เรามุ่งต่อชาติบ้านเมืองด้วยความเมตตาของเราสุดส่วน เพราะฉะนั้นจึงจะมาสกปรกกับเราไม่ได้เลย บอกว่าคอขาดไปเลย ฟังซิของเล่นเมื่อไร มันก็ได้เรื่อย ๆ อย่างนี้ ทองคำก็ดี ดอลลาร์ก็ดี ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้พยายามกันดังที่ว่ามานี่แหละ อันนี้เราจะเริ่มเหมือนกับว่าตั้งรากตั้งฐานใหม่อีกทีหนึ่ง จะล้มเหลวจะพังลงทะเลหลวงจนจะไม่มีชื่อเมืองไทยปรากฏอยู่ในโลกนี้เลยนู้นน่ะ ถึงขั้นมันจะลงมันขนาดนั้นนะ นี่ก็พอฟื้นตัวขึ้นมาได้แล้วก็ให้ต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาอุตส่าห์พยายามทุกคน
ทองคำตั้งแต่เราไปมอบทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๒๖ เดือนกันยามา ถึงวันนี้วันที่ ๒๖ พอดี ทองคำก็ได้มาแล้ว ๗๘ กิโล ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ที่มอบทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว วันนี้พอดีวันที่ ๒๖ หนึ่งเดือนพอดี ได้ทองคำ ๗๘ กิโลแล้ว ได้มากขนาดนั้น และตื่นตาตื่นใจประชาชนในการมอบคราวนี้นะ เพราะถ่ายทอดสดทั่วประเทศไทย ถ้าตื่นก็ควรจะตื่นแล้วนะ นี่มอบทองคำมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ว่ามากกว่าเพื่อน ร่วม ๒ ตันนะ ๑,๘๑๒ กิโลครึ่ง เกือบถึง ๒ ตัน มอบคราวนี้เรียกว่ามากกว่าทุกคราว นี่ก็ได้ถ่ายทอดสดให้เห็นทั่วกันทั้งประเทศเลย
ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยามา วันนี้ ๒๖ ตุลา เต็มเดือนพอดี ได้ ๗๘ กิโลแล้ว นับว่าได้มากและได้เร็ว ๑ เดือนถึง ๗๘ กิโล ตามธรรมดาที่เราได้กันเหล่านั้นมันค่อยเป็นค่อยไป เดือนหนึ่งอย่างมากได้ถึง ๓๐ กิโลก็นับว่าดี อันนี้ปาเข้าไปตั้ง ๗๘ กิโล นี่ก็เป็นผลมาจากบรรดาพี่น้องทั้งหลายได้เห็นทองคำที่ออกในวันนั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล ดอลลาร์ก็ ๔ แสน นี่เราเตือนไปหนหนึ่งแล้ว ดอลลาร์หนังสือพิมพ์ลงผิดไป เราเห็นหนังสือพิมพ์เองล่ะซี ฉบับหนึ่งว่า ๑ แสนดอลล์ มอบที่ทำเนียบรัฐบาล อีกฉบับหนึ่งว่า ๓ แสนดอลล์ พวกนี้มันพวกตาบอดว่าอย่างนั้นแหละเรา เราได้ดุเอาเสียบ้าง ทีนี้ออกมาคราวนี้แน่นอนแล้วว่า ๔ แสน มันต้องอย่างนั้นซี
หัวใจประชาชน เป็นที่ไว้ใจของประชาชนคือหนังสือพิมพ์ เรียกว่าข่าวของเรื่องทั้งปวงจะมารวมที่หนังสือพิมพ์ เพื่อเป็นที่แน่ใจต่อประชาชนทั้งหลายต้องออกให้ถูกต้องแม่นยำ นอกจากสุดวิสัยจริง ๆ จะแบบชุ่ย ๆ ตามนิสัยไม่ถูก นี่เขาก็ออกแล้ว คราวนี้ถูกต้องแล้ว เราจะพยายามเอาทองคำ ดอลลาร์ เข้าเรื่อย ๆ ที่เราพูดอยู่เวลานี้ก็พูดเพื่อพี่น้องชาวไทยเราทุกคนเลย ทั้งในประเทศทั้งนอกประเทศ เราเป็นเจ้าของสมบัติแห่งเมืองไทยของเรา เราต้องเอาใจใส่ ทุกคน ๆ ต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติหน้าที่ของเราเพื่อการบำรุงส่งเสริมชาติไทยของเรา
