พวกเสนียดจัญไรต่อบ้านเมืองอย่าเอา
วันที่ 16 กันยายน 2543
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๓

พวกเสนียดจัญไรต่อบ้านเมืองอย่าเอา

(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๑,๐๐๐ คน)

วันนี้ได้ทองคำ ๑ กิโลแล้ว แล้วถวายสมทบค่าเครื่องมือโรงพยาบาลหนองบัวลำภูอีก ๑ ล้าน คุณฐาวรา ทำบุญ-บุญก็มา ทำบาป-บาปก็มา เสมอกัน สด ๆ ร้อน ๆ มาตั้งกัปตั้งกัลป์นะ ทำดีเป็นดี ทำชั่วเป็นชั่ว มาตลอด ทำบุญได้บุญ ทำบาปได้บาปตลอด เสมอกันเลย ไอ้ที่ว่ากิเลสมันว่าทำบุญไม่ได้บุญ ทำบาปไม่ได้บาป นรก สวรรค์ ไม่มี นี้คือคาถาเสกให้สัตว์โลกจม คาถาพระพุทธเจ้าตีหน้าผากกิเลส นี่มึงไม่เห็นหรือ นรกนี้มึงไม่เห็นหรือ มึงเคยตกนรกมากี่กัปกี่กัลป์มึงยังไม่เห็นนรกอยู่หรือ จะมาหลอกสัตว์โลกอยู่เหรอ คาถาพระพุทธเจ้าตีหน้าผากกิเลส เข้าใจไหมล่ะ

เมื่อวานนี้ไปที่โรงพยาบาลส่องดาว ไปขู่เขาก่อนเลย วันนี้เอาของมาให้เฉย ๆ นะ ไม่ได้มาให้ของอื่น อย่าขออะไรนะวันนี้ เราว่าอย่างนั้นนะ เราหนักจนจะยกไม่ขึ้นแล้วนะ ขู่หมอเมื่อวานนี้ อย่าขออะไรนะ นี่เรามาให้แล้ว คือของที่เราเอาไปให้เขา บอกว่าให้แล้ว วันนี้อย่าขออะไร ขู่เขาก่อน ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้ขอแหละขู่ไปก่อน กลัวเขาจะขอล่ะซี ไปโรงพยาบาลส่องดาว อันนี้ก็อยู่ลึก ๆ เป็นหุบเขา อย่างนั้นละเราไปที่ไหนเราจะไปที่ซอกแซกซิกแซ็ก ถ้าหากว่ามันสะดวกอะไร ๆ เช่นอย่างโรงพยาบาลใกล้ถนนหนทางหรือที่ชุมนุมชนนี้ เราก็ไม่ค่อยได้อะไรนัก แต่ที่ซอกแซกอย่างนั้นมักจะไปตลอด เช่นอย่างน้ำหนาว นู่นอยู่ในหุบเขา จากทางใหญ่ไปตั้ง ๒๐ กิโล อยู่ลึก ๆ อย่างนั้นละไปหาซอกแซก ส่องดาวก็ซอกแซก นี่ก็ให้เครื่องมือเยอะ เครื่องมือสำคัญ ๆ

เมื่อสองปีผ่านมาแล้วมั้งที่ว่างบประมาณไม่มี โรงพยาบาลติดหนี้ติดสินเขาพะรุงพะรัง คือทางการทางรัฐบาลบอกมาว่า จะให้เงินโรงพยาบาลนั้นเท่านั้น ๆ ใครจะซื้อหยูกยาหรืออะไรก็แล้วแต่ ให้อยู่ในวงเงินที่เขาจะให้ ทางนี้ก็ไปซื้อสิ่งซื้อของเครื่องหยูกยาอะไรต่าง ๆ พอซื้อมาในวงเงินนั้นแล้ว ทางโน้นประกาศมาทีสองว่า รัฐบาลไม่มีเงินให้ โอ๊ย เราอยากตีหน้าผากรัฐบาล แต่เด็กเขาก็ไม่โกหก ทำไมไปโกหกเขาได้ พูดไม่มีคำสัตย์คำจริง จะลั่นออกมาแต่ละอย่าง ๆ ต้องพิจารณาเสียก่อนถึงถูก เราเป็นพ่อบ้านพ่อเมืองต้องเป็นที่ไว้ใจ เช่น ลูกต้องตายใจกับพ่อแม่ตลอดไป เป็นอย่างนั้นนะ นี่รัฐบาลเหมือนพ่อแม่ของประชาชน แล้วพูดต้มสุ่มสี่สุ่มห้าไปอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ ผิด

ให้เป็นที่แน่นอน หากว่ามีความจำเป็นอะไรก็ต้องตั้งข้อแม้แนบมาด้วย ถ้าไม่มีความจำเป็นอย่างนี้แล้วจะให้อย่างนั้น หากความจำเป็นถ้ามีก็อาจจะมีจากนั้น ๆ ต้องมีข้อแม้ออกมา อันนี้สั่งปึ๋งมาเลยจะให้เท่านั้น ๆ แล้วขาดไปเท่านั้นเลยเทียวนะ นี่ละปีนั้นเราใช้หนี้โรงพยาบาลไม่ใช่น้อย ๆ นะ โห แห่งละเป็นล้านขึ้นไป ๆ ทั้งนั้น ติดหนี้เขา คือทางรัฐบาลไม่มีเงินงบประมาณมาให้ ทั้ง ๆ ที่จะให้เท่านั้น เขาก็มาซื้อหยูกยาอะไร ๆ มาในวงเงินจำนวนเท่านั้น เวลาซื้อมาแล้วรัฐบาลบอกมาทีหลังว่า เงินไม่ได้ให้แล้ว ก็ติดหนี้ล่ะซี โรงพยาบาลต่าง ๆ แถวนี้วิ่งมาหาเรา หนี้ร่วมล้าน ๆ และล้านกว่า ๆ มีเยอะนะ ติดหนี้เขา

พูดแล้วเราโมโห พูดไม่มีการรับรองคำพูด ไม่มีเหตุผล อย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ พูดออกมาลอย ๆ ไม่ถูก พ่อบ้านพ่อเมืองเป็นที่ตายใจของประชาชน หากว่าจะมีแยกมีแยะก็ให้มีข้อแม้แนบมา เว้นแต่อย่างนั้น ๆ บอกสั่งตูมมาเลยนี้ ถ้าขาดก็ขาดตูมไปเลยใช้ไม่ได้นะ ถ้ามันสุดวิสัยจริง ๆ ก็ไม่ว่า แต่อันนี้ไม่น่าจะสุดวิสัยดังที่ว่าจะให้เงินเหล่านี้แล้วไม่ให้ ติดหนี้พะรุงพะรังปีนั้น เราตามใช้หนี้ให้เขาแหลกไปหมดเลย คือเขามาขอนี่ซิ เขาไม่มีทางไป เราก็ต้องตามใช้หนี้ให้ ๒ ปีผ่านมาแล้วมั้งที่โรงพยาบาลติดหนี้สินพะรุงพะรัง เราต้องใช้ให้ ๆ เยอะนะ

ผู้ใหญ่พูดต้องมีหลักมีเกณฑ์ในการพูด ผู้ใหญ่พูดคำหนึ่งนี้ผู้น้อยทั่วแผ่นดินฟังกันหมด สำคัญตรงนั้นนะ เช่นอย่างวงรัฐบาลพูดออกมาคำไหน ต้องกลั่นกรองเรียบร้อยแล้ว แล้วพูดออกมา ประหนึ่งว่าเป็นคำยืนยันรับรองในสิ่งที่ประกาศหรือพูดออกมาในนั้นเสร็จถึงถูก พูดแบบลอย ๆ ใช้ไม่ได้นะ ผู้ใหญ่ต้องมีหลักมีเกณฑ์ในการพูด พูดลอย ๆ เหมือนเด็กไม่ได้ เด็กเขาไม่ถือสา เด็กพูดอะไรออกไปไม่เสียหาย ผู้ใหญ่นี้ทั้งถือกันด้วย ทั้งเสียหายด้วย จึงต้องเป็นข้อรับรองยืนยันในคำพูดของตัวแต่ละประโยคแบบลึกลับอยู่ภายในใจ เป็นความจริงออกมาจากใจ ๆ ถึงถูกต้องนะ

พูดแบบลอย ๆ ดังที่เขาพูดมาได้ ๒ ปีมานี้เราไม่ได้ลืมนะ ที่ว่ารัฐบาลจะหาทองคำให้ได้ ๒๐๐ ตัน ประกาศป้าง ๆ จากวงรัฐบาลเราลืมเมื่อไร จะให้ได้ ๒๐๐ ตัน แล้วได้ที่ไหนบ้าง ในกรุงเทพเป็นที่หนึ่งใช่ไหมล่ะ ที่นั่นที่นี่ พวกร้านทอง ๆ จะให้ได้ทองคำ ๒๐๐ ตัน ประกาศป้าง ๆ มาอย่างนี้ มันปากใครพูดอย่างนี้น่ะ เราอยากว่าอย่างนั้นนะ ปากคนจะพูดอย่างนั้นไม่ได้ ต้องมีข้อแม้หรือมีเหตุผลต้นปลายออกมาว่า ทองคำที่จะได้ ๒๐๐ ตันนี้ จะได้มาเพราะเหตุผลกลไกอะไร ต้องบอกมาอย่างนั้น อันนี้อยู่ ๆ จะได้ทองคำมา ๒๐๐ ตัน จนกระทั่งป่านนี้กิโลเดียวยังไม่เคยเห็นได้เลย เป็นยังไงแหลกไหม ชั่วขนาดไหนคำพูดเช่นนี้ คำพูดออกมาจากวงรัฐบาล เสียหายขนาดไหนฟังซิน่ะ

แล้วจะให้พี่น้องชาวไทยและคนทั้งชาติไว้ใจกันได้ยังไง เมื่อคำพูดออกมานี้เป็นการพูดโกหกคนทั้งประเทศเลย แล้วคำพูดประโยคต่อไปไม่โกหกมันจะเอาอะไรมาพูด มันเคยโกหกมันต้องโกหก เคยต้มต้องต้มตลอดไปคนประเภทนี้น่ะ คำพูดประเภทนี้ ต้องคิดอย่างนั้นซิ ได้ยินทั่วกันไปหมด ก็ประกาศออกมาจากวงราชการใครจะไม่ได้ยิน นอกจากคนหูหนวก ถ้าหากว่าคนหูหนวกเขาอาจจะมากระซิบ สมมุติหยิกเอาบ้าง มากระซิบ เพราะคนนี้มันหูหนวก กระซิบว่ายังไง นี่แม่อีหนูวันนี้ฉันจะไปหาอีหนูนะ กระซิบ ทางนี้ก็จะตีปัวะเลยใช่ไหม ก็มันคนนี่

พูดไม่รับผิดชอบในคำพูดของตัวเองไม่ควรว่างี้เลย เพราะเป็นหัวใจของชาติรัฐบาล เช่นอย่างศาสนาก็เป็นหัวใจของประชาชนผู้นับถือศาสนานั้น ๆ มีข้อยืนยัน อย่างพระพุทธเจ้าแสดงธรรมสอนโลก เป็นสวากขาตธรรมมาตลอด ตรัสไว้ชอบ ๆ ชอบทุกอย่าง เป็นข้อยืนยันรับรองความจริงไว้ตลอดสายมาเลย อย่างพวกเราวงรัฐบาลพูดอะไรออกมา ควรจะมีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์มีข้อยืนยันรับรองไปในตัว ๆ ถึงจะถูก

อย่างที่พูดนี้ใครฟังไม่ได้ เราเองก็หูคนเหมือนกัน หูพระด้วย..เรา ก็ได้ยินเขามาพูดอย่างนั้น ประกาศป้าง ๆ มาว่า เบาใจละพวกเรา อันนี้ประชาชนเบาใจกันทั่วประเทศนะ เขาจะได้ทองคำ ๒๐๐ ตัน โอ้ ดีแล้วบ้านเมืองเรากำลังจะล่มจะจมนี้ ทางรัฐบาลประกาศออกมาว่า จะหาทองคำมาให้ได้ ๒๐๐ ตัน หลวงตาบัวก็พลอยยินดีด้วย เบาแหละก็ว่างั้น เพราะตอนนี้เรากำลังช่วย เริ่มช่วยโลกอยู่ ช่วยชาติอยู่เวลานั้น ทองคำเราหาแทบล้มแทบตายทองคำยังไม่ได้กี่กิโล ทางนั้นฟาดมาแล้ว ๒๐๐ ตัน เราก็ว่า โอ้ ดีละ ๆ จนกระทั่งป่านนี้ยังไม่เห็นตกมากิโลนึง พวกที่หาทองคำคนละบาทสองบาทมาเวลานี้ได้ ๒ ตันกว่าแล้วนะ เป็นยังไง พูดเป็นยังไงฟังซิน่ะ

ประชาชนเขาหยิบโน้นหยิบนี้ช่วยกันทั้งประเทศ เวลานี้ได้ทองคำมาตั้ง ๒ ตัน กับร้อยกว่า ๆ กิโลแล้ว เขาหาหยิบจากนั้นจากนี้ คนทั้งประเทศคนละเล็กละน้อย ฝนตกทีละหยดละหยาด ฟาดมาตั้ง ๒ ตันกว่า ไอ้มาตูมเดียว ๒๐๐ ตันนี้จนกระทั่งป่านนี้ไม่เห็นสักกิโลเลย มันเป็นยังไงคำพูดอันนี้น่ะพิจารณาซิ มันออกมาจากไหน จากวงรัฐบาล ทำไมจึงมาพูดอย่างนี้ได้ ถ้าไม่ใช่เป็นนักต้มตุ๋นดั้งเดิมมาแล้ว แล้วก็มาต้มตุ๋นประชาชนให้เห็นอย่างนี้ แล้วยังจะต้มตุ๋นไปอีกตลอดนะ แหลกนะ คำพูดเช่นนี้ไว้ใจไม่ได้

ลูกเต้าไม่เชื่อพ่อเชื่อแม่เชื่อใคร แม้แต่ในวัดนี้ก็ต้องเชื่อหัวหน้าวัด เช่นเจ้าอาวาส แล้วในชาติไทยของเราก็ต้องเอาวงรัฐบาลเป็นจุดศูนย์กลาง ที่เป็นที่เชื่อถือและตายใจของประชาชน เหตุใดวงรัฐบาลจะมาเป็นอย่างนี้ เรายกตัวอย่างขึ้นมาอย่างนี้นะ มันใช้ได้ไหมล่ะพูดอย่างนี้ เคยมีเมื่อไร ก็มามีในเมืองไทยเรานี้ ได้ยินในเมืองไทยเรานี้ พูดอะไรให้มีข้อยืนยันรับรอง นี่ว่าจะให้เงินงบประมาณเขาโรงพยาบาลนั้นเท่านั้น ๆ จะซื้อของหยูกยาอะไรก็ให้ซื้อได้ในวงเงินจำนวนนั้น เขาก็ซื้ออย่างว่าล่ะซี ซื้อมาแล้วปึ๋งปั๋งติดประกาศมา ไม่มีเงินให้ สุดท้ายเขาไม่มีที่เกาะที่ยึดเขาก็ต้องวิ่งมาหาวัด โหย เราต้องไปใช้หนี้ให้เขาน้อยเมื่อไร เมื่อมีเหตุผลที่ควรจะพูดเราก็พูดให้ฟัง เราไม่ได้สร้างผลประโยชน์ให้แก่โลกเพื่อทวงหนี้นะ เราไม่ได้ทวง สิ่งที่มาเกี่ยวข้องสัมผัสขัดแย้งกันเราก็ต้องพูดกันเป็นธรรมดา ว่าพูดอะไรต้องมีข้อยืนยันความหมายว่างั้น อย่าต้มอย่าตุ๋นกันอย่างนี้ มันผิด

นี่พูดจริง ๆ นะ ลงได้ออกคำไหน เอ้าขึ้นเวทีเลยว่างั้นนะ เพราะฉะนั้นถึงได้เตือนทางหนังสือพิมพ์เสมอ บางทีก็ดุเอาบ้าง ไปออกเพิ่มเติมทั้งส่งเสริมทั้งเหยียบย่ำก็ตามนะ ถ้าเลยหลักความจริงไม่ใช่ของจริง ของจริงมีเท่าไรขึ้นเลย เช่นอย่างเราพูดนี้เราพูดถอดออกมาจากความจริง ขึ้นเวทีได้เลย คำพูดของเราคำไหนที่ออกมาแล้วให้ขึ้นเวทีได้เลย ผิดเรายอมรับว่าผิดทันที ถูกก็บอกว่าถูก ไม่ได้หลบได้เลี่ยงไปไหน ถึงว่าตายใจได้ซิสัตว์โลก ธรรมเป็นอย่างนั้นนะธรรม

ไม่สุ่มสี่สุ่มห้า พูดปาว ๆ พูดสุ่มสี่สุ่มห้า พูดหวานหูหลอกต้มตุ๋นคนใช้ไม่ได้นะอย่าให้มี ถ้าในวงรัฐบาล อย่าให้มีรัฐบาลประเภทนี้อยู่ในเมืองไทยเป็นอันขาด หาต้มตุ๋นประจบประแจง เลียแข้งเลียขาประชาชน สุดท้ายก็ไปคว้าเอาตับเอาปอดเขามากินมากลืนจนหมด ประชาชนตับปอดหมดแล้วเจ้าของยังไม่ตาย กระเสือกกระสนกระวนกระวายดิ้นรนกัน เพราะความอดอยากขาดแคลน ไม่มีอะไรจะกิน เพราะปากท้องยังมี ตับปอดไปหมดแล้ว อย่างนี้อย่าให้ได้ยินนะ ผิด พูดอะไรออกมาต้องเป็นความสัตย์ความจริง

หัวใจของประชาชนในประเทศไทยเรา จะหมายเอาที่ไหนเป็นหัวใจ ก็ต้องถือเอารัฐบาลเป็นหัวใจของประชาชน รัฐบาลมาเป็นมหาภัย มาเป็นตัวต้มตุ๋นแหลกเหลว เป็นมหาโจรเสียเองแล้วชาติไทยนี้จะตั้งอยู่ไม่ได้นะ แล้วก็เป็นความเข็ดหลาบว่าไม่ควรที่จะมีรัฐบาลตั้งขึ้นมาเหยียบหัวเมืองไทยอีกต่อไป แล้วกินตับกินปอดกันอีกต่อไป ถ้าเป็นรัฐบาลประเภทนี้นะ รัฐบาลต้องเป็นที่ตายใจ ใครตั้งขึ้นมาก็เพื่อเป็นผู้นำของพี่น้องชาวไทยเรา เขาอุตส่าห์พยายาม แล้วยังมีกฎหมายบังคับไว้ด้วยให้ไปหย่อนบกหย่อนบัตร ครั้นบังคับแล้วบทที่มันจะต้มตุ๋นไม่ได้เห็นมีกฎหมายมาบังคับ เวลาข้าได้เป็นนั้น ข้าได้เข้าส้วมเข้าถานแล้ว ข้าจะฟาดหมดทั้งขี้ทั้งตดกินหมดเหรอ ว่าอย่างนั้น ขี้พวกเธออยู่ในท้องของเธอให้ระวัง เดี๋ยวฉันจะกินหมดนะขี้ของเธอ ต้องเป็นอย่างนั้นซิ พูดยันเข้าไปซิ ต้องตายใจซิ

ตั้งขึ้นมาแล้วมาหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชน มิหนำซ้ำยังจะกอบโกยเอาสมบัติของชาติไปกลืนไปกินหมด มีอย่างเหรอว่างั้นเลย ไม่เคยมีในแดนมนุษย์ชาวพุทธของเรา อย่าให้มีในเมืองไทยเป็นอันขาด รัฐบาลไหนขืนมีขึ้นมาเขี่ยมันลงทะเล นี้เป็นให้อภัยนะ ถ้าจะให้เต็มยศเขี่ยลงทะเลแล้วประกาศป้าง ๆ ปลาฉลามมีเท่าไร ทั้งโคตรทั้งแซ่มากินโคตรแซ่ประเภทนี้ ประเภทต้มตุ๋นชาติไทยของเรานี่ จะประกาศอย่างนั้นอีก ให้ปลาฉลามมันรู้อีกทีนึง นี่เพียงให้อภัย เขี่ยลงทะเลเฉย ๆ ไม่ได้ประกาศปลาฉลาม มันจะไปไหนช่างโคตรมันเถอะคนประเภทโลกไม่ปรารถนา อย่าให้มีในเมืองไทย

เอา ตั้งรัฐบาลไหนขึ้นมาให้เป็นที่ตายใจของประชาชนซิ ทุกข์ให้ทุกข์ด้วยกันกับประชาชน รัฐบาลกับประชาชนก็เหมือนพ่อแม่กับลูก พ่อแม่จนลูกก็จนให้เป็นไปตามกัน มีมามากน้อยเฉลี่ยเผื่อแผ่กินให้ได้ทุกปากทุกท้องกันไปถึงถูก ธรรมดาของพ่อแม่กับลูก รัฐบาลกับประชาชนก็เหมือนกันอย่างนั้น จะมากินสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างที่เคยเห็นเป็นมาอย่างนี้ดูไม่ได้ฟังไม่ได้ รัฐบาลไหนก็ตามตั้งขึ้นมาอย่าให้มีอย่างนี้เป็นอันขาดในชาติไทยของเรา แหมพวกชาติไทยเหมือนกับหมาตัวหนึ่ง พวกนี้ขึ้นมาขี่คอ ๆ กินไปเลย ใช้ไม่ได้นะ ดูไม่ได้เลย

ประเทศอื่นเขาดูถูกเหยียดหยามมาสักเท่าไรแล้ว ว่าเมืองไทยของเราเป็นเมืองประเภทใด เป็นเมืองยักษ์เมืองผีกินลูกของตัว พวกสัตว์ทั้งหลายเขาไม่เคยกินลูก เราเคยเห็นไหม สัตว์ประเภทต่าง ๆ เขาเคยกินลูกเขาไหม มีแต่เขาหาเหยื่อหาอาหารมาป้อนลูกเขาจนใหญ่โตขึ้นเป็นสัตว์ ๆ สัตว์ประเภทไหนพ่อแม่เขาเลี้ยงกันอย่างนั้นนะ ทำไมพ่อแม่ประเทศไทยจะมากินลูกของตัวเองในคนทั้งชาติไทยมีอย่างเหรอ อย่าให้มีเป็นอันขาดนะเรื่องอย่างนี้น่ะ

ตั้งขึ้นมาที่ไหนก็มากินลูกของตัวเอง ๆ จนจะไม่มีคนไทยเหลือแล้วนะเวลานี้ เพราะพ่อแม่กลืนกินตับกินปอดลูกของตัวเองไม่มีเหลือ เป็นอาหารเลี้ยงโต๊ะกัน ๆ อย่าให้มีในเมืองไทยเรานะ รัฐบาลไหนจะตั้งขึ้นมาหูตาให้มีทุกคน ประชาชนที่จะไปวางบัตรวางเบอร์ให้ คนไหนที่ควรจะวางให้ค่อยวาง นี่ละหลักธรรมเป็นอย่างนี้ อย่าวางสุ่มสี่สุ่มห้าอย่าปล่อยสุ่มสี่สุ่มห้า แล้วมันมากินตับกินปอดประชาชนนั่นละ ต้องเอาให้จริงจังซิ เขาก็คนเราก็คนจะเป็นอะไร

มันฟังไม่ได้นะ ทางศาสนาฟัง นี้เราพูดจริง ๆ เราที่ช่วยชาติบ้านเมืองนี้เราก็เลอะเทอะไปตาม ๆ กันหมด มันต่อต้านศาสนา ทำลายศาสนาไปในตัว ๆ ทุกอย่างเห็นประจักษ์ เราเป็นผู้นำเอง เราเป็นผู้คัดค้านต้านทานสิ่งที่เป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองและศาสนาเสียเอง ทำไมเราจะนำมาพูดไม่ได้วะ เห็นกันอยู่จัง ๆ อย่างนี้โกหกกันได้เหรอ เรื่องราวมันเป็นยังไงตั้งแต่เรานำออกมา นี่ละเอาศาสนามานำมันเป็นอย่างนี้ มันกลัวบาปกลัวบุญที่ไหน มันไม่มีบาปมีบุญพวกสัตว์ประเภทนี้ สัตว์เศษมนุษย์ไม่มีบาปมีบุญ ถ้าเป็นมนุษย์เราแล้วก็จะมีบาปมีบุญติดตัวบ้าง รู้จักผิดจักถูกดีชั่วยอมรับกันเป็นพัก ๆ ตอน ๆ ไปตามเหตุผลที่อำนวยอย่างนั้นถึงถูก

นี้มีแต่จะดันทุรังจะเอาท่าเดียวจะกินท่าเดียวจะกลืนท่าเดียว จับไม้จับมือจับคอกันมัดกันเข้าเป็นพวงเหมือนพวงปลา มัดคอนี้คือมัดคอเป็นกำลังจะกลืนชาติบ้านเมือง อย่าให้มีนะประเทศไทยเรา รัฐบาลประเภทนี้อย่าให้มีเป็นอันขาด ถ้าอยากให้ชาติไทยของเราตั้งอยู่แน่นหนาถาวร เป็นคนชาติไทยต่อไปให้คัดให้เลือกทุกคน ไม่ควรจะเอามาปัดหัวมันลงทะเลเลย อย่าเอามาเป็นเสนียดจัญไรต่อบ้านต่อเมืองของเรา ให้หาแต่คนที่ดี

เอ้า รัฐบาลจน เอ้าจนไป เมื่อประชาชนจนรัฐบาลต้องจน พ่อแม่กับลูกแยกกันไม่ออก อย่างนี้ถึงถูกในหลักของรัฐบาลนะ มันไม่มีอะไรเลยจะได้ขอทานกินกับประชาชนญาติโยม เพราะรัฐบาลนี้สละชีวิตสละชีพเพื่อประชาชนแล้วจนไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว มาบอกหลวงตาบัว หลวงตาบัวจะให้เลย ถ้ามีห้าจะให้สิบเลย ถ้าเป็นเงินบาทก็ดี ถ้าเป็นรัฐบาลประเภทนั้นนะ ถ้ารัฐบาลรัฐแบ้นเหล่านี้ เอามากลืนกินอย่างนี้ มีเท่าไรฟาดหัวมันเลย เราไม่ได้ให้มันละ เอาไปฟาดหัวมันเลย นี่เงินกูจะฟาดหัวมึงกูไม่ให้มึงนะ ก็จะว่างั้น รัฐบาลแบบนี้อย่าให้มีในเมืองไทยนะ ขอให้พากันพินิจพิจารณา

เราเป็นชาติไทยทุกคน หัวใจมีทุกคน รัฐบาลก็คือคน เราก็คือคน ประชาชนยอมรับตั้งขึ้นมา ตั้งขึ้นมาแล้วมากลืนกินประชาชนอย่างนั้นใช้ไม่ได้ อย่ามาเอาอำนาจบาตรหลวงมาเหยียบหัวประชาชน ประชาชนไม่ใช่หมา หมามันก็มีเจ้าของ ลองไปหามันดูซิ มันเห่า ดีไม่ดีมันกัด เอ้า ใครอยากทดลองก็ไปทดลองกับไอ้ปุ๊กกี้เรา เดี๋ยวมันไล่กัดหาทางออกไม่ได้ ให้ไปปิดประตู อยากให้ไอ้ปุ๊กกี้มันไล่กัดพวกนี้ หลงทิศไปนะ แต่หมามันก็กัด มันหวงเจ้าของ หวงถิ่นของมัน ทำไมชาติไทยไม่หวงถิ่นของตัวเอง ไม่หวงคนชาติไทยด้วยกันมีอย่างเหรอ จะปล่อยให้ตับให้ปอดเลอะเทอะไปหมด ด้วยพวกยักษ์พวกผีมากลืนกินบ้านกินเมือง โดยประกาศลั่นว่าเป็นผู้นำ ผู้นำแบบไหนนั่นซิมันสำคัญตรงนี้ อย่าให้มี ทุกคนให้คัดเลือกให้ดีนะ จะเอาใครมาเป็นรัฐบาลก็ดี อย่าเอามาสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างที่เคยเป็นมานี้เห็นชัด ๆ

หลวงตาบัวนี้ลูกศิษย์มีทุกกระทรวง เพราะฉะนั้นถึงกล้าพูดได้เต็มปากเลย ใครจะว่าผิด เอ้า คอขาด-ขาดไปเลย เราเอาความจริงมาพูด แต่ก่อนมันก็เป็นมาอย่างนั้น ก็ไม่เห็นหนักมากนักพอที่จะออกปากออกเสียง พูดคัดค้านต้านทานกันดังปัจจุบันนี้ ปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราเดือดร้อนกันทั่วประเทศเห็นไหม คัดค้านต้านทาน ไอ้เสือใหญ่ยักษ์ใหญ่มันจะกินบ้านกินเมือง จะกินหมดนะ อะไร ๆ กินหมดจะไม่ให้มีเหลือ

เวลามันหยาบโลนมากมันก็ต้องต้านทานกัน ถ้ามากกว่านี้ดีไม่ดีอาจเกิดศึกในเมืองไทยเราก็ได้นี่นะ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองเจ้าของ ถ้ารบกับข้าศึกในเมืองของตัวเองรบไม่ได้ จะไปรบข้าศึกอะไรกับเมืองนอกเมืองนา ที่เขาจะมาโจมตีชาติไทยของเราให้ล่มจม ชาติไทยของเราจะต้องออกสู้กันทันทีเลย ทหาร ตำรวจ มีล้อมไปหมด นี่เพื่ออะไร เพื่อรักษาสมบัติและประชาชนของชาติบ้านเมืองของตน ใครจะรุกล้ำเข้ามาต้องฟัดกันเลย นี่โจรมหาโจรที่มันเกิดขึ้นในชาติบ้านเมืองของเรา ซึ่งเป็นชาติของเราแท้ ๆ เราจะนอนใจได้หรือ มันก็ต้องกำจัดปัดเป่ากันแบบเดียวกัน ย่อยเป็นย่อย ใหญ่เป็นใหญ่ ถ้าเป็นศึกระหว่างชาติต่อชาติก็ฟัดกันเลย ศึกระหว่างที่เรายกยอขึ้นว่า รัฐบาลเป็นพ่อบ้านพ่อเมืองแล้วกลายมาเป็นมหาโจร รัฐบาลกับประชาชนก็ต้องฟัดกันแน่ ๆ เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ เรื่องเป็นอย่างนี้ นี้คือความจริงเราเอามาพูดอย่างนี้นะ ขอให้พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้ทุกคน ให้ฝังใจทุกคน

อย่าทำเหลาะ ๆ แหละ ๆ อย่าเป็นเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง โบกออกไป เต่ามีหัวมันก็ออก เราก็มีหัวเหมือนกันออกซิ เพื่อชาติไทยของเราได้เป็นปึกแผ่นมั่นคงต่อไป จะเป็นคนชาติไทยที่สมบูรณ์แบบต่อไป อย่าให้ชาวเมืองนอกเขาดูถูกเหยียดหยาม เวลานี้เขาชี้หน้าพอแล้วนะ ชาติไทยของเรานี้ เป็นยังไงเขาถึงชี้หน้า แปลเอา อันนี้อย่าให้เราแปลเลย เลวที่สุดแล้วว่างั้นเถอะน่ะ เขาถึงได้ชี้หน้า เขาชี้หน้าตัววงใหญ่นั่นนะ มากินบ้านกินเมือง กินทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีสติปัญญาหาอยู่หากิน เอาจากเมืองนอกเอามาสั่งสมให้เมืองไทยเราเป็นปึกแผ่นมั่นคง มิหนำซ้ำกลับมากินตับกินปอดแห่งชาติไทยของเรา รัฐบาลเหล่านี้บัดซบ เขาชี้มือออกมาแล้วนะ ได้ยินอยู่แล้วทั่ว ๆ ไป อย่าให้ได้ยินต่อไป ให้เข้มงวดกวดขันทุกคนในการรักษาชาติบ้านเมืองของเรา อย่าอ่อนแอนะ สิ่งใดไม่ควรอ่อนแออย่าอ่อนแอนะ เข้าใจ เอาละเทศน์เท่านั้นละวันนี้

อ้าว มาจากไหนอีก พระ พะรุงพะรัง เอาวางตรงนั้นแหละ วางตรงนั้นแหละ มาจากไหน เท่านั้นแหละไม่พูดมาก เราจะอ่าน อ่านเสียก่อน คณะวัดป่าหนองแสง ต.นาคูนใหม่ อ.นาหว้า จ.นครพนม เงินบาทได้ ๓,๓๓๗ บาท มาถวายเป็นผ้าป่า เอาละ พอใจ เอาไป ๆ ได้ทีนี้ พูดเท่านั้นแหละ ไม่พูดมาก เอาละ พอใจแล้ว ใครอยากให้พอใจอีก เอามาอีก เราจะพอใจอีก ไป.. เท่านั้นแหละ อะไรนี่ จะให้หลวงตาพอใจหรือ เอามา มีเท่าไรพอใจหมดแหละ (ยายฝากมาถวาย ๒๐ เหรียญฮ่องกงเจ้าค่ะ..เสียงเด็กกราบเรียน) เออ ยาย.. แล้วตาล่ะ ไม่ฝากมาเหรอ (เสียงหัวเราะ) มีแต่ยายเหรอ เออเอาละ ยายก็เอา ไปกระซิบตาด้วยนะ (ลูกศิษย์: ตามาแล้วครับ ชื่อตามาแล้วครับ) คนนี้ชื่อตา นั้นตายายต่างหากนะนั่น

เออ อันนี้ก็ ๕๐๐ ห้าร้อย อันนี้ ๕๐๐ คุณสันติ วัฒนลี และครอบครัว ๕๐๐ ดวงใจ ฉัตรเพชร หรืออะไร นี่ก็ ๕๐๐ รวมกันแล้วเป็นหนึ่งพัน อนุโมทนานะ (ลูกศิษย์: ผู้มีจิตศรัทธาเขาร่วมกัน ถวายม้วนเทปเปล่า ๑๙ ลัง) หือ อะไร ? (เทปเปล่า ๑๙ ลังครับ) เทปเปล่า โห.. ได้มากมาย ๑๙ ลัง เยอะ นี่อะไรนี่ .. นี่ก็ร้อยดอลล์เหมือนกันนะ ไม่ใช่เล่นนะ นี่ร้อยดอลล์ นี่ร้อยดอลล์ เป็นสองร้อยดอลล์แล้ววันนี้นะ

ทองคำ ๑ กิโล ได้ทองคำ ๑ กิโล กับ ดอลลาร์ ๒๐๐ ดอลล์แล้ว พอใจ หลวงตาพอใจ (หัวเราะ) (หลวงตาเจ้าขา หนูกราบลาไปกรุงเทพฯ ๓-๔ วันเจ้าค่ะ) ๓ วันก็ไป ๔ วันก็ไป แต่กี่วันก็ตาม เวลามา ให้ได้ดอลลาร์มาฝาก ถ้าไม่ได้ดอลลาร์มาฝาก ไปวันเดียวก็ไม่เห็นด้วยเลย เข้าใจไหม เอาละไป นั่นมาอีกแล้วนั่น มาจากไหนนั่น (ลูกศิษย์: มาจากหน้าวัดเจ้าค่ะหลวงตา) หือ.. (ตั้งไว้หน้าศาลานี่ครับ) เออนี่ได้บริจาคที่หน้าศาลานี่ ไปใครออกไปหน้าศาลาอีก บริจาคเข้ามาอีกไป (หัวเราะ) หน้าศาลาก็ได้ต้นหนึ่ง

เออ..(พระที่นั่งอยู่ข้างหน้าหลวงตา) กราบได้ ไม่ต้องกราบอีก ออกไปเลย ยุ่งกันเปล่า ๆ ไป.. บ้านนาคูนใหม่ ตำบลนาคูน อ.นาหว้า จ.นครพนม วัดป่านาคูน เหล่านี้เราเที่ยวหมดแล้วนี่ พูดมานี่ ผ่านไปหมดแหละ เราเที่ยวเก่งนะ ไปที่ไหนไปหมด ซอกแซกซิกแซ็ก เที่ยวกรรมฐาน นี่หมายถึงตอนเที่ยวกรรมฐาน ไปได้หมดทุกแง่ทุกมุม ไปที่ไหน ผ่านที่ไหน ใครมาพูดที่ไหนรู้หมด เพราะเราไปเที่ยวเสียมากต่อมาก ภูเขาลูกสกลนครต่อกาฬสินธุ์ถึงภูจ้อก้อ อ.หนองสูง ไปหมด ตั้งแต่วัดท่านวันไป ภูเหล็ก จากนี้ถึงภูจ้อก้อ ภูเขาลูกนี้เราเที่ยวแหลกหมดนะ เพราะอยู่รวมแล้ว สกลฯ ๘ ปี นครพนม ๕ ปี ๘ กับ ๕ เป็น ๑๓ ปี เที่ยวเหล่านี้แหลกหมด เพราะฉะนั้นถึงได้เห็นหมด เขาพูดที่ไหน ๆ เห็นทั้งนั้น ๆ ไปแล้วทั้งนั้น ๆ ไปเที่ยว เที่ยวกรรมฐาน

เวลาเที่ยวมันเที่ยวจริง ๆ นะ ระยะนี้ไปเที่ยวตามหมู่บ้าน ไม่ได้เที่ยวในป่าในเขาเหมือนแต่ก่อนนะ เดี๋ยวนี้เที่ยวตามหมู่บ้าน ไปหาเคาะเอาบ้านนั้น ทองคำ เคาะเอาบ้านนี้ดอลลาร์ ไปหาเคาะเอาบ้านนั้นเงินสด เดี๋ยวนี้มันไปในบ้านไปอย่างนั้นนะ ไปหาเคาะเอาเงินเอาทองเขา ไปในป่าเคาะหาศีล หาธรรม ถ้ำไหนดี ป่าไหนดี ไปเที่ยวเคาะหมดแหละแต่ก่อนเคาะหาอรรถหาธรรม หามรรคผลนิพพาน เดี๋ยวนี้กลับมา เข้ามาในบ้าน มาเคาะเอาเงิน เคาะเอาทองคำ เคาะเอาดอลลาร์ เคาะเอาข้าวต้มขนม เดี๋ยวนี้มันเคาะต่างเคาะ เข้าใจไหม เคาะแต่ก่อนเคาะเป็นอรรถเป็นธรรม เดี๋ยวนี้เคาะมาเป็นเงินเป็นทอง เพื่อนำเข้าสู่คลังหลวงของเรา เพราะอย่างนั้น ใครจึงมายุ่มย่ามไม่ได้ ตีหน้าผากทันที หลวงตา เสร็จแล้วนะ เสร็จแล้วก็ให้พรละ….

แสดงความขอบคุณมาก และอนุโมทนาอย่างยิ่งกับ คุณฐาวรา นะ ช่วยหลวงตาเวลาจนตรอก นี่กำลังจนตรอกเวลานี้ เพราะงั้นไปโรงพยาบาลส่องดาวเมื่อวาน จึงไปขู่เขาก่อน คือไม่ให้เขาขออะไร คือกลัวเขาจะขอ ไม่มีอะไรให้เขา ต้องไปขู่เขาเสียก่อน อย่ามาขอนะ นี่เรามาให้แล้วนะ คือเอาของไปให้เขา นี่เรามาให้ อย่าขอเรานะ เราหนักมากจะตายแล้วนะ เขาก็ไม่ขออะไรแหละแต่ขู่ไว้ก่อนซี มันจนตรอก เวลานี้จนจริง ๆ หลวงตาพูดจริง ๆ นะ อย่างพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง อำนาจความเมตตา มีไม่มีมันมีแต่จะให้ท่าเดียว จะทำยังไง ไม่มีมันก็ยังอยากให้อยู่อย่างนั้น เอาจริงเอาจังมาก นี่พอดีมาปลดแอกปลดไถออกแล้วนี่ ออกจากบ่าได้เยอะนี่นะเป็นล้าน อันนี้ก็ทองคำนี่ก็เท่าไร เป็นแสน หือ ๑ กิโล มันเป็นเงินไทยกี่บาท (ลูกศิษย์: สามแสนหกหมื่นเจ้าค่ะ) โน่นนะ หนึ่งล้านสามแสนหก นั่น เมื่อเช้านี้

คุณฐาวรา: วันนี้ลูกจะไปซื้อที่ ที่วัดถ้ำเต่าค่ะ ๕๐ ไร่เจ้าค่ะ ๘ แสน

หลวงตา: ไปซื้อที่

คุณฐาวรา: ๕๐ ไร่เจ้าค่ะ ตอนนี้สมบูรณ์แล้วเจ้าคะ ไม่มีชาวบ้านเหลืออยู่เลยเจ้าค่ะ

หลวงตา: ออกแล้วเราไปอยู่แล้ว

คุณฐาวรา: เป็นของวัดหมดเลย ตอนแรกมีชาวบ้านอยู่เป็นหย่อม ๆ เจ้าค่ะ วันนี้จะไปซื้อ

หลวงตา: ซื้อหมดเลย ซื้อแล้วก็เอาไว้นั้นแหละ ที่สมบัติของวัด ดีแล้ว เป็นประโยชน์เป็นหัวใจของประชาชน วัดมีอยู่ที่ไหนชุ่มเย็น เพราะฉะนั้นเขาไปสร้างบ้านสร้างเรือนอยู่ที่ไหน จึงต้องสร้างวัดขึ้น ที่ชุ่มเย็นของประชาชนชาวพุทธเราอยู่ที่วัด เพราะฉะนั้นเขามาไล่พระ ให้หนีจากป่า ๆ พวกนี้พวกกลืนบ้านกลืนเมือง กินไม้ในป่าในเขา ไล่พระออก กลัวพระจะเห็นความสกปรกของตัวเอง ไล่ออก พอดีเขาก็มาหาเรา นายทหารโน่นนะมา นายพันโทอะไรมาที่นี่ มาบอกว่าจะไล่พระ คือไล่ไปหาเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค ท่านไล่ให้เขามาที่นี่ มาหาหลวงตา เออมาที่นี่ก็ดีละ มาก็ซัดกันเลย สุดท้าย ยอมรับทุกอย่าง

เราบอกชี้นิ้วเลย จ้างก็ไม่ไล่พระที่นี่นะ พวกนี้เป็นลูกชาวพุทธ เราชี้แจงเหตุผลเรื่องชาวพุทธให้ทราบแล้ว นี่เขาบอกว่า เขาจะไปไล่พระดงมูล แล้วทีนี้จ้างเขาก็ไม่ไล่ แต่เราบอกเขาแล้วว่า เรามีโอกาสเราจะไปดู เราก็จะไปดูจริง ๆ นั้นแหละ แต่เรื่องไปดูก็อย่างนั้นแหละ จะให้เขาไล่พระอีกไม่ไล่ ไปนั่นถึงได้เห็นเรื่องราว อ๋อ สนามไม้อยู่ในป่า ๆ กลางคืนขนไม้ออก ๆ กลางวันนี้เงียบเหมือนคนตาย พวกนี้นะ คือกลัวจะเห็นความทุจริตของเขา พระออกบิณฑบาตกลัวจะเห็นความสกปรกของเขา เพราะฉะนั้นจึงต้องไล่พระ อย่างนี้ใช้ไม่ได้ เราก็ชี้แจงเหตุผลให้ทราบ พวกนายทหารเป็นที่พอใจ แล้วจากนั้นมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ไม่เคยไล่เลย เห็นไหมล่ะ เราไปดู นี่แหละถึงได้ทราบชัด เอาความจริงออกมาพูดผิดไปไหนวะ

พอเข้าไปนี่พวกประชาชนเขากระซิบกระซาบๆ ๆ สนามไม้นี้ สนามไม้อย่างนั้น ๆ พอตกเย็นมานี้ รถจะหลั่งไหลมาขนไม้ออก ๆ กลางวันนี้เงียบอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเขาจึงมาไล่พระให้หนีจากนี้ กลัวจะมาเห็นความสกปรกของเขา แล้วพวกชาวบ้านต่อต้านกัน ถ้าหากว่าพวกนี้ยังจะเอาหนักกว่านั้นอีก เขาจะสู้กันเลยเพราะตอนนั้นมีคอมมิวนิสต์อยู่นี่นะ เขาจะเอามือที่สามแทรกเข้ามา หายิงเจ้าหน้าที่ละซิ เข้าใจไหมล่ะ เขาจะหาฆ่าเจ้าหน้าที่ละซิ พวกชาวบ้านมือลึกลับ ฆ่าไปแล้วเขาก็บอกว่า คอมมิวนิสต์ มือที่สาม ๆ ไปเลย เขาตามฆ่าเองแต่ก่อน เป็นอย่างนั้นนะ ส่วนมากป่าไม้มักเป็น เราไม่ได้หมายถึงทุกแห่งไป ป่าไม้ส่วนมากมักเป็นนะ คือเห็นแก่ได้ร่ำรวย พระไปอยู่ในป่า ป่ามันเป็นป่าไม้ เขาไปหาไม้ที่นั่น ถ้าพระอยู่ที่นั่นมันเป็นก้างขวางคอเขา เขาถึงไล่พระหนี โอ๊ย พูดแล้วเราสลดสังเวชนะ เอาละ ไปละ พูดไปนาน พวกนี้จะตกนรก ไม่พูดนาน มันจะตกนรก…

พระไปอยู่ที่ไหนมันชุ่มเย็น จึงบอกละซิ ไปสร้างบ้านสร้างเรือนที่ไหน ต้องสร้างวัดขึ้นเลย นั่นหัวใจของหมู่บ้านชาวพุทธเรา มิหนำซ้ำไปไล่พระออกจากวัด แหม..ฟังไม่ได้นะ ไปละทีนี้ เราจะไปธุระของเราก่อน โห ได้เงินเป็นล้านนะวันนี้ นี่ได้จากเทวดาเอกองค์นี้นะ ได้เงินเป็นล้าน..

อันนี้อ่าน ยังไม่ได้อ่านนะวันนี้ ลืมยังไม่ได้อ่าน เมื่อวานนี้ วันที่ ๑๕ ทองคำได้ ๒ บาท ดอลลาร์ได้ ๖๐ ดอลล์นะ เมื่อวานนี้นะ ทองคำที่จะมอบเข้าคลังหลวงนั้นได้พูดแล้วว่า ๔ พันกิโลในคราวช่วยชาติคราวนี้นะ ที่ทั้งมอบทั้งฝากไว้เวลานี้ ทองคำได้ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่งแล้ว และทองคำที่ได้หลังจากการมอบและฝากแล้วนั้นแต่ยังไม่ได้หลอมนั้น เป็นจำนวน ๕๔ กิโล ๔๓ บาท ๖๑ สตางค์ นี่ทองคำจำนวนนี้ยังไม่ได้หลอม กรุณาทราบตามนี้ ทองคำรวมทั้งหมดได้ ๒,๑๑๗ กิโล รวมทั้งหลอมแล้วและยังไม่หลอม ได้ทองคำ ๒,๑๑๗ กิโล ยังขาดอยู่อีก ๑,๘๘๓ กิโล จะครบจำนวน ๔,๐๐๐ กิโล กรุณาทราบไว้ตามนี้ วันนี้ก็อ่านให้ทราบทั่วถึงกัน เราได้เพียง ๒ ตันก็เอา เราไม่ได้ ๒ ร้อย ๓ ร้อยตันอย่างที่เขาโฆษณาอยู่นั่นนะ เราได้แค่นี้ เราอวดได้เลย ของเรามีตัวจริง เข้าใจไหม นั้น ๒ ร้อยตัน ไม่เห็นมีอะไรมาแม้กิโลเดียว มาอวดอะไร ประสาดินเหนียวติดหัว ว่าตัวมีอำนาจ ประกาศป้าง ๆ ออกมา ไม่ได้สังเกต ไม่ได้สำรวมลมปากของตัวเอง มันก็ขายตัวเองละซิ อย่างนั้น

หือ มาจากทางไหน (มาจากกรุงเทพฯเจ้าค่ะ) เมื่อกี้นี้ได้ฟังเทศน์หรือเปล่าละ (ได้ฟังนิดหนึ่ง เจ้าค่ะ) ได้ฟังนิดหนึ่งมันเป็นอย่างนั้นแหละ อย่างเมื่อเช้าวานซืนนั่นแหละ เขามาที่นี่เมื่อเช้าวานมั้ง เออเมื่อวานนี้เทศน์ พอเทศน์จบลงเรียบร้อยแล้ว เขามา เป็นอย่างไร ได้ฟังเทศน์หรือเปล่า? ได้ฟังนิดหนึ่ง เราก็เลยพูดออกท่าที่เขาไม่คิดกันนะ ได้ฟังเทศน์นิดหนึ่ง โอ๊ย เสียดาย เราว่างี้นะ คำว่าเสียดาย เขาต้องคิดว่า อยากให้ได้ฟังมากกว่านี้ เรากลับตรงกันข้ามนะ โอ๊ย เสียดาย ถ้าเราได้หนีไปกุฏิเสียก่อนค่อยมาก็ดี เห็นไหมล่ะ มันพลิกกันอย่างนั้นนะ เข้าใจไหม เสียดายน่าจะได้ฟังมากกว่านี้ ไม่เป็นอย่างงั้น เสียดายเราเลิกไปกุฏิเสียหมดแล้วค่อยมาก็ยังดี เราว่า นั่นมันไปอย่างนั้นนะ เอ้อ คำพูดมันเป็นอย่างนั้นแหละฟังเอา ไปละ นี่ก็เสียดาย นี่ก็ดี (หัวเราะ)

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก