เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๒

การรับรองความปลอดภัยของกิเลส

ทั้งเหยียบย่ำทําลายกิริยา การแสดงออกของเรา ซึ่งมาจากจิตใจ อยู่ตลอดเวลา คนมันน่าวิตกนะ เพราะยังไงมันก็ต้องไปข้างหน้า วันนี้มี วันพรุ่งนี้ไม่มีได้ยังไง เอา ปฏิเสธสิ เมื่อวานนี้มีไหม แล้ววันนี้เห็นอยู่นี่ แล้ววันพรุ่งนี้จะมีไหม เนี่ย ทั้งสามนี้มันมีน้ำหนักเสมอกัน อดีต ปัจจุบัน อนาคต เสมอกัน มีอดีต ปัจจุบัน อนาคต ของจิตใจโลก ที่จะท่องเที่ยวในวัฏสงสาร ก็มีน้ำหนักเท่ากัน เมื่อวาน วันนี้ วันพรุ่งนี้นั่นเอง จึงมานี้ๆ วันนี้ แล้วก็วกกันไปเวียนกันมาอย่างนี้ นี่คือความตายตัว ตายตัวของเหล่าธรรมชาติ แห่งจิตใจของสัตว์โลกที่มีเชื้อฝังอยู่ภายใน จะเป็นอย่างนี้ด้วยกัน สูงๆต่ำๆ ลุ่มๆดอนๆ อย่างงี้ตลอดมากี่กัปกี่กัลป์

ผ่านมาก็เหมือนเมื่อวาน ปัจจุบันนี้ก็เหมือนวันนี้ แล้ววันพรุ่งนี้ คือตายแล้วก็จะไปอีกแบบเดียวกัน วิตกวิจารณ์ซะแล้ว เรื่องการไป ยังไงก็ไป ทีนี้ สิ่งที่จะพาให้ไป มันเห็นอยู่นั่น มันจะพาลงกองฟืนกองไฟ กิเลสปิดหูปิดตา บอกว่า อย่ากลัวๆ อือ ไม่มีภัย เราจะพาไป บอกไม่มีภัย กิเลสมันบอกว่า เราจะพาไป ไม่ต้องกลัว ไม่มีภัย เดี๋ยวจะพาไป มันก็จูงๆ สัตว์ตัวนี้ลงเหว โยนตัวนี้ลงบ่อ โยนตัวนี้เข้าฟืนเข้าไฟ โบกมือเรียกให้มา เราจะพาไป ปลอดภัย อืม ไม่ต้องกลัว กิเลส เห็นไหม แล้วมา สัตว์มันก็จับโยนลงอยู่อย่างงั้นตลอดนะ โยนลงหลุมลงบ่อ เข้าฟืนเข้าไฟ เป็นขั้นๆ เป็นขั้นของกรรมชั่ว คนๆนั้น หนักเบามากน้อย ใครมีหนักก็ลงตูมเลย อือ กิเลสมันก็บอกว่าไม่ต้องกลัว ภัยไม่มี เราเป็นผู้นํา ไม่ต้องกลัว

วันนี้จะเปิดหน้ากากกิเลสให้ฟัง เป็นอย่างเงี้ย กิเลสท้าทายสัตว์โลกเรา สัตว์โลกเราโง่ขนาดนั้นน่ะ ฟังสิเนี่ย กิเลสบอกว่าไม่ต้องกลัว โบกมือเรื่อย ไหลกันมาเรื่อย แย่งกันมา ที่มันมา มาตามที่กิเลสโบกมือเรียก อ่ะ มา มา ปลอดภัย เรารับรองหมด ไม่ต้องกลัว ภัยไม่มี ถ้าไปกับเราแล้วล่ะ แล้วโบกมือครั้งนี้ก็ไหลลง ไปกับเราแล้วๆ เราก็ไสลงๆๆ อันนี้เปรต อันนี้ผี อันนั้นสัตว์เดรัจฉาน อันนั้นสัตว์นรกประเภทนั้นๆ ไสลง ไสลง ไสลง เดี๋ยวโบกมือเรื่อย อ่ะๆ มา เรารับรอง ฟังใช่ไหม บอกว่ากิเลสมันรับรอง นี่เราเรียกว่า มันโกหกไหม ฟังสินะ มันรับรอง บอกว่า มา ปลอดภัยไม่ต้องกลัว สัตว์โลกทั้งหลายก็ไหลลง ไหลลง ไหลลงมานี่ กี่กัปกี่กัลป์แล้ว มันรับรองมาอย่างนี้ เรายังจะเชื่อคํารับรองของกิเลสอยู่เหรอ อ่ะ พิจารณา ชาวพุทธเรา วันนี้เปิดอกให้เห็น เราเห็นหมด นี่ จะว่าไง อุบายกลภูมิปัญญาของกิเลส ที่มันหลอกลวงสัตว์โลก

พระพุทธเจ้าจึงท้อพระทัยเลยนี่ อือ มาชิงกันมาตามกิเลส ถ้าเรื่องกิเลส กระซิบออกมาแค่ไหน นี่วิ่งตามๆ เลยนะ เพราะมันดันยืนยันไว้ว่า ให้มา เรารับรอง ปลอดภัย เนี่ย ความยืนยัน ความโลภก็ปลอดภัย ความโกรธปลอดภัย ราคะ ตัณหา ปลอดภัย ทั้งๆที่สิ่งเหล่านี้คือมหาภัย มันบอกว่าปลอดภัย เอามาเถอะ เรารับรอง เห็นไหมล่ะ มันรับรอง แล้วมันจริงตามที่มันรับรองไหมล่ะ สัตว์โลกกองกันอยู่ในโลก มีแต่มันรับรองทั้งนั้นล่ะ เห็นไหม กิเลสรับรอง ฮึๆๆ

โอ้ย พูดแล้วเราสลดสังเวชนะ โห มันขนาดนั้นนะ มันรับรองมาตลอด แล้วมันจะรับรองไปตลอดนะ รับรองแบบนี้แหละ แบบตัดไสลง มีแต่ไสลงนะ ขึ้นไม่มี แต่มันรับรองว่าปลอดภัย มาเถอะ มากับเรา ถ้ามากับเราแล้วปลอดภัยทั้งนั้น เอาเถอะ ว่างั้นเลย ใครจะไม่กล้าหาญ ยิ่งลูกศิษย์วัดป่าบ้านตาดด้วยแล้ว โอโหย มันจะไม่กินข้าวนะ ออกทางนี้มันจะวิ่งตามกิเลส พอกิเลสโบกมือคอยอยู่ฟากกําแพงนั่น ไม่ได้หิวข้าวนะ ต้องวิ่งตามกิเลสเสียก่อน ค่อยกลับมา แต่มันไม่ได้กลับ ไปมันก็ไสลงโน้นจนเงียบเลย ข้าวก็ไม่ได้กิน ฟาดลงนรกอีกด้วย นี่กิเลสรับรอง เข้าใจไหม ท่านทั้งหลายพิจารณา เนี่ย เราอกแตกเลยนะ ด้วยความสงสารโลกเนี่ยนะ เพราะมันเห็นจริงๆ พอพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เอก โกหกอีก หกลบยังไง กิเลสมันก็รับรองว่าแบบนี้

พระพุทธเจ้า พระองค์ก็ไม่ได้บอกว่ารับรอง แต่บอกว่าผิดเป็นผิดถูกเป็นถูก ไม่มีสองเลย คือพระพุทธเจ้า ก็เรียกว่ารับรอง ภาระธรรมตรัสว่าชอบแล้วนี่ คือว่ารับรองเรียบร้อยแล้ว ไม่งั้นไม่ยอมไป กิเลส มันดีดดิ้น มัน เอ้อ พิลึกพิลั่นนะ เราเคยดุว่า ถ้าหากว่าเป็นรูปร่างจริง มาแสดงอย่างที่เค้ามาแสดงในทีวีแล้วนี่ โอ้ย สลบเลยเถอะนะ คือเปิดเวลาให้ข้างฝ่ายดีห้านาที ฝ่ายชั่วเปิดห้านาที ให้ดูให้เห็นในเวลาห้านาทีนั้น ให้ทั่วถึงหมด ในบรรดาวัฏจักร

พูดง่ายๆ ว่าวัฏจักร ลงจนสุดที่ของวัฏจักร ไปตรงไหนแล้วเห็นหมด ความเป็นทุกข์เป็นภัยที่จะเกิดหลอกลวงต้มตุ๋น โบกมือไม้ด้วย ความรับรองความปลอดภัยของมันต่อสัตว์ โบกมือมา ไหลลง ไหลลง แล้วให้ดูที่กิเลสมันหลอก ให้ดูทั้งฝั่งของกิเลสด้วยนะ ไม่ให้ดูที่สัตว์โลกไปตก ใครพาให้มันตก เพราะกิเลสตัวนี้มันโบกมือ เนี่ย ดูกิเลสมันเนี่ย มันหลอกลวงสัตว์โลก โบกมือให้มา ให้มา รับรองไม่มีภัย ถ้ามากับเราแล้วไม่มีภัย เอ้า มาเถอะๆ สัตว์โลกนี้ไหลลง ไหลลง ไหลลง อ๋อ ยิ่งไฟเปลว ไฟนรกด้วยแล้ว มันนั้นชี้ให้เห็นหมด ทั้งกิเลสที่มันโบกมือ รับรองความปลอดภัยให้สัตว์โลกนะ แล้วดูทั้งสัตว์โลกที่ลงไปสู่ความปลอดภัย เข้าใจไหม

ความปลอดภัยของสัตว์โลกมีแต่ลงอเวจี เปรตผีประเภทต่างๆ เต็มโลกธาตุ เกลื่อนไปหมด เนี่ย กิเลสมันโบกมือว่า มาหาความปลอดภัยของมัน นี่ความปลอดภัยของกิเลส เข้าใจไหม เนี่ย ความปลอดภัยของกิเลสที่รับรองสัตว์โลกเป็นอย่างนี้ แล้วให้ดูให้ชัดเจนมาก ทั้งผลที่สัตว์โลกเชื่อมันจนตกนรก อือ ทั้งต้นเหตุที่มันมีมา รับรองความปลอดภัยของโลก ให้เห็นทั้งตัวกิเลสที่มันหลอกลวงด้วย เห็นทั้งสัตว์โลกที่เชื่อมัน แล้วลงไปจมในผลของตัวเองที่เชื่อมันด้วย ให้เห็นในห้านาที ไม่ต้องเอามากนะ คือให้เห็นให้หมดเลย ในแดนวัฏจักรที่เป็นสถานที่ทรมานสัตว์โลก ด้วยคำบอกของกิเลส รับรองความปลอดภัย ให้เราได้เห็น ห้านาที ดูหมดพอดี ห้านาที เอาปิดฉากนี้ปุ๊บ เปิดฉาก ทําขึ้นมา เอ้า เปิดฉากทำขึ้นมาตั้งแต่พื้นความเป็นมนุษย์นี้ ใครทำดีชั่วมีอยู่ ทางใฝ่ต่ำก็เห็นแล้ว ทางมนุษย์เรานี้มันยังเพลินบ้าอยู่ มันจับคน ทั้งเฒ่าทั้งแก่ ทั้งสาวหนุ่ม ทั้งก้างทั้งกระดูก มันเคี้ยวมันกลืนไปด้วยกันนั่นล่ะ มนุษย์เรา ไม่ใช่กินแต่เนื้อนะ มันกลืนทั้งกาก ทั้งก้างทั้งกระดูกด้วย กินไปด้วย หัวเราะเฮฮาเป็นบ้าไปด้วย เนี่ยอันหนึ่ง แล้วทีนี้ก็ขึ้น สูงขึ้นๆ แดนสวรรค์ อือ เอาสูงขึ้น สวรรค์ชั้นนี้เป็นยังไง อ่ะ ให้ดู อือ มีหลายส่วน ว่างั้นเลย อือ เหมือนกับแดนนรก วัฏจักรนั้นเห็นมาหมดแล้ว ไม่สงสัย ทีนี้แดนตั้งแต่พื้นนี่ขึ้นไปหาวัฏจักรถึงนิพพาน เอาตั้งแต่พื้นๆเนี่ย พื้นมนุษย์นี้ไป เป็นพื้นจุดศูนย์กลางมนุษย์เรา ทั้งจะตกเหวจะลงบ่อ ทั้งจะไปสวรรค์ พวกพื้นมนุษย์นี่เป็นพื้นเนยยะกับปทปรมะ ไปกับปทปรมะฟัดกัน อยู่กับมนุษย์นี่เข้าใจไหม เอ้า ดู จากนั้นก็ดูแดนดีขึ้นไปเรื่อย เรื่อย

ตั้งแต่สวรรค์ขึ้นไป กี่ชั้น จริงไหม สวรรค์มีไหม เอาให้เห็นหมดทุกชั้น ตลอดเทวบุตรอันชั้นนั้นๆ มีต่างกันยังไง เทวดาที่เสวยผลบุญของตัวเอง ตามมากตามน้อยที่จะทํามา มากน้อยเพียงไร ให้เห็นชัดเจน

ชัดเจน ขึ้นไปหกชั้น ฟาดไปถึงพรหมทั้งหกชั้น แล้วก็บอกอีกสี่ชั้น นี่ชั้นนี้เป็นอย่างงั้นๆ ถึงชั้นฟ้าอนาคามี เป็นพรหมโลกเหมือนกัน แต่มีพรหมโลกห้าชั้นนี้ ที่สัตว์โลกที่เข้าไปนี้แล้วจะกลับ พวกนั้นต้องกลับมา เอ่อ อันนี้ให้ดู ตั้งแต่ อวิหา อตัปปา สุทัสสา สุทัสสี อกนิฏฐา คือพวกประเภทที่จะไม่กลับ รับรองยืนยันแล้ว กระทั่งขั้นอนาคามี

นอกจากนั้นหมุนไปให้ดู จากนั้นก็ถึงนิพพาน ไปยังไง ขึ้นนิพพาน นี่ก็ห้านาที นะ พอเห็นชัดเจน ทั้งฝ่ายดีฝ่ายชั่ว ประจักหัวใจห้านาที สมบูรณ์แบบด้วยกัน ไม่สงสัยแล้ว พอกลับมา ลืม จะสลบนะ ทีนี้จะให้เบิ่งความชั่วนี้ ถ้าไม่ทําชั่ว ตัดให้จัดเลย เพราะแดนนรกที่มันทุกข์ มันนานแสนนาน ทรมานทุกข์แสนสาหัส ยิ่งกว่าตัดคอนี่อีก นะ เป็นไหนๆว่างั้นเถอะ เพียงตัดคอตรงนี้ประมาณไม่กี่นาที

มันเอาทรมานกันนานๆไป ก็ไม่นานเท่าไปตกนรกนะ เอา ยอมให้ตัดเลย จะทำชั่วนี่ฆ่ากันไม่ได้แล้ว ทีนี้ขาดสะบั้นเลย นี่ล่ะ อันนี้กิเลสมันก็อย่างนี้จะให้ว่าไง อันนี้ก็เป็นแดนของกิเลสหลอกลวงสัตว์โลก อืม ใบรับรองติดฝ่ามือมันเรียบร้อยแล้ว ใบรับรอง ใบรับรองติดปากมันแล้ว มา มา ปลอดภัยทั้งหมดถ้ามากับเราแล้วนะ เนี่ย จมไปหมดเลย เนี่ย กิเลสสอนโลกให้จม ข้างพระพุทธเจ้า สวากขาตธรรมสอนโลก ฟื้นขึ้นมา ดึงขึ้นมา ให้เห็นทางนี้ ยังไงก็ไม่ทําบาป คนเรานะ อือ ตายก็ตายเฉยๆล่ะ เพราะอันนั้นมัน มันเหนือกว่าความทุกข์ที่เราจะรับทรมานในการตัดคอที่ไม่ทําบาปนะ อือ ขาดเลย ยอมให้ขาด ไม่ทำ เท่านี้ยัง เจ็บเพียงเท่านี้ไม่ตกนรก แต่จะไปความดี คือ ยอมตัดคอเสียสละเพื่อทําความดีอย่างเดียว เนี่ย ไม่ทําความชั่ว คอขาดทุกข์ขนาดนี้ ผึง เสวยสุข จนกระทั่งถึงบรมสุขนะ ยอมเสียสละ

คนเราเนี่ยเป็นอย่างนั้นนะ ทำขนาดนี้แล้วไม่อยู่ แต่นี่ที่เตรียมมา ที่ว่ามันเป็นเครื่องต้านทานกันอยู่ อย่างที่ว่ากิเลสกับธรรม โลกกับธรรม โลกกับธรรม โลกคือกิเลส ธรรมคือศาสดาองค์เอก ถ้าจะใฝ่ธรรม ทางนี้ดึงขึ้นทางเดียว ทางนั้นดึงขึ้นทางชั่ว อ่า กิเลสมันตัวหยาบโลน มันหน้าด้าน มันโบกมือได้สบายเลย มาเถอะ ปลอดภัย ปลอดภัย พระพุทธเจ้าไม่ว่างั้น ถ้าโบกมือก็โบกด้วยสวากขาตธรรม ตรัสด้วยชอบแล้วนะ ไม่มีสองนะ ว่างั้นเท่านั้นเอง ต่างกันอย่างนี้แหละ ส่วนกิเลสมันโบกมือด้วย โบกมือด้วยทีเดียว ตาของเราที่คอยดูกิเลสโบกมือนั่น ไอ้สองตานี้ไม่ขอดูนะ มันอยากได้คนละสิบตาสิบขา ดูกิเลสโบกมือ และอยากได้คนละสิบขา วิ่งตามกิเลสที่มันหลอกลงนรก เข้าใจไหม

ถ้าพระพุทธเจ้าแล้ว สองขายังมากไป ถ้าว่าอวัยวะที่พิการนั้น เอ้อ เป็นยังไงวะ วันนี้ชวนไปวัดนะ โอย วันนี้ไม่สบาย เห็นมั้ยล่ะ เออ วันนี้ไม่สบาย ไปไม่ได้หรอกๆ

อีกคนหนึ่ง คนนี้ก็ชื่อจีน อันนี้ก็เป็นคติตัวอย่างดี นี่เวลาแกตำหนิ แกก็ตําหนิถึงใจเหมือนกันนะ แกมาเล่าให้พวกเราฟัง เวลามัน มันมืดตื้อนั้นน่ะ แกบอกว่าเขามาชวนไปวัด โมโหให้เขานี่ โถ เคียดแค้น ว่างั้น เคียดแค้นเต็มเลย แล้วเขามาชวนไปวัด เขาเดินมาผ่านมานี่ เขาชวนไปวัด เขากําลังจะไปวัด แล้วเขาชวนเท่านั้นล่ะ เคียดแค้นเลย เขามันไม่ มันจะไปมันก็ไป มันจะมาชวนกูทำไม เครียดแค้น นี่ถ้าหากว่าเขามาทําให้เราเจ็บ อย่างอื่นเสียหาย นี่ฆ่าได้เลยว่างั้น นี่เขาชวนไปวัด ว่างั้นนะ มันยังอุตส่าห์โกรธ โกรธแค้นในเขาซิ โหย ตาดําตาแดง แกว่างั้น นี่จะตําหนิโทษแก

เวลาแกมาภาวนาจิต เป็นไปเรียบร้อยแล้วนะ ทีนี้มันคนคนเก่านี่แหละ แหม เวลามัน มันดํา มันดําจริงๆนะ จิตนี่นะ ว่า ว่างั้นนะ ภาษาเขา เขาชวนไปวัด แล้วมันไปโกรธเขาหาอะไร ว่างั้นนะ แกว่าของแกเองนะ แหม มันดําเหลือเกิน ว่างั้นนะ คือเวลานี้แกไม่เป็น นั่นแหละเอามาเทียบ นี่แหละจิตดวงนี้แหละ เวลามันเป็นอย่างนั้นมันก็เป็นอย่างนั้น

เวลามันคิดอย่างนั้นแล้ว มันก็ตําหนิเจ้าของด้วย เวลาที่ชั่ว นั่น พอนี่ดีขึ้นแล้วมันก็เห็นโทษถึงความชั่ว

มันก็เป็นอย่างนั้น นี่ก็เหมือนกัน ถ้ากิเลสได้โบกมือแล้ว จัดอะไรๆไม่มีความหมายแล้ว ถ้าวันไหนกิเลสมันจะออกมาสักสองรายเท่านั้นแหละ แล้วพระจัดอาหารให้ในครัวนี่ พระเลิกเลย เราสั่งให้พระเลิก เลิก ไม่มีความหมายแล้ว พวกนี้ไปเพลิดเพลินตามกิเลสหมด

เขาไปหาที่ปลอดภัยกับกิเลสหมดแล้ว เขาไม่ เขาไม่เอาล่ะ อาหารเหล่านี้เป็นภัยทั้งนั้น เขาจะไปหาที่ปลอดภัย เขาไปกันหมดแล้วในวัดนี้หมด ยิ่งในครัวไม่มีเหลือเลย ไปหาก็ แม้แต่กบเขียดหรือว่ากะจ้อนกะแจนอะไร ตามโน่น ศาลาโน่นแล้วน่ะ ไก่มากน้อยแค่ไหนนี่ จะไปตามพวกบ้านี้หมดเลย เขาไม่ยอมกินอะไร เพราะเหล่านี่เป็นภัย สู้ที่กิเลสประกาศว่าปลอดภัยไม่ได้ เข้าใจไหม ไปหมดเลย แล้วเวลาไปครัวเนี่ย ไปหาดูซะ ไก่มันมีเหลือสักตัวไหม หรือมันไปหมดแล้ว เจ้าของยังไม่ไป มันวิ่งก่อนเจ้าของด้วยซ้ำไก่ก็ดีนะ เข้าใจเหรอ มันไปหาที่ปลอดภัย เข้าใจไหม โอ้ย พูดแล้ว โอ้ย มันขบขันนะ โอ้ย กิเลสมันหลอกคนนะ สลับซับซ้อนมากทีเดียวนะ นี่ล่ะ ยกตัวอย่างพี่น้องทั้งหลายได้เห็น นี่คือความจริง อือ เป็นอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นสัตว์โลกถึงจมกับมัน มันเขียนใบรับรองยืนยันไว้หมด ถ้าอะไรเป็นความชั่วช้าละโมบ

มันเขียนให้มั่นใจต่อสิ่งนั้นสิ่งนั้น นั่นน่ะ สิ่งใดที่เป็นความดี ขาผุดขาด้วนไปเลย อวัยวะเสียไปหมด อือ

ไม่สบาย เลยล่ะ ใครก็มีไม่สบาย ชิงกันพูดล่ะ ไม่สบาย คนนี้ก็ไม่สบาย เดินจงกรมอยู่โน่น ก็ไม่สบาย คือเดินก็เดินด้วยความเซ่อซ่าเข้าใจไหม พอกิเลสสะกิดปั๊บ ไม่สบายเลย ออกจากทางจงกรมทันทีเลย หาความสบาย เข้าใจไหม พวกนี้หาความสบาย โอ้ย พูดแล้วมันก็สลดสังเวชนะ ขนาดนั้นน่ะ ธรรมพุทธเจ้าเลิศขนาดไหน เพราะฉะนั้นจึงท้อพระทัยที่จะมาสอนโลก คือโลกมันไม่ยอมรับ อํานาจของกิเลสนี่หนาแน่นขนาดนั้น ถึงขนาดที่ว่า โบกมือเลย ความมหาภัยเต็มตัว มันยังบอกว่า ปลอดภัย มันเอาจังๆทั้งนั้นกิเลส อือ ก็เหมือนกับอีตาล้านอยู่บ้านตาด เลยยกตัวอย่าง อีตาล้านอยู่บ้านตาด ชื่อมันชื่อว่างั้น

อ่านต่อได้ที่ ไฟล์ 2542-11-28 วัดป่าบ้านตาด.pdf