เวลานี้ก็พอจะเริ่มลืมหูลืมตาดูทิศดูทางได้บ้างแล้ว ราบรื่น การบริจาคมาคราวนี้ไม่มีล่อแหลมไม่มีอันตรายที่แสดงให้ปรากฏ ตั้งแต่เริ่มแรกตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมานี้ รู้สึกว่าราบรื่นมาโดยตลอด ๆ ฉะนั้นจึงเป็นที่ตายใจได้แล้ว ที่พี่น้องทั้งหลายจะบริจาครวมกันเข้ามา ๆ เข้าทางคลังหลวงของเรา คลังหลวงก็ราบรื่นดีงามทุกอย่าง เปิดโล่งไว้หมดเลยคลังหลวงเวลานี้ ไม่ว่าจะทองคำหรือดอลลาร์หรือเงินสด เปิดไว้โล่งทั้งนั้นสำหรับคลังหลวง เรียกว่าสะดวกแล้วเวลานี้ ราบรื่นแล้ว สมบัติเราได้เข้าคลังหลวงทุกแง่ทุกมุมแล้วไม่มีจะรั่วไหลแตกซึม หรือถูกกีดกันด้วยวิธีการใดก็ตาม ไม่มีเวลานี้ บอกให้ชัด ๆ อย่างนี้
เรื่องความรู้สึกในหัวใจเรานี้ เราก็เคยพูดบ้างแล้วกับพี่น้องทั้งหลายเกี่ยวกับเรื่องทองคำเรา คือที่เป็นพื้นฐานไว้เลยเพื่อให้ประชาชนทั้งชาติเรา ได้เป็นที่ปักใจลงในจุดนั้น เช่น ๔ พันกิโล นี่เป็นความมุ่งหมายของหลวงตาที่มีต่อชาติ และพยายามริบรวมจากสมบัติของพี่น้องทั้งหลายมาเป็นทองคำ ๔ พันกิโล จะออกมาทางไหนก็ตาม แต่ให้ได้เป็นทองคำมา ๔ พันกิโล รวบรวมแล้วเป็นทองคำน้ำหนัก ๔ พันกิโล นี้เป็นจุดหนึ่งที่เราตั้งไว้แล้ว จุดนี้บอกไว้เลยว่า ขาดไม่ได้ ว่างั้นเลย ๔ พันกิโลเป็นพื้นฐาน จากนั้นก็ต่อยอด เราจะต่อมาด้วยวิธีใด เช่น เงินโครงการช่วยชาติ หรือจะมาแบบไหนก็ตามเพิ่มเข้า เรียกว่าต่อยอด ๆ สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ นี่เป็นจุดกลาง
จุดพื้นฐานคือ ๔ พันกิโล จุดกลางคือต่อยอด จุดสุดท้ายจริง ๆ คือว่า ถ้าหากว่าการช่วยชาติคราวนี้ได้น้ำหนักถึง ๑๐ ตันแล้ว หลวงตานี้นอนหลับใหลไปเลยก็ได้เราบอกจริง ๆ คือหายห่วงกับพี่น้องชาวไทยเรา เวลานี้ยังห่วงอยู่มาก ที่พูดเหล่านี้มีแต่พูดความเป็นห่วงชาติไทยของเราทั้งนั้น เพราะฉะนั้นถึงได้เขยิบ ๆ เพื่อความแน่นหนามั่นคงแห่งชาติไทยของเรา ๔ พันกิโลนั้นเวลานี้ก็ได้ครึ่งกว่าแล้ว ยังขาดอยู่พันกว่า นี่หมายถึงจำนวนรวม ๆ กันเป็น ๔ พันกิโล ส่วนทองคำที่จะมาจากแง่ต่าง ๆ เช่น โครงการช่วยชาติเป็นต้น ไปซื้อทองคำเข้ามานั้น เราก็นับเข้าเป็นการต่อยอด ไม่ได้มานับในจำนวนนี้
จำนวน ๔ พันกิโลนี้ ได้มาเท่าไรก็บวกเข้าเพื่อ ๔ พันตลอดไป ส่วนที่ได้เพิ่มเติมมากน้อยเพียงไรก็แยกเอาไว้ ๆ อย่างนั้นตลอด จนกระทั่งว่า ๔ พันกิโลเป็นพื้นฐานตายใจ จากนั้นเราก็ริบรวมกันเข้าอีกต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าได้ถึง ๑๐ ตันแล้วเราพูดจริง ๆ ตามเจตนาของเราที่มีต่อพี่น้องชาวไทย มีแบบหัวขาดเลย ให้พี่น้องทั้งหลายทราบนะ ชีวิตของหลวงตาบัวกับพี่น้องชาวไทยทั้งชาติคราวนี้ หลวงตาเหมือนกับว่าเป็นตัวประกันอยู่ในท่ามกลางเลย ถ้าควรจะคอขาดหลวงตาจะขาดไปก่อนเลย ขนาดนั้นพี่น้องทั้งหลายฟังเอานะ เราช่วยชาติช่วยขนาดนั้นทีเดียว บอกหัวขาดไปเลย เด็ดขนาดนั้นแหละ
เหมือนอย่างที่ว่าเราเด็ดกับกิเลส ถ้ากิเลสไม่ตายเราตายเท่านั้น ถึงขนาดนั้นแหละ แต่เด็ดนั้นเป็นเด็ดแกงหม้อเล็กมันก็ต่างกัน แกงหม้อใหญ่เดี๋ยวดึงนู้นแล้วดึงนี้ แต่ก็เด็ดอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน เรียกว่าเด็ดแบบหนึ่ง หมายถึงว่าคอหลวงตาบัวนี้ขาดในท่ามกลางพี่น้องชาวไทยเลย ขอให้ฟังเป็นที่ถึงใจ เราถอดออกมาจากหัวใจเราจริง ๆ ที่สละเพื่อพี่น้องทั้งหลาย เพราะฉะนั้นทุกอย่างเราจึงไม่มีถอยเลย อันใดที่จะมาขัดข้องต่อชาติไทยของเราซึ่งเป็นความเสียหายโดยถ่ายเดียว ไม่มีเหตุมีผลอะไรที่จะลดหย่อนผ่อนผันกัน อย่างนั้นคอเราขาดไปเลยเทียวไม่มีรอ
พี่น้องทั้งหลายก็จะเห็นกระมัง กิริยาท่าทางทุกอย่างที่แสดงออก จะพอเข้ากันได้ไหมกับคำพูดเหล่านี้ ฟังซิ นี่ละเราขนาดนั้นแหละ ทีนี้เราก็ตั้งความมุ่งหมายไว้เพื่อชาติไทยของเราทั้งชาติ ได้มีทองคำสง่างาม ๑๐ ตันประดับชาติของเรานี้ สง่างามมาก หลวงตาบัวตายเมื่อไรไปเลย ไม่ต้องนิมนต์พระมากุสลาเราบอกตรง ๆ บอกมาแต่ต้นแล้ว บอกไม่ต้องมากุสลาแหละ ทองคำ ๑๐ ตันกุสลาเราพอแล้วไปแล้วสบายไปเลย ให้พี่น้องทั้งหลายทราบกันทั่วประเทศไทยเรา เรื่องความมุ่งหมายของหลวงตาที่มีต่อชาติเวลานี้มีหนักแน่นขนาดไหน ให้ท่านทั้งหลายทราบเอา ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อเป็นธรรมแล้ว หลวงตาจะออกทางธรรม คอขาด-ขาดไปเลย แต่ไม่เป็นธรรมไม่เล่นด้วย
เด็ดขนาดไหนก็ตามเด็ดเพื่อดี ไม่ได้เด็ดเพื่อทำลาย ความเด็ดของเรานี้เด็ดเพื่อความดีต่อชาติบ้านเมืองของเราเท่านั้น เพราะเด็ดในทางธรรมไม่ได้เด็ดในทางเสียหายนะ กิริยาที่แสดงออกทั้งหมดนี้ออกอย่างถูกต้องตามธรรม พุ่ง ๆ เลยไม่มีรอ ถ้าอะไรมาขัดขาดไปเลย ให้รอ-รอไม่ได้ เรามุ่งอย่างนั้นมุ่งต่อชาติไทยของเรา ขอให้ทุกคนได้พินิจพิจารณากันให้ถึงใจทุกคน ๆ รวมน้ำใจของเราอย่างน้อย ๖๒ ล้านคนเข้าเป็นน้ำใจที่จะอุ้มชาติไทยของเราทำไมอุ้มไม่ได้ ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษท่านพาอุ้มมาขนาดไหน เราเวลานี้ถึง ๖๒ ล้านคน แต่ก่อนปู่ย่าตายายของเราไม่ได้มีกี่ล้านนะ ท่านยังอุตส่าห์อุ้มมาได้ชาติไทยของเรา ทีนี้มาถึงจำนวน ๖๒ ล้านคนพาชาติไทยให้จมดูไม่ได้เลย อย่าให้ได้ยินคำนี้นะ เพียงเท่านี้ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ให้ว่างั้นเลย
เหตุการณ์ที่เป็นมานี้เราก็เคยได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบแล้ว คือทางเจ้าหน้าที่รักษาทองคำนั้น เวลานั้นเป็นเวลาที่เราไปมอบทองคำ ดอลลาร์ เป็นครั้งแรก พอมอบแล้วเจ้าหน้าที่ก็มานิมนต์เราเข้าไปดูทองคำ โดยที่เราไม่ได้ทะลึ่งนะ เราก็มามอบทองคำเป็นธรรมดา ไม่ได้สนใจจะดูอะไรแหละ แต่เจ้าหน้าที่ก็มานิมนต์ไปดู ท่านเหล่านั้นก็คงจะเห็นความหมายของเรา อันนี้เป็นปฐมฤกษ์แล้วนะ มันอาจจะมีส่วนอะไร มานิมนต์เรา เราก็ไปดู ดูทุกซอกทุกมุม วางทองคำเป็นตับ ๆ เราดูละเอียดลออจริง ๆ ไม่ใช่ดูธรรมดา ดูออกมาแล้วก็ไปปรึกษากันเฉพาะสองคนไม่ให้ใครทราบด้วย ถามถึงเรื่องทองคำ เวลานี้ทองคำเก็บไว้ที่ไหนบ้าง ๆ เพราะเราทราบอยู่แล้วภายในความรู้สึกของเราว่า ทองคำนี้เกี่ยวโยงกับประเทศต่าง ๆ ต้องมีการซื้อการขายการแลกการเปลี่ยน แล้วต้องมีเครื่องประกันกันเราคิดไว้แล้ว เครื่องประกันก็คือทองคำ
เพราะฉะนั้นเราจึงถามว่าทองคำนี้อยู่ประเทศไหนบ้าง ประเทศนั้นเท่าไร ๆ ก็ถาม ทางนั้นก็บอกโดยตรง ๆ ประเทศนั้นเท่านั้น ๆ เป็นอย่างที่เราถามจริง ๆ ก็มีตามจุดที่ถามนั่นแหละ จุดสำคัญ ๆ เราก็พอทราบได้ เราเกิดในเมืองไทยมานาน แล้วมีอยู่ในเมืองไทยเราเท่าไร อันนี้เป็นเครื่องประกันอยู่เฉพาะเมืองไทยเรา อันนี้ประกันสำหรับทางเมืองนอก มีการซื้อการขายแลกเปลี่ยนกัน ติดหนี้สินกัน อันนั้นเป็นตัวประกันเอาไว้ประเทศนั้น ๆ สำหรับในเมืองไทยของเราประกันไว้มีจำนวนเท่าไร ตอนนี้ละเมื่อมาดูประเทศไทยของเรารู้สึกว่าร่อยหรอมากนะ
นี่ละถึงได้ดีดดิ้นตลอดเข้าใจไหม พี่น้องทั้งหลายให้ทราบเอานะ เราดีดดิ้นในจุดอ่อนของเราซึ่งเป็นหัวใจของชาติเสียด้วย อยู่ในจุดกลางนี้เลย ในทองคำจำนวนนี้ ทีนี้เราจะหาเข้าสู่จุดนี้เข้าใจไหมล่ะ จุดนอกนั้นก็พอสมควรแล้ว เจ้าหน้าที่เขาทำก็รู้สึกว่าพอดีแล้ว ประเทศนั้นเท่านั้นตามส่วนใหญ่ส่วนย่อยของแต่ละประเทศ ประเทศนั้นเท่านั้น ๆ ไหลเข้ามาสู่ประเทศไทยของเรานี้รู้สึกว่าน้อยมากนะ นี่ละที่มันใจหายนะ ที่ได้ออกมาประกาศให้พี่น้องชาวไทยเราทราบตั้งแต่วันนั้นมา
