พระอภิธรรมปิฎกไม่มี?
วันที่ 23 กันยายน 2543
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

พระอภิธรรมปิฎกไม่มี?

(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๑,๐๐๐ คน)

(มาแล้วเจ้าค่ะ ถวายร้อยดอลล์) มาแล้วเหรอร้อยดอลล์ วันพรุ่งนี้ไปอีกนะ เมื่อวานนี้เขาก็เอามาตอนเย็นร้อยดอลล์ ทองได้ ๒๕ สตางค์เมื่อวานนี้ ดอลลาร์ได้ ๔๐ แต่เย็น ๆ มาอีก ๑๐๐ ดอลล์ วันนี้ก็ได้อีกร้อยดอลล์แล้วนี่ ดอลลาร์กับทองคำต้องเคียงข้างกันไปเรื่อย ๆ เงินสดก็เหมือนกัน สามกษัตริย์นี้ไปหนักแน่นด้วยกัน เพราะเงินหมุนเวียนนี้ก็ทั่วประเทศ เห็นไหมล่ะวันหนึ่ง ๆ ขาดเมื่อไร เฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลเราอยากจะพูดว่าไม่ขาดวันหนึ่ง ๆ นะ นาน ๆ จะขาดไปสักวันนึง โรงพยาบาลนี้หนักมากกว่าเพื่อน เราก็พยายามช่วยเต็มเหนี่ยว

เมื่อวานนี้ก็ไปทาง อ.เรณูนคร เลย อ.นาแก เข้าไปลึก ๆ ทางดูเหมือน ๒๕ กิโล จาก อ.นาแก เข้าไป ๒๕ กิโล วิ่งประมาณ ๑๙ นาที คือเราไปไหนมันหากเป็นนะ ชอบสังเกตตลอด จากนี้ไปนั้นเวลาเท่าไร ๆ กี่นาที กี่ชั่วโมง แยกนั้นแยกนี้เป็นกิโลที่เท่าไร ๆ มันหากสังเกต เป็นเองนะ เพราะฉะนั้นที่เรานำมาพูดเหล่านี้ จากความจำที่แต่ก่อนเป็นความจำได้ธรรมดา ๆ ทุกวันนี้ความจำไม่มี กินของเก่า ว่าไปที่นั่นเท่านั้นกิโล ๆ คือกินของเก่าที่จำได้แต่โน้น ทุกวันนี้จำไม่ได้แหละ เป็นอย่างนั้นนะ

อย่างเมื่อวานนี้ไปไหนมา วันนี้จำไม่ได้นะ เอ๊ ไปไหนมาน้าเมื่อวานนี้ นี่หดเข้ามาอย่างนี้ จำได้แต่ออกจากนี้ไปถึงโน้นเป็น ๒ ชั่วโมง ๓๙ นาที ถึงเรณูนคร แต่ก็ไปจอดที่นั่นที่นี่ ตอนไปไม่ค่อยแน่แหละ เพราะจอดแวะเอาสิ่งของอะไร ๆ อะไรก็อยากได้ ๆ มันหากเป็นอย่างนั้นนะ หลวงตาไปไหนเป็นเหมือนแม่ครัวคนหนึ่ง มันหากเป็นอยู่ในจิตนั่นแหละ ไปไหนไม่ผิดอะไรกับแม่ครัว มันหากเป็นของมันเองนะ ไปที่นั่นเอานั่น อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี สุดท้ายแน่นรถ บางทีรถจะไปไม่ได้มันหนัก ถ้าเป็นของที่มีน้ำหนักมากมันก็หนักมาก ถ้าไม่หนักมากก็เต็มรถเลย ยัดเยียดกันไปเลย เป็นอย่างนี้เป็นประจำ

ไปที่ไหนเวลาขาไปนี้เวล่ำเวลาไม่ค่อยแน่นอน แต่ก็ไม่จอดนาน เรารวมหมดเลยตั้งแต่ออกจากนี้ไปถึงเรณูนคร ๒ ชั่วโมง ๓๙ นาทีพอดี จอดที่นั่นที่นี่กี่นาทีบวกกันเข้า เวลาขากลับมาเราไม่ได้ดู เวลาขากลับมาไม่ได้มาทางนาแก ตัดออกมาทางปลาปาก มากุสุมาลย์ มาสี่แยกธาตุนาเวง มาร่วมสี่แยกธาตุนาเวงก็มาเลย คือเวลาไปไปทางนาแก เวลามามาทาง อ.ปลาปาก ตัดออกทางสายสกลนคร นครพนม ตัดออกทางนั้นแล้วมาเลย ก็มาร่วมกันที่ธาตุนาเวง ทางก็ดีพอประมาณ ทางไปอำเภอก็ดี ลาดยาง แม้ฝนตกก็ไม่ค่อยเสียมาก

เวลานี้พวกแขวงทางเขากำลังซ่อมอยู่เป็นแห่ง ๆ ทั่ว ๆ ไป เขตไหนแขวงไหนเขาก็ซ่อมของเขาตามเขตตามแขวงของเขา เมื่อวานก็เห็นหลายแห่ง เขากำลังซ่อม คือทางต้องเป็นทางดี เพราะเป็นทางของประเทศไทยเที่ยวถึงกันหากัน ไปมาหาสู่ติดต่อการซื้อการขาย แล้วผู้ที่ต้องการจะแอบแฝงไปในตัวนั้น เช่นอย่างเป็นทัศนศึกษาบ้าง ทัศนเพลิดเพลินบ้าง ก็ได้ไป เพราะฉะนั้นทางจึงควรจะดีทั่วประเทศไทย ไม่ว่าภาคไหน ๆ ทางควรจะดีเสมอกัน เพราะเป็นความจำเป็นของคนทั้งประเทศที่จะไปมาหาสู่ท่องเที่ยวถึงกันและกันตามภาคต่าง ๆ การไปมาหาสู่ท่องเที่ยวถึงกันนี้มีผลประโยชน์มากอยู่ เรามาพิจารณาเทียบเคียง

เพราะฉะนั้นเรื่องหนทางจึงควรให้ดีเสมอกันหมดเลย เพื่ออำนวยความสะดวกของคนไทยทั้งชาติ ท่องเที่ยวถึงกัน ไปมาหาสู่ การซื้อการขายติดต่ออะไร ๆ อยู่ในสายทางทั้งหมด จึงเป็นของจำเป็นอยู่มากที่ควรจะให้ดีเสมอกันหมด บรรดาสายทางทั่วประเทศไทย ยิ่งเป็นทางสายใหญ่ด้วยแล้ว นั่นยิ่งควรจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ เช่นอย่างทางภาคอีสานนี้ก็ ขอนแก่นไปทางชุมแพ ตัดไปหล่มสัก ไปพิษณุโลก ตัดเข้าเชียงใหม่ ทางสายนี้เขาก็ทำดีอยู่แล้ว นี้เป็นทางภาคต่อภาค เช่นอย่างขอนแก่นนี้ก็เป็นทางภาคอีสาน พิษณุโลกเข้าโน้นถึงเชียงใหม่ ออกไปภาคกลาง ภาคเหนือ ไปจากทางสายนี้ รถมากทีเดียววันหนึ่ง ๆ เวลารถเราไปนี้ โอ๋ย ไม่ว่างนะ อีกสายหนึ่งก็คือ โคราช ปักธงไชย ตัดลงทางกบินทร์ นี่พุ่งถึงจันทบุรี ทางสายนี้ก็จำเป็นมาก แต่เขาก็ทำดีด้วยกันทุกสายนั่นแหละ อันนี้ก็รถไม่ขาดเลย นี่ก็เป็นความสะดวก

แต่ก่อนมันเป็นคนละทวีป เช่นอย่างทางพิษณุโลกมาทางนี้ เหมือนคนละทวีปเลย การไปมาหาสู่มันอ้อมไปโน้น ๆ ไปที่ไหนกว่าจะมาถึงกันนี้อยากจะว่าค้างคืน อันนี้ไม่ต้อง ตัดปึ๊งเลย ไปได้เลย ๆ อย่างโคราชไปกบินทร์นี้เหมือนกัน มันไม่มีทางแต่ก่อน ก็ต้องไปทางนครนายก ปราจีนบุรี อ้อมไปโน้น ทีนี้พอมีทางสายนี้ ออกจากโคราชเข้าปักธงไชย ลงกบินทร์ จะไปทางไหนไปทางแปดริ้ว ชลบุรี ไปได้ทางสายเดียวกันนี้ ปราจีนออกทางสระแก้วไปจันทบุรี ไปทางสายนี้สะดวกด้วยกันทั้งนั้น ทางสายนี้จึงเป็นหัวใจของการท่องเที่ยวทางภาคต่าง ๆ ไปมาหาสู่กัน จึงเป็นทางสำคัญอยู่

ทางภาคอีสานมีทางสำคัญอยู่ ๒ เส้นนะ นี่หมายถึงทางตัดเขา ทางธรรมดานี้เขาทำกันอยู่ทั่วไปแล้ว ทางตัดเขานี้ไม่ได้ทำกันได้อย่างง่าย ๆ นะ บางแห่งตัดภูเขาทั้งลูกขาดไปเลย คือไปช่องนี้ไม่มีทางไปแล้วจะต้องตัดเขา แล้วตัดภูเขาทั้งลูกไปเลย เช่นจากน้ำหนาวออกมาชุมแพ ตัดภูเขาโดยตรง คือภูเขาทั้งลูกตัดขาดไปเลยไม่อย่างนั้นออกไม่ได้ อย่างเขาวงออกไปน้ำหนาว เราไปสังเกตดูเขาตัดจริง ๆ ขาดสะบั้นไปเลยรถวิ่งตรงกลาง ภูเขาสูงทั้งนั้น เขาตัดภูเขาทั้งลูกออกเลย มีช่องนี้คือช่องไปได้ จากนั้นก็พุ่งถึงนู่นเลย พิษณุโลก ไปไหนไปละที่นี่ ทางนี้ก็ออกทางชุมแพ ขอนแก่น ถ้าอยากตายก็ให้โดดลงแม่น้ำโขงเลยก็ได้ มันสะดวกมาก ออกขอนแก่นแล้วก็ไปทางตะวันออก ลงแม่น้ำโขง ทางมันสะดวก เป็นแห่ง ๆ ที่เขาทำลายภูเขา

ทางสายนี้ลำบากมากอยู่ สายชุมแพที่จะออกหล่มสักนี้แหม ภูเขาสลับซับซ้อน ต้องทำลายภูเขา ภูเขาเป็นแห่ง ๆ เสียก่อน กับที่จะออกมาทาง อ.คอนสาร มาหา ชุมแพนี้ นี้ก็ตัดภูเขาทั้งลูกเลย ตัดแห่งเดียว ส่วนที่ออกไปทางหล่มสัก โอ๋ย ไม่ทราบว่าตัดกี่แห่ง ไม่ได้ตัดหมดก็ตัดข้างนี้ตัดข้างนั้น เพื่อให้รถซอกแซกไปได้ ตัดมุมนี้ตัดมุมนั้น ตัดมันตัดหินนี่ของเล่นเมื่อไร เราไปสังเกตไปตลอด จึงว่าสะดวกดี ทางเดินสะดวก ไปมาหาสู่กันก็สะดวกสบาย ติดต่อสื่อสารอะไร

ทางด้านวัตถุ สินค้าสินขาย เช่นนู่น จ.ชลบุรี ออกจากเมืองชลตอนเย็น ตัดมาทางกบินทร์ ลงโคราช พวกสินค้าพวกปลาพวกอะไร พวกผลไม้จากจันท์ตัดมานี่ สายเดียวกันนี่ พุ่งออกโคราช แล้วทีนี้แตกไปเลย มาทางนครราชสีมานี้แล้วแตกไปทางอุบล ไปทางนครพนม ไปสกลนคร นู่นมาจากชลบุรี ถามเขาแล้วเป็นสินค้าจากทะเล ข้ามนี้ตัดลงนู้น

ตอนเช้าถึงนู้นแล้วนะ คือตอนเย็นทางนู้นออกแล้ว ตอนเช้าถึงเขตประเทศไทยริมแม่น้ำโขง เต็มอยู่โน่นละของทะเล ผลหมากรากไม้จากทางจันท์นี้ก็เหมือนกัน กองอยู่โน้นหมด เขามีสาย ๆ ของเขา มีขาคอยรับ ๆ ไปก็เทตูม ๆ ไปสะดวก เรามันหากอดไม่ได้นะ มันหากถามหากสอดหากแทรกเพื่อความเข้าใจ ที่เอามาพูดนี่คือเราซอกแซกถามนั่นละ รถมันก็เต็มแผ่นดินไม่ถามก็จะไปรู้ได้ยังไง อันนี้หากถามหากสอดหากแทรกอยู่งั้นละ จนได้ถ้อยได้ความ

วันนี้เราพูดถึงเรื่องถนนหนทางเป็นความสะดวกสบาย การไปมาหาสู่ก็สะดวกสบาย การคมนาคม การซื้อการขายสะดวกสบาย ที่มันขัดมันข้องอยู่ก็การดำเนินชีวิตของเราในแต่ละรายบุคคล ๆ เสียตรงนี้นะ มักจะสร้างแต่อุปสรรคให้ตัวเอง สำคัญที่ความฟุ่มเฟือย ได้พูดอยู่แล้วอยู่เล่านะ คือมันขวางจริง ๆ นะกับศาสนาพุทธเรา ศาสนาพุทธเรามีกฎมีระเบียบเรียบร้อย ไม่ว่าขั้นใดของประชาชนผู้เป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า ขั้นนี้ ๆ เป็นลำดับ ขั้นนี้เป็นแกงหม้อใหญ่ก็ควรให้เหมาะสมกับแกงหม้อใหญ่ อันนี้แกงหม้อเล็กก็เหมาะสมกับแกงหม้อเล็ก แกงหม้อจิ๋วก็เหมาะสมกับแกงหม้อจิ๋ว ธรรมพระพุทธเจ้าวางระเบียบเรียบไปหมดหาที่ต้องติไม่ได้

แต่ผู้ทำลายธรรมพระพุทธเจ้าก็คือพวกเราเสียเอง สำคัญตรงนี้นะ ท่านสอนให้ทำอย่างนั้นกลับทำอย่างนี้ ให้ทำอย่างนี้กลับไปทำอย่างนั้น มันเป็นข้าศึกของศาสนาก็คือพวกเรา และมิหนำซ้ำก็จะตัดทอนคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ออกมาเป็นการประกาศไปก็ได้ มันเริ่ม ๆ มีแล้วเวลานี้ ที่จะทำลายศาสนาพระพุทธเจ้าด้วยวิธีการต่าง ๆ มีเยอะ เอ้า ภายในวัดก็ทำลายอีกแบบหนึ่ง ส่วนมากเป็นวัดเป็นผู้ที่จะชี้แจงแสดงอรรถธรรมออกสู่ประชาชน

ถ้าทางวัดทางพระศึกษามาด้วยดี ปฏิบัติมาโดยชอบธรรมแล้วออกมาไม่ค่อยผิดพลาด ถ้าไปศึกษาเฉย ๆ ไม่สนใจกระทั่งว่าศีลเป็นยังไง ศีลเป็นยังไงไม่สนใจ มีแต่ศึกษาจับคำเอาเฉย ๆ คำพูด ๆ ศีลไม่มีสักตัว มันอาจจะลบว่าในพระไตรปิฎกนี้ไม่มีพระวินัยปิฎกก็ได้ เวลานี้ก็เริ่มปรากฏแล้วว่า อภิธรรมปิฎกไม่มีในพระไตรปิฎก ไตรแปลว่าอะไร ติ ออกจากสาม แปลสภาพมาเป็นไตร ปิฏก แปลว่า ภาชนะ ฟังให้ดีนะ นี่เรียนมาจะเอามหาออกเสียวันนี้ ปิฏก ภาษาบาลี เรามาแปลเป็นภาษาไทยว่า ปิฎก แปลว่า ภาชนะสำหรับรับรองปิฎกทั้งสาม ไตร นั่นน่ะสาม ภาชนะสำหรับรับธรรมทั้งสามประเภท

พระวินัยหนึ่ง พระสูตรหนึ่ง พระอภิธรรมหนึ่ง นี้คือปราชญ์ไปจดจารึกมา ออกเป็นพระไตรปิฎก พระวินัยปิฎก ๑ พระสุตตันตปิฎก ๑ พระอภิธรรมปิฎก ๑ เรียกว่าสาม พระวินัยปิฎกนี้เรียกว่ากฎของพระ วินัยของพระ กฎหมายพระ พระสูตรนั้นพูดถึงเรื่องสัตว์เรื่องบุคคล ทำดีทำชั่ว ตกนรกไปสวรรค์อะไร มีอยู่ทั่วไป เรียกว่าพระสูตร บางแห่งธรรมที่สูงกว่านั้นเข้ามาเป็นพระสูตรก็มี เช่น ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร นี่อริยสัจนะนี่ เข้าในพระอภิธรรมปิฎกได้เลยไม่สงสัย จากนั้นก็พระอภิธรรม พระอภิธรรมปิฎก แปลว่าธรรมที่สูงสุดกว่าธรรมทั้งสองประเภทนี้

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมาด้วยพระอภิธรรมปิฎก ด้วยจิตตภาวนา รากแก้วของพระอภิธรรมปิฎกคือภาวนา พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นด้วยองค์ภาวนาล้วน ๆ เป็นศาสดาเอก เจริญอานาปานสติ เป็นยังไงที่ว่าพระอภิธรรมปิฎก จิต เจตสิก นิพพาน มีแต่เรื่องจิตล้วน ๆ นะ นี่ละท่านแสดงในอภิธรรมปิฎกไว้ นี่ก็ดูไม่ใช่มาพูดพล่าม ๆ นี่นะ ไม่ว่าพระสูตร พระวินัย พระอภิธรรม เราดูมาทั้งนั้นก่อนที่จะออกปฏิบัติ เพราะฉะนั้นที่จะมาโกหกง่าย ๆ ไม่ได้นะ ควรตีปากตีเอาเลยเรานะ เราก็มีมือ เขามีปาก พูดออกมาเป็นการลบล้างอรรถธรรมตีปากเลย อยากว่าอย่างนั้นนะ ก็เรียนมาด้วยกัน เห็นมาด้วยกัน นี่แว่ว ๆ ทราบมาอย่างนั้นว่า พระอภิธรรมปิฎกนี้ไม่มีในพระไตรปิฎก มี ๒ ปิฎก คือพระวินัยปิฎกกับพระสุตตันตปิฎก

พระอภิธรรมปิฎกคือหัวใจของพระ ถ้าอันนี้ไม่มีแล้วก็แสดงว่าศาสนาพุทธเราหมดเลย ไม่มี ศาสดาองค์เอกก็ขึ้นไม่ได้ ต้องขึ้นจากอภิธรรมนี้ พระอรหันต์ทุกองค์ขึ้นจากอภิธรรมปิฎกนี้ไม่ขึ้นจากไหน พระวินัยปิฎกนี้ท่านบัญญัติทีหลัง แต่ก่อนยังไม่มีพระวินัย เมื่อทำผิดทำพลาดก็ตั้งบัญญัติพระวินัย กฎหมายพระเข้าไป ๆ เรื่อย ๆ กฎหมายเป็นพื้นฐานแล้วก็ยังเป็นอนุบัญญัติ คือบัญญัติทีหลังปลีกย่อยไป อาบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้บัญญัติต่อไป ๆ นี้เรียกว่าพระวินัยปิฎก พวกพระสุตตันตปิฎก ใครก็ทราบดังที่พูดนั่นละ นิทานเรื่องนั้นเรื่องนี้ ส่วนมากออกจากพระสุตตันตปิฎก ส่วนพระอภิธรรมปิฎกนี้พูดถึงเรื่องจิตตภาวนาเป็นพื้นฐานเลยเทียว พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยพระอภิธรรม พระอรหันต์ตรัสรู้ด้วยพระอภิธรรม ถ้าพระอภิธรรมนี้ไม่มีในพระไตรปิฎกหรือไม่มีในศาสนาแล้ว ศาสนาก็หมดไปเลย นี่คือรากแก้วของศาสนาได้แก่พระอภิธรรม จะเป็นอะไรไป

มันเรียนเฉย ๆ ไม่ปฏิบัติก็จะไปรู้อะไร ให้เรียนซิ พระพุทธเจ้าปฏิบัติมาทุกสิ่งทุกอย่าง เรียนในหลักธรรมชาติคือพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกก็เรียนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าแล้วก็มาปฏิบัติ ๆ ปฏิบัติลงในจิตตภาวนา ภาวนานี้จะเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่พระอภิธรรมจะเป็นอะไรไป คำว่า นิพพาน จิต เจตสิก รูป นิพพาน อะไรเหล่านี้ อธิบายไปเป็นเรื่องอภิธรรม คือเกี่ยวกับเรื่องจิตตภาวนาล้วน ๆ ลงได้เข้าทางด้านภาวนาหนีจากอภิธรรมไม่ได้ แยกไปไม่ได้เลย ถ้าอยากตกนรกก็ เอ๋า ว่างั้นเลย พระอภิธรรมไม่มี นั่นละมันจะลงนรก ต่อไปนี้พระวินัยก็จะไม่มี

แล้วยังได้ยินแว่ว ๆ อีกนะว่า พระพุทธเจ้าไม่ควรจะไปยึดท่าน คือพระพุทธเจ้าไม่มี ท่านปรินิพพานไปแล้ว ยังเหลือแต่พระธรรมกับพระสงฆ์ พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วถ้าจะไปยึดองค์ท่าน ก็จะเป็นการติดรูปติดอะไรท่านไป นี่มันบ้าหรือดี เราก็หูบ้าฟังมาอย่างนี้เหมือนกัน ถ้าเขาพูดว่าเป็นบ้าเราก็หูบ้าเหมือนกัน บ้าไปตามบ้า วันนี้พูดเรื่องบ้าด้วยกัน เรื่องพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ตัดพระพุทธเจ้าออก คือพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วถือท่านหาอะไร เขาว่าอย่างนั้น

เราก็อยากถามย้อนขึ้นมาหาโคตรแซ่ของมึงนั้น ตายไปแล้วมึงถือท่านทำไม เราอยากถามว่าอย่างนั้นนะ ก็ยังถือโคตรถือแซ่อยู่นะ โคตรแซ่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ตายไปแล้วก็ยังเคารพนับถือท่านอยู่ใช่ไหม นี่พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วเพียงพระรูปพระร่างก็ยังบอกแล้วนี่นะ นี่ละองค์ศาสดาเอกที่เป็นหัวใจของสัตวโลก พระพุทธเจ้า ๑ พระธรรม ๑ พระสงฆ์ ๑ หัวใจของชาวพุทธเรา ตัดพระพุทธเจ้าออกแล้วมีความหมายอะไร

จะว่าติดพระพุทธเจ้า เอ้าถ้าว่าจะกลัวติดพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสายทางเดินเข้าสู่มรรคผลนิพพาน คือ พุทธ ธรรม สงฆ์ นี้ เป็นทางเดิน หัวใจของผู้ปฏิบัติธรรมที่จะก้าวไปตามสายทาง พุทโธ ธัมโม หรือสังโฆ ก็ตาม เข้าสู่มรรคผลนิพพานอันเป็นธรรมธาตุล้วน ๆ จะเข้าอยู่สามจุดนี้ พุทโธกระเทือนถึงธรรมอันนั้นเลย ธัมโมกระเทือนถึงธรรมอันนั้นเลย สังโฆกระเทือนถึงธรรมธาตุอันใหญ่หลวงนั้นเลย แล้วไปตัดพุทโธออกแล้วมีความหมายอะไร

เอ้า บอกกันเลย มาวัดป่าบ้านตาดนี่ สายทางที่จะมาวัดป่าบ้านตาดมีเห็นไหม เวลานี้เขาลาดยางเรียบ เขาลาดยางมันไม่ดีสู้เราบุกเลยไม่ได้ อย่ามาตามทาง ถ้ามาตามทางนี่มันจะติดหนทาง มันจะติดรูปติดร่างของถนนหนทาง ติดยางติดอะไร ให้บุกมาเลยทีเดียว ต้นไม้แถวนั้นจะพังไปหมดนั่นแหละ หัวมันแตก หัวแตก ต้นไม้พังไม่พังไม่รู้แหละ นี่เห็นไหมอย่างนี้มันก็มาพูดหน้าด้าน ๆ ผู้ปฏิบัติธรรมหรือผู้เรียนธรรมเรียนมาทำไมเรียนมาแบบนี้น่ะ ลบล้างศาสนาอย่างนี้

พระพุทธเจ้าไม่มี ศาสนาก็หมดจะว่าอะไร ศาสนาเกิดจากใครไม่เกิดจากพระพุทธเจ้า นั่น คำว่า พุทโธ ๆ คือหัวใจของชาวพุทธเรา ยึดพุทโธนี้เพื่อรวมกระแสของจิตเข้าเป็นตัวของตัวเองขึ้นมา พุทโธนี้เด่นขึ้นมา ธรรมเริ่มเกิดแล้วเห็นไหมล่ะ ถ้าพุทโธไม่รวมเกิดไม่ได้นะ ต้องบริกรรม เอาความรู้นี้มารวมอยู่ในจุดคำบริกรรมคำไหนก็ตาม ให้เป็นที่รวมของผู้รู้ เช่น ธัมโม หรือสังโฆก็ตาม หรืออัฏฐิ ๆ ก็ตาม ผู้รู้ให้อยู่ที่อัฏฐิ อัฏฐิคืออริยสัจ จับอยู่นั้น ทีนี้เวลาจิตไม่แยกแยะไปไหนให้อยู่นั้น ต่อไปก็สั่งสมความรู้นี้เด่นขึ้น ๆ ความสงบเยือกเย็นก็จะปรากฏขึ้นจากคำบริกรรมที่ยึดเป็นเกาะไว้อย่างมั่นคง แล้วก็ปรากฏเป็นความรู้เด่นขึ้นมา ๆ ผู้รู้เด่นแล้วที่นี่

ผู้รู้เด่นแล้วก็เรียกว่าเป็นความสงบ สมถธรรมเกิดขึ้นพร้อมกันแล้ว วิปัสสนาธรรม สมาธิธรรม เกิดขึ้นจากจุดนี้ ไม่เกิดขึ้นจากพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นจากอะไร ตัดพระพุทธเจ้าแล้วก็หมดไม่มีความหมายเลย ทำลายศาสนาว่างั้นเลย ถ้าลงตัดพระพุทธเจ้าว่าไม่ให้มีแล้ว เป็นผู้ทำลายศาสนาโดยตรง ถ้าเป็นพระก็ทำลายอยู่ภายใน ภายในวัด ภายในศาสนา ถ้าเป็นฆราวาสก็ทำลายอยู่ข้างนอก ผู้อยู่ข้างนอกก็ทำลายศาสนาอยู่ข้างนอก ผู้อยู่ข้างในก็ทำลายศาสนาข้างใน ศาสนาก็หมด ชาติก็หมด เพราะชาติอยู่กับศาสนา เฉพาะชาวพุทธของเรา

เราก็ได้ยินแว่ว ๆ เราก็ไม่ยืนยันนะ เราก็ได้ยินแว่ว ๆ เราก็พูดแบบแว่ว ๆ เหมือนกัน ใครจะมาจับตัวเราไม่ได้ก็ได้ยินมาอย่างนั้น เราหลบทีเดียวก็ไปได้ยากอะไร เพราะเราไม่จริงจัง ถ้าจริงจังเอาคัมภีร์ตีหัวมันเลย นี่มึงไม่เห็นหรือ อันนี้เพียงแว่ว ๆ เราก็พูดแบบแว่ว ๆ ถ้าเขาว่ามา ก็ได้ยินแว่ว ๆ นี่ว่างั้น แกมาโจทก์ก็ต้องโจทก์แบบแว่ว ๆ ด้วยกันซี อย่ามาโจทก์จริงจังกับเรานะ เพราะเราแว่ว ๆ เราก็ว่าอย่างนี้ ให้มันเข้ากันได้ยังงั้นซิ นี่เราได้ยินแว่ว ๆ มาอย่างนี้นะ

เทวดาไม่มี นั่นฟังซิ พระพุทธเจ้าสอนเทวดากับพุทธบริษัทประชาชนทั้งหลายนี้เสมอกันหมด ในพุทธกิจมี ตอนบ่าย ๓ โมง ๔ โมงสอนพ่อค้า ประชาชน ตั้งแต่พระมหากษัตริย์ลงมา ตอนค่ำประทานโอวาทแก่พระสงฆ์ บาลีก็มี แต่เราไม่ยกบาลี ยกเนื้อความมาแปลเอาเลย ตอนค่ำสอนพระสงฆ์ อบรมพระสงฆ์ ตอนเที่ยงคืนไปแล้วก็อบรมแก้ปัญหาเทวดา นี่พุทธกิจ ๕ เป็น ๓ ข้อแล้ว นี่ละในวงศาสนาของพระพุทธเจ้า

พุทธกิจคืองานของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ คนอื่นจะทำอย่างพระองค์ไม่ได้ พอเที่ยงคืนมาก็สอนบรรดาเทวดาทั้งหลายซึ่งเป็นเหมือนกับมนุษย์นี่ อันนั้นเป็นนามธรรม อันนี้เป็นรูปธรรม เห็นกันอยู่นี้ อันนั้นเห็นด้วยใจ รู้ด้วยใจ เทวดาประเภทต่าง ๆ เช่นอย่างตาเรานี้มีวิสัยที่จะดูรูป หูไปดูแทนรูปไม่ได้ ตาจะไปฟังแทนหูไม่ได้ เป็นคนละหน้าที่ ๆ อันนี้หน้าที่ของพระญาณหยั่งทราบหรือพระจิตของพระพุทธเจ้าควรจะรู้จะเห็นอย่างนี้ก็เห็น ควรจะรู้เฉพาะวิถีจิตคือพระญาณหยั่งทราบจำพวกเทวบุตรเทวดาอินทร์พรหม เปรตผีประเภทต่าง ๆ เป็นวิสัยของจิตล้วน ๆ ที่จะดู ไม่ใช่ตาเนื้อจะไปดู ท่านก็เอานั้นออกดู เอานั้นออกใช้ เอานั้นออกสอน นี่เป็นประเภท

พวกเรามีอีโต้อันเดียวไปฟังโป๊ก ๆ สร้างบ้านทั้งบ้านก็เอามีดอีโต้อันเดียว สร้างปราสาท ๖-๗ ชั้นก็เอามีดอีโต้อันเดียว จะเอามีดอีโต้อันเดียวไปอวดนายช่างเขาได้ยังไง นายช่างเขามีเครื่องมือกี่ประเภท พระพุทธเจ้าเป็นนายช่างเอกเลิศเลอ มีเครื่องมือกี่ประเภท สั่งสอนสัตวโลกด้วยเครื่องมือคือธรรมทั้งนั้น ท่านแยกประเภท ๆ เที่ยงคืนสอนเทวดา ก็อยู่ในพุทธกิจ ๕ ลบออกได้ยังไง จากนั้นก็เล็งญาณดูสัตวโลก ภพฺเพภพฺพา วิโลกานํ ทรงเล็งญาณดูสัตวโลก ใครจะมีอุปนิสัยปัจจัยพอเป็นสาระและเป็นสาระ ซึ่งควรจะได้บรรลุธรรมอย่างรวดเร็วแต่จะเสียชีวิตเสียก่อน ก็เสด็จไปโปรดคนนั้นก่อนเมื่ออยู่ในฐานะเป็นไปได้ จากนั้นก็ ปุพฺพเณฺห ปิณฺฑปาตญฺจ ออกบิณฑบาตโปรดสัตวโลก

เห็นไหมนี่พุทธกิจ ๕ มีอยู่นี่ตัดไปไหน เทวดาตัดไปไหน ถ้าตัดก็ตัดออกหมด อย่างนั่งอยู่นี่ตัดออกหมด ว่าเทวดาไม่มีพวกนี้ก็ไม่มีเหมือนกันจะว่าไง ก็ในคำสอนอันเดียวกัน อันนี้ดูด้วยตาเนื้อ ดูพวกกายทิพย์ดูด้วยจิตใจ เหมือนอย่างเราฟังเสียงด้วยหู เราดูสิ่งต่าง ๆ ด้วยตา นั่นมันเป็นคนละวิสัย ๆ จะมาเอาสับสนปนเปกันไม่ได้นะ มันใช้ไปคนละทิศละทาง แล้วเครื่องมือที่สั่งสอนสัตวโลกประมาณว่า ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ นี่เครื่องมือของธรรมที่สั่งสอนสัตวโลก นี้พอประมาณนะ ที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนโลกไม่ต้องพูดละ ครอบโลกธาตุเลย แล้วไหนว่าเทวดาไม่มียังไง

มิหนำซ้ำก็ว่าพระอภิธรรมไม่มีอีก ก็ยังเหลืออยู่ ๒ ปิฎก ให้มีแต่พระธรรมกับพระสงฆ์เท่านั้น แล้วพระสงฆ์เป็นพระสงฆ์ประเภทใด พระสงฆ์ในครั้งพุทธกาลนั้นเป็นอรหัตอรหันต์บุคคล พระสงฆ์ทุกวันมีแต่พระสงฆ์หมาขี้เรื้อน นับแต่หลวงตาบัวลงไป แล้วใครจะกราบหลวงตาบัวได้ลงคอ ไปที่ไหนทั้งเกาหมัดย็อก ๆ แย็ก ๆ นี่ สรณํ ของเราคือหมาขี้เรื้อนตัวนี้ ใครจะกราบได้ลงคอ หลวงตาบัวก็ไม่กราบหลวงตาบัวถ้าลงเป็นหมาขี้เรื้อนขนาดนั้น เพราะฉะนั้นจึงบอกพี่น้องทั้งหลายอย่ามากราบหลวงตาบัวนะ เป็นหมาขี้เรือนแทนพระสงฆ์สาวกตั้งแต่ครั้งพุทธกาล

คือเอาพระสมัยหมาขี้เรื้อนทุกวัน ไม่มีธรรมมีวินัยปกครองหัวมันละ มีแต่หัวโล้น ๆ แล้วจะให้ประกาศตนว่าเป็นสรณะของประชาชน ให้นับถืออาตมาแทนพระสงฆ์สาวกทั้งหลาย ใครจะนับถือลงคอ มองดูก็เห็นแต่หมาขี้เรื้อนเต็มตัว ศีลไม่มีสักตัวเดียว เคารพได้ไหม กราบได้ไหม สังโฆ เลิศขนาดไหน พุทธะ เลิศขนาดไหน ธรรมะเลิศขนาดไหน หมาขี้เรื้อนเลวขนาดไหน อย่าเอาเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่าให้พวกสังโฆ เช่นสังโฆปัจจุบันเป็นต้นมาเป็นสรณะของพี่น้องทั้งหลาย โอ๋ย เมืองไทยนี้แตกเลยจะว่าไง มีแต่สังโฆหมาขี้เรื้อน นับตั้งแต่หลวงตาบัว วัดป่าบ้านตาด ออกไป ประเภทหมาขี้เรื้อนทั้งนั้น ใครจะมากราบได้ลงคอ

พี่น้องทั้งหลายกราบได้ไหมกราบหมาขี้เรื้อน ถ้ากราบหมาขี้เรื้อนได้เราจะหาตัวมาทดลองเสียก่อน ยังไม่ถึงตัวจริงนะ ถ้ากราบหมาขี้เรื้อนไม่ได้เราจะเอาตัวทดลองเสียก่อน ไปเอาไอ้ปุ๊กกี้มานี้มากราบมันจะกราบได้ไหม นี่มันยังไม่ถึงขั้นหมาขี้เรื้อน ถ้าถึงขั้นหมาขี้เรื้อนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว วัดป่าบ้านตาดนี้แตกฮือเลย ไม่มีใครกราบ เอาพระสงฆ์หมาขี้เรื้อนมากราบแทนพระอริยสงฆ์แต่ครั้งพุทธกาลไม่ได้นะ นี้เราพูดเป็นกลาง ๆ ตัดพระสงฆ์แต่ก่อนออกแล้วเอาพระสงฆ์สมัยปัจจุบันแทน พระสงฆ์หมาขี้เรื้อนหรือจะแทนพระสงฆ์อรหันต์ท่านที่เป็นสรณะของโลกมานมนาน ทำได้ลงคอไหม แยกกันอย่างนี้ซิ หาเหตุหาผลหาอรรถหาธรรม ต้องหาอย่างนี้ซิ นี่ละตัดพระพุทธเจ้าออกหมดเลย

การเดินทางต้องอาศัยสายทาง แยกจากทางไม่ได้ไม่ถึงจุดที่หมาย พุทโธ คืออะไร ส่งสัตวโลกเข้าถึงมรรคผลนิพพานไม่มีใครเกินพระพุทธเจ้า นี่คือสายทางชั้นเอก ตัดออกไปไหน เอ้าว่ามาซิ จะถึงธรรมอันเลิศไม่จากพระพุทธเจ้าจะจากไหน สาวโก ๆ พระอรหันต์ที่เลิศเลอก็จำต้องได้ยินได้ฟังจากพระพุทธเจ้าเสียก่อน แล้วตัดพระพุทธเจ้าไปไหนไม่ให้มาเป็นสรณะของพวกเรา พิจารณาซิ มิหนำซ้ำยังจะเอาพระสงฆ์หมาขี้เรื้อนเข้าไปแทนที่ให้เขากราบ โอ๋ย ตายเลยนะ หลวงตาบัวแม้เป็นหมาขี้เรื้อนด้วยกันก็ตาม หมาขี้เรื้อนไม่กราบหมาขี้เรื้อน ยังไม่ยอมกราบอีกนู่นน่ะ ทั้ง ๆ ที่เราเป็นหมาขี้เรื้อนด้วยเราก็ไม่กราบ ต้องแยกให้มันเห็นซิ

เวลานี้จะพยุงศาสนาหรือจะทำลายศาสนา ข้อคิดที่แสดงออกมาเหล่านี้ถ้าเป็นความจริงนะ เราได้ยินแต่เพียงแว่ว ๆ ถ้าเป็นความจริงแล้วพวกทำลายศาสนายิ่งกว่าเทวทัตอีก จะว่างั้นเลย เทวทัตทำลายสมัยพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ อันนี้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วยังจะทำลายได้ มันเก่งกว่าเทวทัตอีกพวกนี้น่ะ เข้าใจหรือเปล่าพวกเทวทัตใต้ศาลาหลวงตาบัวนี่น่ะ หลวงตาบัวเป็นหัวหน้าเทวทัต พูดมาอะไรมันแสลง ธรรมมีอยู่ ของจริงมีอยู่ ทำไมไม่เอา ของปลอมคว้ามาเผากันทำไมมันเกลื่อนอยู่ในโลกธาตุ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งทำลายหามาทำไม สิ่งที่จะส่งเสริมให้มีความแน่นหนามั่นคงทางด้านจิตใจสำหรับชาวพุทธเรา ทำไมไม่พยายามขวนขวายมาพยุงจิตใจซึ่งกันและกัน นี่สมนามกับเราเป็นผู้นำเป็นผู้แนะนำสั่งสอน

เอ้า ยกตัวอย่างย้อนเข้ามาอีกว่าเป็นผู้นำก็ดีนะ อย่างเราเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ เรานำด้วยความไม่สะทกสะท้านว่าจะผิดไปที่ตรงไหน เราพิจารณาเต็มกำลังความสามารถแล้ว ไม่ว่าทางด้านวัตถุจะเข้าช่องไหนทางใด เราพิจารณาหมด การแนะนำสั่งสอนตั้งแต่แกงหม้อใหญ่ถึงแกงหม้อเล็ก แกงหม้อจิ๋ว เราสอนเต็มภูมิของเรา ตรงไหนที่สอนพี่น้องทั้งหลายให้พาล่มพาจมเรายังระลึกไม่เห็นที่เราสอนมานานเป็นเวลาเกือบ ๓ ปีนี้แล้ว อย่างนี้ละนำ

เรานำเราเองก็บอกแล้ว เข้าขั้นเฉียดสลบไสล ๆ มา เหตุดำเนินขนาดนี้ เอาชีวิตเข้าแลก ๆ เลย เฉียดขั้นสลบไสล ผลที่ได้มาก็มาสอนพี่น้องทั้งหลายอยู่เวลานี้ก็ได้มาด้วยวิธีการเหล่านี้ วิธีการเฉียดสลบไสล เราไม่ทำเล่น ๆ บทเวลารู้ขึ้นมามันก็รู้ตามเหตุตามผลที่ปฏิบัตินั้นจริง ๆ ไม่ยิ่งไม่หย่อนกว่ากัน จึงเป็นที่ภูมิใจในการดำเนินของเราที่จะได้ผลประเภทนี้ขึ้นมา เพราะเหตุอย่างนั้น การดำเนินของเราอย่างนั้น เราเป็นที่ภาคภูมิใจทั้งเหตุที่ดำเนินมา ทั้งผลที่ได้รับแล้ว จึงได้นำเหล่านี้มาสอนพี่น้องทั้งหลาย ให้พากันตั้งอกตั้งใจนะ อย่าเหลาะ ๆ แหละ ๆ

เวลานี้สิ่งทำลายศาสนา ทำลายชาติไทยของเรา มีทั้งในวัดนอกวัด ทั้งเขาทั้งเรา ตำหนิไม่ได้นะ ข้างนอกทำลายแบบหนึ่ง ข้างในทำลายแบบหนึ่ง นอกวัดทำลายแบบหนึ่ง ในวัดทำลายอีกแบบหนึ่ง เขาทำลายอีกแบบหนึ่ง เราทำลายอีกแบบหนึ่ง มีแต่เรื่องทำลายไม่มีใครส่งเสริมใคร จมนะชาติไทยของเรา ขอให้ยึดหลัก พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ให้ดี สติติดแนบกับศาสนา ไปที่ไหนมีสติแล้วรู้บาปรู้บุญรู้คุณรู้โทษ รู้ดีรู้ชั่ว กำจัดปัดเป่ากันไปได้เรื่อย ๆ สม่ำเสมอ ถ้าไม่มีสติเหลวนะ ต้องมีสติสตังรู้เนื้อรู้ตัว

การจะไปมาหาสู่ การจะใช้จะสอยจะอยู่จะกินอะไร ให้พินิจพิจารณาเสียก่อน อย่าเห็นแก่ได้ แก่อยาก แก่ร่ำแก่รวย ตะกละตะกลาม กลืนบ้านกลืนเมือง กลืนไปหมดไม่มีอะไรเหลือ สุดท้ายในครัวเรือนหนึ่ง ๆ มีแต่ร่างของบ้านของเรือน คนก็ไม่มีเนื้อมีหนัง ถูกกิเลสตัวโลภ ตัวราคะตัณหากลืนกินหมด แล้วเมืองไทยเรามีแต่ร่างกระดูก สมบัติเงินทองที่จะเป็นเครื่องประดับมนุษย์เราให้ต่างจากสัตว์บ้างไม่มี เอาไปกินไปกลืนกันหมดทางไหนบ้าง

เราดูซิเวลานี้ เงินกำลังขาดตลาดนะเมืองไทยของเรา ไปซิไปที่ไหนเห็นนี่ สินค้าสินขายนี้เกลื่อนไม่ว่าร้านไหน ร้านเล็กร้านใหญ่เต็มไปหมด ถนนหนทางเต็มไปหมดตั้งแต่สินค้า แต่หาคนเข้าไปซื้อไม่ค่อยมีเพราะอะไร ก็เพราะไม่มีเงิน จะเอาอะไรไปซื้อ มีแต่สินค้า เงินมันไปไหนหมด มันก็ไล่เข้าไปหาจุดของมันนั่นซิที่สังหารเงิน มันอยู่จุดไหน มันก็บอกได้โดยตรงนั่นซิ พากันจำเอานะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน เอาละพอ เหนื่อย ว่าจะไม่พูดมากมันหากมากไปเองนั่นละ

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก