มองเห็นเด็กมีระเบียบสวยงาม มีสติสตังตั้งหน้าต่อการได้ยินได้ฟังนี้ก็รู้สึกเป็นมงคลนะ เพียงเด็กนั่งเป็นระเบียบ มีตั้งท่าตั้งทางในทางความดี อย่างเช้าวันนี้เป็นต้น ต้นเหตุก็คือเด็กมานี้เพื่อชมพระบารมีท่าน ที่เสด็จมาโปรดเมตตาชาวพี่น้องเมืองอุดรเรา เด็กมานี้มีความยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งหน้าตั้งตามีสติสตังระมัดระวังตัว เหล่านี้เป็นส่วนความดีงามประจำเด็กประจำบุคคลทั่ว ๆ ไปทั้งนั้น ถัดจากเด็กมาก็คือพวกเราทั้งหลาย สติสตังจะมุ่งหน้าต่อความดีงามเป็นอย่างมากทีเดียว ซึ่งเป็นความระมัดระวังที่ถูกที่ดีที่เป็นสิริมงคล การปล่อยตัวจึงไม่ใช่ของดี
ถ้าอยู่ตามปรกติก็เรียกว่าปล่อยตัวโดยหลักธรรมชาติ ไม่สำรวมระวัง แล้วสิ่งที่คอยฉุดคอยลากคือฝ่ายต่ำ ความคึกความคะนอง ความดีดความดิ้นเพื่อลงทางต่ำ มันก็ฉุดลากไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นนิสัยของระหว่างฝ่ายต่ำกับตัวของเราเอง ถูกฉุดลากไปตามอำนาจของเขา เรานั่งอยู่ด้วยกันนี้มากต่อมาก จะเป็นเจตนาความระมัดระวังสติสตังที่เป็นกุศลความดีงามทั้งนั้น วันนี้จึงเรียกว่าเป็นวันมหามงคลของเราเฉพาะเวลานี้ในบริเวณนี้ ก็เพราะสาเหตุหลักท่านเสด็จมา นี่ก็เป็นเครื่องดึงดูดความเป็นสิริมงคลของพี่น้องทั้งหลายให้ได้สั่งสมขึ้นมากขึ้น ด้วยการเห็นการได้ยินได้ฟังการสำรวมระวัง มีแต่เรื่องความเป็นมงคลทั้งนั้น นี่ท่านเรียกว่าธรรม
การปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ใช่ของดี ปล่อยเลยตามเลยก็หาราค่ำราคาไม่ได้ ภูเขาไม่มีใครตำหนิเขานะ แต่คนตัวเล็ก ๆ ก็ตามมันต่างกับภูเขาทั้งลูก มีตำหนิได้ มีชมได้ เพราะคนแต่ละคน ๆ มีคุณค่าประจำตัว ๆ ที่ควรแก่การตำหนิติชมอยู่เสมอไป ถ้าเราไม่ระวังก็ถูกตำหนิติเตียนไปเรื่อย ๆ ถ้าระมัดระวังทำตัวเป็นคนดีก็ได้รับการชมเชยจากผู้อื่นด้วย มีความปลื้มปีติยินดีในตัวเองด้วย นั่นละท่านเรียกว่าธรรม ธรรมมีสติสตังระมัดระวัง ปัญญาคอยสอดส่องความดีชั่วของตัวเองและของกิจการงานต่าง ๆ ไปจากใจ สำรวมระวังเสมอ นี่เรียกว่าเป็นนิสัยของชาวพุทธเรา ควรจะมีเครื่องยับยั้งตัวเองด้วยสติปัญญา พิจารณาเหตุผลดีชั่วต่าง ๆ จะไม่ค่อยเสียคน ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งถึงโตเฒ่าแก่ชรา ตายไปเหมือนซุงทั้งท่อนไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะความปล่อยตัว