วันนั้นพอออกมาจากธนาคารชาติแล้วมาถึงกุฏิ หือ วันนี้นักข่าวไปไหนกันหมด ทุกวันได้ดุนักข่าวมันมายุ่งมาก วันนี้ไปไหนกันหมดนักข่าว เราจะออกข่าววันนี้ว่างั้น อยู่ ๆ ยังไงก็ไม่ทราบนะนักข่าวก็พร้อมกันเข้าไป อยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบแหละ ประมาณสักสิบนาทียั้วเยี้ย ๆ มาจากไหนไม่รู้ เราอยู่สวนแสงธรรมนะ เออ มา-มาก็ใส่เปรี้ยงตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้ ใส่เปรี้ยง ๆ นักข่าวก็ออกเลย เราก็ออก เรื่องราวมันเป็นอย่างนั้น แล้วก็เรื่อยมาจนกระทั่งป่านนี้ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยเราทราบ ทองคำที่หนุนในชาติของเราเวลานี้รู้สึกว่าอ่อนมากนะ ให้หนุนทางนี้ให้ดี ทางโน้นเราก็พอคิดพออ่านแหละเราเทียบดูแล้ว ประเทศนั้นเท่านั้น ๆ สมกับประเทศใหญ่โตและการเกี่ยวข้องซื้อขายแลกเปลี่ยน ตลอดการติดหนี้จะต้องมีมากไปตามจำนวนทองคำที่เป็นเครื่องประกันเอาไว้ แต่เมืองไทยของเรารู้สึกว่ามีน้อยมาก จึงต้องมาหนุนให้แน่นหนามั่นคงขึ้นไป พี่น้องทั้งหลายทราบเอานะ
ส่วนดอลลาร์ก็เป็นคู่เคียงกันไปนั่นแหละ เป็นเครื่องค้ำประกันไปทั้งสองอย่าง เราจึงต้องอุตส่าห์พยายามกับพี่น้องทั้งหลายอย่างนี้ ใครจะว่าหลวงตากวนบ้านกวนเมืองก็ให้ว่าไป ส่วนที่หลวงตาอุ้มชาติบ้านเมืองจนตัดคอรองไปเลยนี้ก็ให้คิดบ้างนะ อย่ามาคิดแต่ว่าหลวงตากวนบ้านกวนเมือง บ้านเมืองจะคอขาดกันทั้งประเทศคิดบ้างซิ หลวงตาเอาคอหลวงตารองคอของคนไทยเราทั้งประเทศ คอหลวงตาคอเดียวรองไปหมด ก็ให้คิดบ้างว่าน้ำหนักแห่งการเสียสละของหลวงตามากน้อยเพียงไร ให้พิจารณาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ให้จำเอานะวันนี้
เราจะค่อยพยายามไปอย่างนี้เรื่อย ๆ นี่ก็ค่อยได้มาเรื่อย ๆ เราเชื่อพี่น้องชาวไทยเรา คือเวลาไหนที่ยังไม่แน่ใจ ไม่ว่าท่านว่าเรา กำอยู่นี้ถ้าเป็นเงินกระดาษก็เปียกไปหมดเลย ถ้ากำเหรียญเป็นสนิมนี้สนิมก็ออกหมดเลย จะสละออกไปก็ยังไง ๆ มันสละไม่ลงความแน่ใจไม่มี ทีนี้เมื่อความแน่ใจมีแล้วมีเท่าไรก็ผึงเลย ๆ เวลานี้รู้สึกว่าความแน่ใจของเราจะมากขึ้นแล้ว หลวงตาบัวเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายหลวงตาบัวแน่ใจระยะนี้ เพราะฉะนั้นจึงกล้าพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เอ้า ก้าวเดินนะ เวลานี้รู้สึกว่าราบรื่นทุกอย่างแล้ว ทางชาติของเราก็ราบรื่น ๆ มาเป็นลำดับ ทางศาสนาพี่น้องทั้งหลายก็เห็นเราแล้ว สำหรับหลวงตาพาดำเนินมาเป็นยังไง อันนี้ไม่ต้องพูด ตัดคอรองมาแล้วด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีมลทินแม้นิดหนึ่ง มีเท่าไรทุ่มหมด ๆ นี่ก็ด้านหนึ่ง ทางชาติบ้านเมืองก็ด้านหนึ่ง รู้สึกว่าทั้งสองนี้ราบรื่นแล้วเวลานี้นะ ให้ทุกคนอุตส่าห์พยายาม
เสียสละเพื่อชาติไทยของเราไม่เป็นไรแหละ เงินในกระเป๋าของเราสู้สมบัติในคลังหลวงไม่ได้นะ สมบัติเงินทองเรามีมากน้อยไม่เอาบ้านเมืองเราขึ้นได้นะ แต่สมบัติในคลังหลวงเอาบ้านเมืองของเรายับยั้งไว้ได้ขึ้นได้ ให้พิจารณาจุดนี้ให้ดี สมบัติในคลังหลวงเป็นสมบัติของคนทั้งชาติ อุ้มคนทั้งชาติได้ สมบัติในกระเป๋าของเรานี้อุ้มแต่เราคนเดียวก็จม ถ้าลงชาติได้จม เรามีกองเท่าภูเขาก็จมไปด้วยกันหมดในสมบัติของคนคนเดียวนั้น ให้จำข้อนี้ไว้อีกนะ
วันนี้ให้เขาไปภูวัว ฝนคงไม่เป็นไรละตกขนาดนี้ไม่ทำทางให้เสียได้ เราคิดว่าไปได้ วันนี้ก็จะไปละ ภูวัว อันนั้นก็ส่งอย่างเต็มเหนี่ยวๆ เต็มที่ ๆ ทุกครั้งตลอดมานะ ได้สิบปีกว่าแล้ว ตั้งแต่เราไปเจอทีแรกจนกระทั่งป่านนี้สิบปีกว่าแล้ว ทุ่มกันเลย รถ ๔ คัน เต็มเอี๊ยด ๆ ๖ ล้อ ก็มี ๔ ล้อก็มี บองกันขึ้นเต็มเอี๊ยด ๆ เลย เทลงนี้กองเท่าภูเขา เป็นอย่างนั้นนะ เราทำเพื่อศาสนานี้ เพื่อจะรักษาบำรุงพระท่านให้มีกำลังวังชาในการปฏิบัติธรรม เราจึงมีความเป็นห่วงมากทีเดียว หมดเป็นหมด ยังเป็นยัง เราไม่เหลาะ ๆ แหละ ๆ เหมือนใครนะ หยิบตั๊บ ๆ เหมือนตังเมเราทำไม่ได้นะ เข้าใจไหมตังเม ดึงแล้วดึงเล่า ดึงแล้วดังตั๊บ ๆ ความตระหนี่มันฟาดลงไปดังตั้บ ๆ ไม่ได้กับเรา ขาดสะบั้นเลย ให้โคตรหนังสะติ๊กมาเถอะ ขาดหมดทั้งโคตรเลย เราเอาจริง ๆ ผึงๆ นี่ก็ไปแล้ววันนี้
เมื่อวานทองคำได้ ๑ บาท ดอลลาร์ได้ ๑๓ ดอลล์ ที่พูดให้พี่น้องทั้งหลายทราบเมื่อตะกี้นี้กรุณาทราบตามนี้นะ ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวง ๔ พันกิโลนั้น ได้มอบเข้าคลังหลวงไว้แล้ว ๒,๕๕๐ กิโล ยังขาดอยู่อีก ๑,๔๕๐ กิโล จะครบจำนวน ๔ พันกิโล.ทองคำที่ได้หลังจากการมอบคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๗๘ กิโล ๒๒ บาท ๗๒ สตางค์ ทองคำต่อยอดจากเงินโครงการช่วยชาติ ๘๐๐ ล้านนั้น ซื้อทองคำได้ ๒,๐๑๒ กิโลครึ่ง เท่ากับ ๑๖๑ แท่ง มอบเข้าคลังหลวงไว้เรียบร้อยแล้ว รวมยอดทองคำที่มอบเข้าคลังแล้วเวลานี้ได้ ๔,๕๖๒ กิโลครึ่ง เท่ากับ ๓๖๕ แท่ง รวมยอดทองคำทั้งที่มอบแล้วและยังไม่ได้มอบเป็นจำนวนทองคำทั้งหมด ๔,๖๔๐ กิโลครึ่ง ซึ่งเท่ากับน้ำหนัก ๔ ตัน กับ ๖๔๐ กิโลครึ่ง กรุณาทราบตามนี้ เราจะต่อนี้ขึ้นไปเรื่อย ๆ