สมควรแง่ไหน ๆ เราจะพิจารณาเอง ดังที่เคยปฏิบัติมาแล้วนี้
ทองคำในระยะนี้เป็นอันว่าเรายุติแล้ว มันจะขึ้นฟากเมฆช่างหัวมัน คือเรารวบรวมมาเรียบร้อยด้วยข้อสัญญาตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เป็นอันว่าเป็นของเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงวันนั้นเอาเข้าเลยเราไม่ได้ไปซื้ออีก ก็มีปัญหาตั้งแต่ดอลลาร์ เพราะฉะนั้นถึงพูดถึงดอลลาร์และเกี่ยวกับบัญชีโครงการช่วยชาติ ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ลากลงมาถอน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ถอน นี่เราใช้เวลาจำเป็น ที่จะควรถอนไม่ควรถอนเราจะดูดอลลาร์ข้างนอกนี้ก่อน ถ้าข้างนอกพอสมควร ๆ แล้วเราก็ไม่ถอน เพื่อข้างหน้า แน่ะ ถ้ามันจำเป็นจริง ๆ ก็เอาออกมาช่วยปัจจุบัน
วันพรุ่งนี้เราก็จะได้ออกเดินทางไปฉันในงานที่วัดถ้ำเต่าแหละ พระที่อยู่ที่นี่จะมีกี่องค์ก็นับเอา พวกลูกศิษย์ลูกหาในเมืองอุดรมีกี่คน เลี้ยงพระในวัดนี้พอได้ไหมวันพรุ่งนี้น่ะเราอยากถามปัญหาอย่างนั้น ถ้ารับเลี้ยงพระไม่ได้แล้วให้เรียกตัวมาให้หมด เราจะฆ่าให้หมดแล้วเราถึงจะลากพระในวัดทั้งหมด ไปฉันจังหันวัดถ้ำเต่าแห่งเดียวกัน เอาไปพิจารณาปรึกษากันนะ ไปนี้ไปตีเกราะประชุมกันเลยบอกมีธุระรีบด่วนว่า หลวงตาจะฆ่าคนหมดเมืองอุดร เลี้ยงพระไม่ได้ แล้วท่านขนพระของท่านไปถ้ำเต่า ประชุมกันรีบด่วนเลยนะ เพราะงานนี้รีบด่วน จะถึงวันพรุ่งนี้เช้า
ทองคำเมื่อวานไม่ได้ ไม่ได้ก็ช่างเถอะวันนี้ฟาดเข้าไป ๑ กิโลแล้ว แต่ดอลลาร์เมื่อวานนี้ได้ ๑,๐๗๗ ดอลล์ ทองคำที่ได้หลังจากการมอบเข้าคลังหลวงแล้วนั้นเวลานี้ได้ ๔๘ กิโล ๔๖ บาท ๒๗ สตางค์ วันนี้นับเข้าอีกก็เป็น ๔๙ กิโลแล้วที่เราจะหลอมใหม่นี้นะ รวมทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๒,๗๕๐ กิโล รวมทองคำทั้งหมดได้ ๔,๓๑๑ กิโล กรุณาทราบตามนี้
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com