ให้มีความระมัดระวังตัวของเราในความดีงามทั้งหลาย เพราะเราเกิดมาทุกคนหวังความดีงามด้วยกันทั้งนั้น ควรจะได้ความดีงามติดตัวไปด้วยความสำรวมระวังรักษาตัวเอง พินิจพิจารณาในกิจการต่าง ๆ อย่างนี้ดี นี่ท่านเรียกว่าธรรม ถ้าธรรมอยู่กับผู้ใดผู้นั้นเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองไม่เลือกที่อยู่ อยู่กับตัวเอง ความเคลื่อนไหวของเราเอง จะไปทางถูกทางผิดอะไรก็ดี จึงต้องให้สำรวมระวังเสมอ นี่เรียกว่าชาวพุทธ ควรได้สำรวมระวัง เช่นอย่างพระท่านอยู่ในป่า อย่างนี้เห็นไหม บริเวณนี้เราไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเลย เราสงวนไว้สำหรับพระท่านบำเพ็ญเพียรของท่าน ทั้งวันทั้งคืนท่านทำความเพียรเพื่อชำระจิตใจของท่านตลอดเวลา อย่างนี้ตลอดมา จึงต้องให้เป็นวรรคเป็นตอนสำหรับประชาชนกับพระกับเณรผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งมีความเคลื่อนไหวต่างกันตั้งแต่จิตใจออกไป
พระท่านเคลื่อนไหวทางด้านธรรมะ มีสติสตังระมัดระวังรักษาตัว คือใจสำคัญมากทีเดียว ถ้าใจได้พาเสีย เสียหมดทั้งคน เสียหน้าที่การงาน เสียไปหมด ตลอดบ้านเมืองล่มจมได้ ถ้าความสำรวมความระมัดระวังรักษาไม่มี ถ้ามีสติสตังระมัดระวังรักษาตัวและสมบัติของตัว ตลอดส่วนรวม กระทั่งถึงชาติบ้านเมือง ต่างคนต่างรับผิดชอบด้วยกันแล้ว บ้านเมืองก็นับวันเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ คำว่าเจริญ แผ่นดินก็แผ่นดินอยู่นั้น ต้นไม้เป็นต้นไม้ ภูเขาเป็นภูเขา แต่ความที่จะรับสุขรับทุกข์เพราะความเจริญและความเสื่อมนี้คือมนุษย์เราที่อยู่ในแผ่นดินอันนี้
เฉพาะอย่างยิ่งคือเมืองไทยของเรา ควรจะมีศีลธรรมประจำใจไปด้วยกันทุกคน ๆ จะมีการเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับลำดานะ การปล่อยเนื้อปล่อยตัวนี้มีแต่ทรุดลง ๆ นี่ละคำว่าเจริญหรือเสื่อมอยู่กับมนุษย์ผู้ครองแผ่นดิน เช่น ครองแผ่นดินไทยเรา ก็มนุษย์คนไทยทั้งชาตินั้นแหละครองแผ่นดินไทยด้วยกัน แผ่นดินไทยเจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมทราม ไปจากมนุษย์เราผู้ครองบ้านครองเมืองครองแผ่นดินนี้นะ จึงต้องให้ระมัดระวังรักษา อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนเกินไป ทุกสิ่งทุกอย่างการอยู่การกินการใช้การสอย ขอให้มีความระมัดระวังมีขอบมีเขตพอดิบพอดี อย่าให้เลยเถิดไป อะไรก็จิ๊บ ๆ แจ๊บ ๆ ตื่นมานี้เอาอาหารว่างอะไรเลี้ยงเข้าไปในปากแล้ว ก่อนที่น้ำจะเข้าไปล้างหน้าของเรา ต้องเอาอาหารว่างเข้าไปเลี้ยงเสียก่อน อย่างนี้ละมันเคยตัว
ตื่นขึ้นมาหาคว้านั้นคว้านี้มากินเสียก่อน อยากล้างหน้าเมื่อไรก็ล้าง ไม่ล้างก็มอมแมมไปทั้งปากทั้งหน้านั้นละ เป็นอย่างนี้ทั่วเมืองไทยน่าดูไหม นี่คือความไม่ระมัดระวัง อย่างนี้ละมันสาดกระจายไปหมดทั่วเมืองไทยเรา ต่างคนต่างเป็นอย่างเดียวกันนี้เป็นยังไง นับแต่หลวงตาบัวลงไป ตื่นขึ้นมาก็ โยม ๆ ไปเอาขนมมา วันนี้อาตมาหิวมาก ฆ่าคนก็ได้นะ เวลานี้กำลังโมโห ไปหาข้าวต้มขนมมาให้อาตมาล้างหน้าเสียก่อน เวลานี้มันมอมแมมด้วยความหิวนะหลวงตา แล้วก็เอามาล้างหน้า
ทีนี้ญาติโยมก็ไม่ได้อยู่ได้หลับได้นอนละ หาวิ่งแต่อาหารมาล้างหน้าพระวัดป่าบ้านตาดทั้งหมด มีแต่พระหาอาหารการบริโภคมาล้างหน้าก่อนน้ำ นี่เป็นยังไงพิจารณาซิ แล้วพวกญาติโยมก็เอาอีกแหละ ทั้งจะหาอาหารมาล้างหน้าพระ ทั้งจะหาอาหารมาล้างปากตัวเอง ก็มอมแมมไปด้วยกันหมด สุดท้ายเฉพาะเมืองอุดรเรานี้มีแต่พวกมอมแมมด้วยความหิวโหย ล้างปากล้างท้องยิ่งกว่าการล้างหน้า ยิ่งกว่าการพิจารณาเหตุผลดีชั่วต่าง ๆ ประจำตัว นี่เสีย พากันพิจารณาไว้ให้ดี เรายกตัวอย่างมา แล้วกระจายออกไปทั่วประเทศไทย คนหนึ่ง ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วดูได้ไหม ถ้าต่างคนต่างสำรวมระวัง ต่างคนต่างมีขอบเขตเหตุผลมีหลักมีเกณฑ์ สวยงามทั้งประเทศไทยเรานะ
คิดดูหมาเราเลี้ยงไว้ หมานี้เขามีวินัยนะ หมาวัดป่าบ้านตาด เวลาเขาเข้าในกรงแล้วใครไปเพ่นพ่านเขาวอกวากใส่เลยทีเดียว มายุ่งทำไม นั่นเห็นไหมล่ะเขามีวินัยเขา พรวดพราดเข้าไปเขาไล่กัดเอาหลงทิศไปนะ ถ้าไปธรรมดาเขาไม่มีอะไร นี่เรียกว่าเขามีวินัย เราก็ให้มีวินัยซิ สุ่มสี่สุ่มห้าอะไรไม่ว่าใกล้ว่าไกล กิริยาท่าทางคละเคล้าไปด้วยความสกปรกโสมมใช้ไม่ได้คนไม่มีวินัย วินัย แปลว่าเครื่องกำจัดความชั่วช้าลามก ท่านเรียกว่าวินัย ๆ เครื่องกำจัดความชั่วช้าลามกทั้งหลายออกจากกายวาจาใจของเรา นั่นท่านเรียกว่าวินัย เพราะฉะนั้นขอให้มีวินัย
วันนี้ยกหมามาพูดบ้าง เพราะหมากับคนอยู่ด้วยกัน หมาเป็นยังไงก็กระเทือนถึงเจ้าของหมา ถ้าหมาดีก็เจ้าของดี รักษาหมามีกฎมีระเบียบ หมามีวินัยแสดงว่าเจ้าของก็มีวินัย ถ้าหมาเลอะเทอะเจ้าของหาวินัยไม่ได้ เลอะเทอะไปหมด ความหมายว่าอย่างนั้นนะ มันส่อไปทุกอย่างจากคนนี้แหละไม่ใช่จากใคร หมาเขาจะไปรู้เรื่องรู้ราวอะไรว่าเขามีวินัยไม่มีวินัย เราไปว่าให้เขาต่างหาก เขามีวินัยอะไร เวลานี้เขาอยู่ในกรง พอเปิดประตูให้ก็โวกวาก ๆ ออกมาเท่านั้น เขาไม่มีวินัยอะไร
เรามีวินัยให้พากันปฏิบัติรักษาตัวให้ดีนะ การอยู่การกินการใช้การสอยอย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินประมาณ การอยู่ให้อยู่พอเหมาะพอดี อย่าสร้างหอปราสาทราชมณเฑียรขึ้นในแดนมนุษย์นี้ ไปแข่งหอปราสาททิพย์ในเมืองสวรรค์ แข่งเท่าไรก็จมไปเท่านั้นไม่เกิดประโยชน์ เรียกว่าเย่อหยิ่งเกินภูมิของมนุษย์ไป ซึ่งผิดกับภูมิทิพย์ภูมิเทวดาอินทร์พรหมเป็นไหน ๆ เหล่านั้นเกิดมาจากบุญจากกรรมของท่านผู้สร้างบุญกรรมไว้ทั้งเขาทั้งเรานั้นแหละ สร้างไว้ยังไงก็ไปครองหอปราสาทราชมณเฑียรสมบัติทิพย์บนสวรรค์ชั้นพรหม นี่เกิดขึ้นจากทิพย์ ใครไปตกแต่งไม่ได้ เป็นเรื่องเจ้าของตกแต่งบุญกรรมของเจ้าของแล้วขึ้นไปเสวยเอง
ส่วนแดนมนุษย์นี้เราหากันเต็มกำลังความสามารถด้วยกันทุกคน จึงให้รู้จักประมาณในการเสาะแสวงหาในการอยู่ อย่าปลูกบ้านปลูกเรือนจนกระทั่งระฟ้า เทวดาอินทร์พรหมทั้งหลายพังลงหมด สู้หอปราสาทมนุษย์ที่สำเร็จไปจากอิฐจากปูนจากหินจากทรายนี้ไม่ได้ พวกนั้นพังทลายไปหมด พวกนี้ทำลายเอา อย่างนี้มันเป็นอฐานะนะเป็นไปไม่ได้ อย่าพากันดีดกันดิ้นจนเกินเหตุเกินผล อยู่ยังไงพออยู่ให้อยู่ พ่อแม่ปู่ย่าตายายมาท่านพาสงบเสงี่ยมไม่ลืมเนื้อลืมตัว ท่านดำเนินมายังไง เราอย่าคึกอย่าคะนองแซงหน้าแซงหลังพ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรา จะเป็นความเสียหายอย่างมากทีเดียว ให้พากันมองดูผู้ใหญ่ท่าน ดำเนินตามผู้ใหญ่ เด็กเดินตามครูดี ถ้าแซงครูแล้วไม่ดีละ ให้เราจำไว้ นี่การอยู่ สถานที่อยู่ยังไงพออยู่-อยู่กันไป พออาศัยร่างกายวันหนึ่งเพื่อสร้างความดีต่อตัวเองนี้เท่านั้น
การใช้สอยก็เหมือนกัน อย่าสุรุ่ยสุร่าย บ้านหนึ่ง ๆ ไปนับดูซิรถยนต์ มันเกินไปแล้วนะ รถยนต์บ้านหนึ่งมีมากกว่าคนในอุดรนี้อีก บ้านหนึ่ง ๆ มันมากขนาดไหน บ้านหนึ่งมีรถยนต์กี่คัน เมืองอุดรยังสู้ไม่ได้ บ้านเดียวเท่านั้นชนะหมดในเมืองอุดร เพราะต่างคนก็ต่างมีรถยนต์ สุดท้ายก็เมืองอุดรรบกันด้วยการฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ด้วยการใช้การสอยไม่รู้จักประมาณ นี่ก็ทำให้เสียเรา การเสาะแสวงหาสิ่งเหล่านี้มาไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่จะได้มานั่งโก้เก๋นี่นะ รถยนต์คันหนึ่งราคาเท่าไร เราต้องคิดเสียก่อนซิ เงินทองที่จะหามาซื้อรถยนต์คันหนึ่งราคาเท่าไร แล้วเอามาใช้นั่งโก้เก๋เกิดประโยชน์อะไร ความเดือดร้อนเกิดจากผู้หาเองนะ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ รถยนต์จะมาเกยหน้าบ้านเลยไม่มี ต้องเสาะแสวงหาแทบเป็นแทบตายกว่าจะได้มาใช้ เอามาใช้เท่าที่จำเป็น ๆ ไม่จำเป็นอย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม
ความฟุ้งเฟ้อนี้ทำคนให้เสียมากต่อมากแล้ว ไม่ใช่ทำคนให้ดี ความฟุ้งเฟ้อไม่มีอันใดเป็นชิ้นดี มีแต่ทำให้คนเสีย มันดีดมันดิ้นล่ะซิ อยากได้อะไรก็ต้องดีดต้องดิ้น ไม่ดีดไม่ดิ้นก็วิ่งเต้นขวนขวายหากองทุกข์มากองเต็มอยู่นั้นหมด สุดท้ายก็ติดหนี้ติดสินพะรุงพะรัง ซื้อรถยนต์ซื้อเงินผ่อนซื้อเงินสด อะไรซื้อไปหมด ซื้อดะไปหมด ติดหนี้ติดสิน จ่ายค่างวดไม่ได้เขาก็มายึดไปๆ มีแต่ความบอบช้ำเท่านั้นเพราะความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมของเรา ไม่รู้จักประมาณเอง ให้คิดให้ดี นี่ละธรรมท่านสอนอย่างนี้ให้พากันเอาไปคิด อย่าเกินเนื้อเกินตัว มนุษย์เราเท่ากับมนุษย์ทั้งหลายนั่นแหละ ใครจะชิงดีชิงเด่นไปไหนถ้าไม่ดีชิงไปเท่าไรยิ่งเลว ถ้าดีอยู่ที่ไหนอยู่ในถ้ำในเหวดีทั้งนั้น อยู่ในบ้านในเรือนออกไปที่ไหนดี ดีอยู่กับคน ไม่ใช่ดีอยู่กับสถานที่เครื่องประดับประดาตกแต่งเฉยๆ สิ่งเหล่านี้มาประดับประดาตกแต่งพอดูได้เท่านั้น ไม่ถึงกับต้องเป็นความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม จนกระทั่งไม่มีอะไรจะกิน จะอยู่จะใช้จะสอย เพราะความขวานขวายหามาเพื่อปรนปรือตัวเอง มันมากต่อมาก หาไม่ทันจมไปได้ๆ คนเรา จึงขอให้พากันอยู่กันกิน การใช้สอยให้พอดิบพอดีทุกสิ่งทุกอย่าง ให้จำเอานะลูกหลาน
มองเห็นเด็กนี้ เด็กก็จะเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เด็กควรจะได้รับการศึกษาอบรมจากผู้ใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่ดีเด็กก็จะดีไปตาม ถ้าผู้ใหญ่เลวเด็กก็จะเลวไปตาม ให้ถือว่าเรานี้คือแบบพิมพ์ของเด็ก ถ้าเราดีแล้วเด็กก็จะค่อยดีไปตาม เพราะเด็กแต่ละคน ๆ มีพ่อมีแม่เป็นรั้วกั้นไว้เสมอๆ พ่อแม่ดีรั้วกั้นก็ดี เด็กก็กลายเป็นเด็กดีไปด้วย ถ้าพ่อแม่โกโรโกโส ขอบเขตของการประพฤติปฏิบัติตัวไม่มี เหลวแหลกแหวกแนว เด็กเกิดมาก็กลายเป็นเด็กเหลวแหลกแหวกแนวไปตามๆ กันหมดไม่ดี
วันนี้ก็เป็นวันมหามงคลของพวกเราทั้งหลาย เจ้าฟ้าท่านเสด็จมาโปรดพวกพี่น้องเฉพาะอย่างยิ่งชาวอุดรเรา นับว่าเป็นสิริมงคลแก่พวกเราทั้งหลายเป็นอย่างมาก วันนี้ท่านก็จะได้เสด็จกลับแล้ว เพราะภาระของท่านมีมากต่อมาก มากกว่าเราเป็นไหนๆ เราอย่าว่าคนนั้นยุ่งคนนี้ก็ยุ่ง เอาแต่ความยุ่งเท่ากำปั้นมาอวด แล้วดูความยุ่งของท่านที่ครอบฟ้าครอบแผ่นดินในเมืองไทยของเรา มาเทียบดูซิยุ่งมากขนาดไหน ท่านไม่เห็นบ่นอะไร เรานี้ปิ๊ดแป๊ดๆ มีแต่บ่นๆ ใช้ไม่ได้นะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้แหละ ให้ลูกหลานทั้งหลายเอาไปเป็นคติเครื่องเตือนใจ ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